หลังจากที่นักลงทุนทั่วโลกได้รอคอยการขึ้นของราคาทองคำกันมานับตั้งแต่ต้นปี แต่ก็ผิดหวังกันมาตาม ๆ กัน จนในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ราคาทองก็ได้ทำการทยานขึ้นทะลุโซน 1,800 ซึ่งเป็นแนวต้านทางจิตวิทยามาได้ ส่งผลให้ทั่วโลกกลับมาสนใจทองคำอีกครั้ง คำถาม คือ..
ราคาทองคำจะกลับไปสู่แนวโน้มขาขึ้นได้อีกครั้งเหมือนในช่วงปี 2019-2020 ได้อีกหรือไม่
ทาง ‘อินเตอร์โกลด์’ ขอสรุป 3 ปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้ราคาทองเด้งกลับไป 30,000 บาท ได้อีกครั้ง
ปัจจัยที่หนึ่ง การอัดเงินเข้าสู่ระบบอย่างมหาศาล ทั้งจากฝั่งการเงินและการคลังของสหรัฐฯ
อย่างที่เราทราบกันดี ว่าขณะนี้ทั่วโลกกำลังเผชิญวิกฤตโควิด-19 นอกจากปัญหาด้านสุขภาพที่ต้องห่วง สิ่งหนึ่งที่รัฐต้องทำควบคู่กันไปคือการประคับประคองเศรษฐกิจให้กลับมาอยู่ในสภาวะเดิมก่อนการเกิดวิกฤตโควิด
และวิธีที่สหรัฐฯ นิยมใช้และเป็นไพ่ตายมาตลอด คือ การปั้มเงินเข้าสู่ระบบผ่านทางธนาคารกลาง หรือ ที่เรารู้จักกันดี คือ การทำ QE การทำเช่นนี้ ไม่เพียงทำให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวอ่อนลง แถมยังเป็นการกระตุ้นเงินเฟ้อระยะยาวจากการที่เงินในระบบถูกเติมขึ้นมาในอัตราที่สูงกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจที่ควรจะเป็น
ประกอบกับทางฝั่ง โจไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ได้มีการอัดฉีดเงินเพิ่มเข้ามาอีก ผ่านโปรแกรมเยียวยาที่มีจำนวนถึง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งสองการอัดฉีดนี้ ส่งผลให้สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นการวิ่งนำเงินเฟ้อในอนาคตไปแล้ว
ถึงแม้ในช่วงที่ผ่านมาประเด็นเงินเฟ้อจะเป็นประเด็นที่พูดกันอยู่ตลอด แต่ไม่ถูกจัดเป็นสิ่งแรก ๆ ที่คนทั้งโลกห่วงกัน เพราะ ณ จังหวะนั้น คนคาดหวังเศรษฐกิจให้กลับมาเหมือนเดิมก่อน ส่วนเงินเฟ้อยังคงเป็นเรื่องรอง แต่ถ้าเมื่อใดเศรษฐกิจเริ่มกลับมาเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เมื่อนั้นทองคำก็จะกลับมาเป็นสินทรัพย์หนึ่งที่ทั่วโลกอยากจะครอบครอง
ปัจจัยที่สอง การขึ้นของสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ต่าง ๆ ทั่วโลก
จากตารางเป็นการเปรียบเทียบทองคำ ตั้งแต่เริ่มปี 2021 จนถึงปัจจุบัน ทองคำเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) อย่างเดียว ณ ตอนนี้ ที่ไม่สามารถปิดอยู่ในโซนบวกได้ และรั้งท้ายชาวบ้านสุด ทั้ง ๆ ที่สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) เป็นตัวชี้วัดหนึ่งที่สามารถบอกระดับเงินเฟ้อได้
ซึ่งการที่สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น มันก็ได้เป็นการชี้ให้เห็นแล้วว่า เงินเฟ้อได้มาแล้ว แต่ตัวทองคำเองที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวป้องกันเงินเฟ้อ หรือเอาไว้ต่อสู้กับเงินเฟ้อโดยเฉพาะ กลับไม่ปรับตัวขึ้นเลย แถมปรับตัวลงนำชาวบ้านไปด้วย
ด้วยเหตุนี้ หากทองคำกลายเป็นม้าตีนปลายขึ้นมาอีกครั้ง ก็สามารถวิ่งมาเท่าเพื่อน ๆ ได้ หากเป็นกรณีเช่นนั้น การที่เราจะได้เห็นทองกลับมาสู่ระดับ 1,900-2,000 เหรียญ หรือ ในช่วง 29,000-30,000 บาท นั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย
ปัจจัยที่สาม กราฟเทคนิค
หลังจากที่ราคาทองคำตั้งแต่ต้นปีปรับตัวลงมาต่อเนื่องตลอด 3 เดือน ทำให้ตลาดทองคำสั่นคลอน และเริ่มตั้งข้อสงสัยว่า ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจอยู่ไหม จนกระทั้งในปลายเดือน เมษายน ที่ผ่านมา ทองคำก็สามารถปิดเป็นสัญญาณบวกได้เป็นเดือนแรกในปีนี้ ( ดูกราฟราคาทองคำ )
ซึ่งตลาดหลังจากได้เห็นสัญญาณดังกล่าว ก็ส่งผลให้ราคาทองปรับตัวขึ้นทะลุ 1,800 ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญเชิงจิตวิทยา เพียงแค่เวลาอันสั้นในช่วงต้นเดือน พฤษภาคม ทำให้มุมมองขาลงตลอด 3 เดือน เริ่มอ่อนแรงลง และเริ่มปรับตัวเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นได้อย่างสมบูรณ์
ประกอบกับแพทเทิร์น Cup and handle หรือ ถ้วยกับหูถ้วย ซึ่งในสัญญาณราคาทองคำระดับใหญ่ ได้มีการฟอร์มตัวชัดขึ้น แพทเทิร์นนี้มีโอกาสเป็นตัวส่งให้ราคาทอง ทำจุดสูงสุดใหม่ได้ เหนือ 2,100 ซึ่งต้องมาจับตาดูการว่า ในเดือน พฤษภาคม หากราคาทองคำปิดบวกต่อ ในเดื่อนต่อ ๆ มาจะส่งต่อโมเมนตั้มขาขึ้นได้ต่อไปได้ไหม
โดย : เทรดเดอร์ อินเตอร์โกลด์