บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 31 ส.ค.64 by SCT, GT, GCAP, HGF, MTS, YLG, TDC

โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

คำแนะนำ   : ทองยังมีลุ้นรีบาวด์สั้นๆ แต่น่าจะแกว่ง SW ออกข้าง รอตัวเลข NFP วันศุกร์

แนวรับ 1809 / 1800/ 1790  แนวต้าน 1825/ 1830/ 1835
              Gold/silver           USD                       Baht        DOW (stock)
ระยะสั้น   SW/SW UP       SW DOWN               SW                SW  

ระยะกลาง  SW UP            SW DOWN               SW                SW UP
ระยะยาว BULLISH              Neutral            NEUTRAL         BULLISH
คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS   1800-1828
จุดเข้า BUY 1800-10
เป้าหมาย 1825-30
SL 1790รายสัปดาห์
คำแนะนำรายเดือน 1700-1850
จุดเข้า BUY 1780-90 เป้าหมาย 1830/ 1875
SL 1775   

บทวิเคราะห์ : ราคาทองไม่แรง แต่ยังแกว่งตัวเหนือ $1800 ได้ เมื่อวานตัวเลขบ้านมือสองสหรัฐฯแย่ลง แต่ทองก็ไม่ฉวยโอกาสทะยานขึ้นต่อทั้งๆ ที่ได้ข่าวเฟดหนุนหลัง คงเพราะนักลงทุนยังไม่ผลีผลาม ขอรอดูตัวเลขการผลิตและการจ้างงานสหรัฐฯ ในช่วงวันพุธถึงศุกร์นี้ / ภาพใหญ่ทองเป็นบวก แต่ระยะสั้นน่าจะแกว่งขึ้นๆ ลงๆ หรือผันผวนทั้งสัปดาห์ ตามตัวเลขที่ประกาศซึ่งมีทั้งบวกและลบกับทอง อย่างไรก็ตามทองยืน $1800 ได้ เรายังมองทางขึ้นต่อ แต่อาจค่อยเป็นค่อยไป โดยมีกำแพงหินที่ต้าน $1830-1835
กลยุทธ์ : ในสัปดาห์นี้เทรดสั้นตามสวิง แม้ว่าบาทจะแข็งแต่ก็ยังพอมีช่องกำไรได้บ้าง หรือจะทยอยสะสมซื้อช่วงย่อเพื่อถือยาว ส่วนค่าเงินบาทยังเป็นทรงแข็งค่าหรืออาจะสวิงไปมา รอการประชุมเฟดกลางเดือนกันยายน คาดว่าเฟดน่าจะผ่อนผันต่อไป เป็นบวกกับทองและบาทยังแข็งตามภูมิภาคต่อไป คืนนี้มีตัวเลขประกาศเช่นเดิม แนะถ้าขึ้นแรงให้ขายโซนสูงในวันนี้ แล้วค่อยรอลงมาซื้อใหม่

โดย : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

Fundamental

  • เยอรมันเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือน ส.ค. พุ่งขึ้น +3.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนสูงสุดในรอบ 13 ปี
  • พายุเฮอร์ริเคนไอดาที่พัดถล่มพื้นที่ขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ เริ่มอ่อนกำลังลงแล้ว
  • แต่ราคาน้ำมันดิบยังคงแกว่งทรงตัวอยู่ในระดับสูง เนื่องจากกำลังรอดูผลการประชุมปรับกำลังการผลิตภายในกลุ่ม OPEC และ non-OPEC

Technical

  • RSI อ่อนตัวลงมาก่อนจะเข้าเขต overbought ทำให้ราคาย่อลงมาพักบนเส้นแนวโน้มขาลงที่เพิ่งทะลุผ่านขึ้นมา จึงเป็นภาพบวกในระยะสั้นให้ขึ้นได้อีกครั้ง แต่ต้องระวังแรงขายหากขึ้นไปไม่เกิน 1,830 เพราะมี bearish divergence ซ้อนกันคอยกดดันอยู่
  • ราคาย่อลงมาใกล้เส้น MA แล้วมีแรงซื้อกลับ จึงมีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงใหม่ได้อีกครั้ง
  • ทิศทางวันนี้แกว่งขึ้น
  • จับจังหวะเล่นยังไง?ซื้อเล่นสั้น

