วิเคราะห์ราคาทองคำ 4 ธ.ค.63(ภาคเช้า) by HGF

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองคำขึ้นต่อวันที่ 3 จากคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ

คืนนี้ 2 ทุ่มครึ่งติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,820-1,850ดอลลาร์

  • ราคาทองคำ Spot เมื่อวานปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เนื่องจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและความหวังการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ หลังจากที่นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา และนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้ร่วมกันผลักดันให้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบของไวรัสโควิด-19 วงเงิน 9.08 แสนล้านดอลลาร์นอกจากนี้สหรัฐเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ย.ลดลงสู่ระดับ 55.9 ซึ่งลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำ 1.46 ตัน
  • คืนนี้เวลา 20.30 น. สหรัฐจะประกาศการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 500,000 ตำแหน่ง หลังจากเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 638,000 ตำแหน่ง อัตราการว่างงานเดือนพ.ย. ตลาดคาดจะลดลงสู่ระดับ6.8% จาก 6.9% ในเดือนต.ค.
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,820-1,850ดอลลาร์ โดยตลาดรอติดตามความคืบหน้าการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ และการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนพ.ย.ที่จะประกาศในคืนนี้ โดยมีแนวรับ 1,820 ดอลลาร์ และแนวรับสำคัญ 1,800 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,850 ดอลลาร์ และ 1,875 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,840.70+10.201,820/1,8001,850/1,875

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
26,250+10026,000/25,75026,400/26,750

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
26,37026,150/25,88026,550/26,890

แนะนำเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาทองคำ Spot ปรับลงมาที่ 1,820 ดอลลาร์ (GF26,150 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,810 ดอลลาร์ (GF 26,000 บาท)

การลงทุนในทองแท่งเน้นลงทุนในระยะยาวและควรแบ่งเงินลงทุนในการทยอยซื้อสะสม แนะนำทยอยซื้อสะสมที่ราคาทองคำ Spot 1,800 ดอลลาร์และ 1,750-1,765 ดอลลาร์

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,840.80+3.101,820/1,8001,850/1,875

แนะนำเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาGOZ20ปรับลงมาที่ 1,820 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,810 ดอลลาร์

เงินบาท

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ย. ลดลงสู่ระดับ 55.9 ซึ่งลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. สำหรับUSD Futures เดือนธ.ค.63 คาดจะมีแนวรับที่ 30.10 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่30.25บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ:ดอลล์อ่อนเทียบสกุลเงินหลักหลังสหรัฐเผยข้อมูลศก.ซบเซา

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (3 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ย.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.44% แตะที่ 90.7169 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดบวก $10.9 รับดอลล์อ่อน,คาดแผนกระตุ้นศก.คืบหน้า

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่สามเมื่อคืนที่ผ่านมา (3 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์รวมทั้งความหวังที่ว่าสภาคองเกรสสหรัฐจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 10.9 ดอลลาร์หรือ 0.6% ปิดที่ 1,841.1 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 5.7 เซนต์หรือ 0.24% ปิดที่ 24.137 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันWTI ปิดบวก 36 เซนต์รับโอเปกพลัสคงนโยบายลดการผลิต

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (3 ธ.ค.) หลังจากที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสมีมติคงนโยบายลดการผลิตนอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 36 เซนต์หรือ 0.8% ปิดที่ 45.64 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 46 เซนต์หรือ 1% ปิดที่ 48.71 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศดาวโจนส์ปิดบวกเพียง 85.73 จุดวิตกไฟเซอร์ลดเป้าหมายจัดส่งวัคซีน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (3 ธ.ค.) ขณะที่ดัชนีNasdaq ปิดทำนิวไฮโดยได้แรงหนุนจากตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาดรวมทั้งความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐอย่างไรก็ดีภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลหลังจากบริษัทไฟเซอร์อิงค์ประกาศลดเป้าหมายการจัดส่งวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในปีนี้ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดราคาหุ้นไฟเซอร์ปิดตลาดร่วงลงกว่า 1.7%  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,969.52 จุดเพิ่มขึ้น 85.73 จุดหรือ +0.29% ขณะที่ดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,666.72 จุดลดลง 2.29 จุดหรือ -0.06% ส่วนดัชนีNasdaq ปิดที่ 12,377.18 จุดเพิ่มขึ้น 27.81 จุดหรือ +0.23%

Comments (0)
Add Comment