สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยกดดันภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำด้วย
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 1.4 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่ 1,741.6 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ หรือ 0.08% ปิดที่ 25.247 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 8.6 ดอลลาร์ หรือ 0.69% ปิดที่ 1,231.9 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 69.10 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 2,621.10 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการก่อนหน้านี้ โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการชะลอตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นๆ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.14% สู่ระดับ 92.4541 เมื่อคืนนี้
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลก นับเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้สัญญาทองคำถูกเทขายในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2564 สู่ระดับ 6% จากระดับ 5.5% และปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2565 สู่ระดับ 4.4% จากระดับ 4.2% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากโครงการฉีดวัคซีนในหลายประเทศทั่วโลก