จับตาทิศทาง “ดอลลาร์-บอนด์-คริปโตฯ” หลังกดราคาทองคำร่วงหนัก ลุ้นให้ยืนเหนือ $1,840

ธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด

จับตาทิศทาง “ดอลลาร์-บอนด์-คริปโตฯ” หลังกดราคาทองคำร่วงหนัก ลุ้นให้ยืนเหนือ $1,840

ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำได้ทิ้งดิ่งลงมาอย่างหนัก จนลงมาแตะจุดต่ำสุดที่ 1,828 ดอลลาร์ หลังจากในช่วงต้นปีได้วิ่งมาทดสอบแนว 1,960 ดอลลาร์ แต่ไม่ผ่าน ก่อนถูกเทขายอย่างหนัก และมาปิดสัปดาห์ที่ 1,849 ดอลลาร์ ต่ำสุดตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธันวาคม 2563

จากสถิติที่ผ่านมาในช่วงเดือน มกราคม เกือบทุกปี ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นตลอดประกอบกับในปีนี้ มีปัจจัยบวกเข้ามาหนุนมาต่อเนื่อง และราคาทองคำได้ Breakout ผ่านแนวต้านต่าง ๆ โดยทำเหมือนว่าจะเป็นขาขึ้น ทำให้มีการเข้ามาซื้อเพื่อเก็งกำไรจำนวนมาก แต่หลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปีของสหรัฐฯ ได้ปรับขึ้นแรง และดัชนีดอลลาร์ได้แข็งค่าขึ้น รวมถึงราคาบิตคอยน์ได้พุ่งทำนิวไฮต่อเนื่อง ฉุดให้ราคาทองคำดิ่งลงแรง แม้ว่าตัวเลข NFP ที่ประกาศออกมาในศุกร์ที่ผ่านมาจะออกมาไม่ดี ซึ่งในช่วงปกติจะดึงราคาทองคำให้เพิ่มขึ้น แต่ในสัปดาห์นี้กลับช่วยพยุงราคาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

นายธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทอินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรดกล่าวกับ Gold Around.com

ทั้งนี้ ราคาปิดของสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ระดับ 1,849 ดอลลาร์ มองว่าเป็นจุดวัดใจ ทำให้นักลงทุนเกิดความลังเลว่าจะกำหนดกลยุทธ์ลงทุนอย่างไร ในความเห็นส่วนตัว แนะนำว่านักลงทุนที่พร้อมรับความเสี่ยงสูงได้ ให้เข้าซื้อที่แนว 1,840 ดอลลาร์ เพื่อรอดูว่าในวันจันทร์ราคาจะปิดเหนือ 1,840 ดอลลาร์ได้หรือไม่ หากราคายังร่วงต่อต้องคัทล็อตทิ้ง เพราะแนวรับหลักต่อไปจะเหลือเพียงแค่ 1,820 ดอลลาร์ จากนั้น คือ ระดับ 1,764 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดเมื่อวันที่ 30 พ.ย. และราคาทองคำจะเป็นชาแนลขาลง

แนวรับสำคัญราคาทองคำ gold spot

ในทางกลับกัน หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือ 1,840 ดอลลาร์ได้ นักลงทุนสามารถถือรอทำกำไรได้เลย โดยแนวต้านต่อไปจะอยู่ที่ระดับ 1,880 , 1,920 และ 1,960 ดอลลาร์ แต่ในกลุ่มนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ อยากให้รอทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาที่ชัดเจนกว่านี้

ส่วนปัจจัยที่จะทำราคาทองคำพุ่งไปต่อหลังจากนี้ กรรมการผู้จัดการบริษัทอินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด มองว่านอกเหนือจากปัจจัยทั่วไปที่มีการพูดถึงมาก่อนหน้านี้ ทั้งเรื่องของเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่จะสูงขึ้นจากการอัดฉีดเงินอีกก้อนใหญ่ หลัง “โจ ไบเดน” สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมทั้งเรื่องการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำของเฟดแล้ว ต้องดูว่าค่าเงินดอลลาร์จะจบรอบการปรับฐานเมื่อไร รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปีของสหรัฐฯ จะจบขาขึ้นเมื่อใด

ที่สำคัญอยากให้จับตามองตลาด “บิดคอยน์”หลังจากที่ผ่านมาได้พุ่งขึ้นสูงมาก และยังมีข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องว่าจะพุ่งสูงขึ้นอีก ดึงนักลงทุนรายย่อยได้เข้ามาตลาดนี้มากขึ้น ทำให้คาดการณ์ว่า อาจจะเกิดการปรับตัวลงแรงในอีกไม่นานนี้ ซึ่งจะทำให้เม็ดเงินไหลกลับมายังตลาดทองคำ และจะหนุนให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นได้

กรรมการผู้จัดการ บริษัทอินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัดกล่าว

โดย : Gold Around.com

Comments (0)
Add Comment