Attention

เชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้ากำลังแพร่กระจายทั่วโลก และยังไม่มีวิธีหรือวัคซีนใดที่ป้องกันได้ผลชัดเจน

โดย : บริษัท จีแคป จำกัด

แนะแนวทางการลงทุน
แนวรับ 1,805 – 1,800 – 1,796
แนวต้าน 1,821 – 1,827 – 1,833
ราคาทองคำปิดลบ จากแรงขายทำกำไรระยะสั้น จากปัจจัยทางเทคนิคที่เกิดสัญญาณ Bearish Divergence แต่อย่างไรก็ตามราคาทองคำยังรักษาช่วงบวกไว้ได้ โดยยังคงปิดตลาดเหนือระดับ 1,800/Oz ได้ ทำให้แนวโน้มขาขึ้นระยะกลางยังไม่เสียการทรงตัว มองว่าราคามีโอกาสที่จะรีบาวน์ดีดตัวกลับขึ้นไปได้ แนะเก็งกำไรขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองคำช่วงเช้า
มุมมองทองคำภาคเช้า ทองคำปิดลบเนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำยังคงปิดเหนือเส้นสำคัญทางจิตวิทยาที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ทองคำยังได้ปัจจัยหนุนในระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนบางกลุ่มได้เข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย(pending home sales) ลดลง 1.8% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยดัชนีถูกกดดันจากสต็อกบ้านในระดับต่ำ ขณะที่ราคาบ้านพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านในเขต 20 เมืองใหญ่ ดัชนีราคาบ้าน FHFA ดัชนีจัดซื้อจัดจ้าง ชิคาโก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค การจ้างงานนอกภาคเกษตร ADP ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต ดัชนีภาคการผลิต ISM ค่าใช้จ่ายด้านก่อสร้าง ดุลการค้า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน ผลผลิตนอกภาคเกษตร คำสั่งซื้อโรงงาน การจ้างงานนอกภาคการเกาตร อัตราการว่างงาน รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงการทำงาน เป็นต้น

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ส.ค.) หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐร่วงหลุดจากระดับ 1.3% ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนและตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

กองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิม

คืนนี้สหรัฐจะประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค

ราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,800-1,823 ดอลลาร์

  • ราคาทองคำ Spot เมื่อวานปรับขึ้นในการซื้อขายช่วงกลางวัน เนื่องจากการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในการประชุมเฟดประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล แถลงว่าเฟดยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถึงแม้ว่าเฟดจะปรับลดวงเงินมาตรการ QE ในปีนี้ แต่ในช่วงกลางคืนมีแรงเทขายทองคำเนื่องจากเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น หลังจากอ่อนค่าต่ำที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวาน หลังจากขายทองคำ 9.89 ตันในสัปดาห์ผ่านมา
  • คืนนี้สหรัฐจะประกาศดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือนส.ค. ตลาดคาดจะลดลงเหลือ 68.0 จากระดับ 73.4 ในเดือนก.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.โดย Conference Board ตลาดคาดจะลดลงเหลือ 123.3 จากระดับ 129.1 ในเดือนก.ค.
  • แนวโน้มราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,800-1,823 ดอลลาร์ ทั้งนี้คาดราคาทองคำจะปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,833ดอลลาร์ได้ในระยะถัดไป  หลังจากสามารถทะลุผ่านแนวต้าน 1,810 ดอลลาร์ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันได้ ทองคำมีแนวต้าน 1,823 ดอลลาร์และ 1,833 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์และ 1,790 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,809.70-6.821,800/1,7901,823/1,833

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
27,900+10027,700/27,55028,050/28,150

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
27,970-6027,870/27,72028,210/28,340

การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำที่ราคาทองคำ Spot1,800ดอลลาร์ (GF27,870บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,790 ดอลลาร์(GF27,720บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,811.10-5.301,801/1,7911,824/1,831

การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำที่ราคา GOU211,801ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,791 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้แข็งค่าอย่างต่อเนื่องเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศดีขึ้นทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยมีแรงซื้อเงินดอลลาร์กลับเข้ามา หลังจากอ่อนค่าต่ำที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์ นักลงทุนรอติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐสำหรับ USD Futures เดือนก.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 32.40บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 32.60 บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนตามทิศทางบอนด์ยีลด์จับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (30 ส.ค.) หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐร่วงหลุดจากระดับ 1.3% ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนและตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค. ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.03% แตะที่ 92.6613 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดลบ $7.3 นลท.ขายทำกำไรหลังราคาพุ่งแรง

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (30 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์ที่แล้วอย่างไรก็ดีสัญญาทองคำยังคงปิดเหนือเส้นสำคัญทางจิตวิทยาที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์โดยได้แรงหนุนจากการที่นายเจอโรมพาวเวลประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 7.3 ดอลลาร์หรือ 0.4% ปิดที่ 1,812.2 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 10.4 เซนต์หรือ 0.43% ปิดที่ 24.006 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดบวกเพียง 47 เซนต์หลังพายุไอดาอ่อนกำลัง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนที่ผ่านมา (30 ส.ค.) หลังมีรายงานว่าพายุเฮอริเคนไอดาได้อ่อนกำลังลงแล้วนอกจากนี้สัญญาน้ำมันยังได้รับปัจจัยลบจากการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสจะตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมวันพุธนี้สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 47 เซนต์หรือ 0.68% ปิดที่ 69.21 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 71 เซนต์หรือ 0.98% ปิดที่ 73.41 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดลบ 55.96 จุดหลังหุ้นแบงก์ร่วง,Nasdaqทำนิวไฮรับแรงซื้อหุ้นเทคโนฯ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (30 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงานอย่างไรก็ดีดัชนีS&P500 และNasdaqปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับถ้อยแถลงของนายเจอโรมพาวเวลประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ยืนยันว่าเฟดจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,399.84 จุดลดลง 55.96 จุดหรือ -0.16% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,528.79 จุดเพิ่มขึ้น 19.42 จุดหรือ +0.43% ดัชนีNasdaqปิดที่ 15,265.89 จุดเพิ่มขึ้น 136.39 จุดหรือ +0.90%

สหรัฐสกัดขีปนาวุธที่ยิงใส่สนามบินคาบูลขณะเร่งอพยพประชาชนต่อเนื่อง

เจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยว่าระบบต่อต้านขีปนาวุธของสหรัฐสามารถยิงสกัดขีปนาวุธ 5 ลูกที่ยิงเข้าใส่สนามบินคาบูลในช่วงเช้าวันนี้ขณะที่สหรัฐเร่งถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถานให้เสร็จสิ้นเพื่อยุติสงครามที่ยาวนานที่สุดสำนักข่าวPajhwok ของอัฟกานิสถานรายงานว่าขีปนาวุธดังกล่าวถูกยิงออกมาจากฐานยิงที่ติดตั้งไว้หลังรถยนต์โดยพุ่งเข้าใส่หลายพื้นที่ในกรุงคาบูลกองทัพสหรัฐและพันธมิตรกำลังเร่งอพยพพลเมืองที่เหลือและชาวอัฟกานิสถานที่อยู่ในความเสี่ยงก่อนที่จะสิ้นสุดการอพยพภายในวันอังคารนี้เพื่อให้ทันกำหนดที่ตกลงกันไว้ระหว่างกลุ่มตาลีบันกับสหรัฐภารกิจดังกล่าวกลายเป็นเรื่องเร่งด่วนและอันตรายมากขึ้นหลังเกิดเหตุโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายของกลุ่มIS ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาซึ่งคร่าชีวิตบุคลากรกองทัพของสหรัฐไป 13 รายและพลเมืองชาวอัฟกานิสถานอีกจำนวนหนึ่งที่บริเวณนอกสนามบินสหรัฐและพันธมิตรได้อพยพประชาชนประมาณ 114,400 คนรวมถึงชาวต่างชาติและชาวอัฟกานิสถานที่อยู่ในความเสี่ยงในปฏิบัติการที่เริ่มต้นขึ้น 1 วันก่อนกลุ่มตาลีบันจะเข้ายึดกรุงคาบูลในวันที่ 15 ส.ค. แต่ชาวอัฟกานิสถานที่สิ้นหวังอีกหลายหมื่นคนอาจต้องถูกทิ้งไว้ข้างหลังเจ้าหน้าที่สหรัฐ 2 นายกล่าวว่าการอพยพจะดำเนินต่อไปในวันนี้โดยให้ความสำคัญกับประชาชนที่พิจารณาว่าอยู่ในความเสี่ยงสูงสุดก่อนขณะที่ประเทศอื่นๆก็รับคำร้องขอเร่งด่วนเพื่ออพยพประชาชนกลุ่มดังกล่าวด้วยเช่นกัน

ประธานเฟดฟิลาเดลเฟียคาดเฟดยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยก่อนปลายปี2565

นายแพทริกฮาร์เกอร์ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียกล่าวว่าเขาคาดว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนปลายปี2565หรือต้นปี2566  “ผมต้องการที่จะเห็นกระบวนการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) สิ้นสุดลงก่อนที่เราจะคิดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังนั้นเราจึงอาจยังไม่เห็นเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนปลายปี2565หรือต้นปี2566” นายฮาร์เกอร์กล่าวนอกจากนี้นายฮาร์เกอร์ยังกล่าวย้ำมุมมองของเขาว่าเฟดควรเริ่มกระบวนการปรับลดQE โดยเร็วดีกว่าที่จะล่าช้าออกไป

“พาวเวล” พูดชัดเล็งหั่นQE ก่อนสิ้นปีแต่เฟดยังไม่เร่งขึ้นดบ.

นายเจอโรมพาวเวลประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณในวันนี้ว่าเฟดมีแนวโน้มที่จะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ก่อนสิ้นปีนี้อย่างไรก็ดีนายพาวเวลระบุว่าการที่เฟดปรับลดQE ไม่ได้หมายความว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า    “เฟดมองว่ามีความเหมาะสมที่จะเริ่มการปรับลดQE ในปีนี้ขณะที่เศรษฐกิจมีความคืบหน้ามากขึ้นจากการรายงานตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งในเดือนก.ค. และเฟดจะทำการประเมินข้อมูลที่ได้รับอย่างระมัดระวังรวมทั้งความเสี่ยงที่เกิดขึ้นซึ่งรวมถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19สายพันธุ์เดลตา” นายพาวเวลกล่าวในการประชุมประจำปีของเฟดผ่านทางระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ทั้งนี้นายพาวเวลกล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้มาถึงจุดที่ไม่มีความจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากนโยบายเฟดอีกต่อไปซึ่งหมายความว่าเฟดมีแนวโน้มปรับลดวงเงินQE ก่อนสิ้นปีนี้ตราบใดที่เศรษฐกิจยังคงมีการขยายตัว    “กำหนดเวลาและอัตราการปรับลดQE ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณโดยตรงถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งเราจะมีบททดสอบที่เข้มงวดมากขึ้นและแตกต่างออกไป” นายพาวเวลกล่าว

โดย  : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุด 1,823 เหรียญ จากการที่เฟดมีนโยบายที่จะ Tapering QE ช้าลงกว่าที่คาด ท่ามกลางตลาดที่คลายความกงัวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยออกไป ดัชนีดอลลาร์ยังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ที่ระดับ 92.67 จุด ลดลงจากระดับ 92.8 จุด ทำให้ค่าเงินบาทยังอยู่ในทิศทางแข็งค่าต่อเนื่อง โดยเช้านี้ลงมาทดสอบ 32.40 บาท/ดอลลาร์ และยังลงต่อหลุดระดับ 32.50 บาท/ดอลลาร์ลงมา โดยเงินบาทจะมีแนวรับถัดไปที่ 32.20 บาท/ดอลลาร์ ด้านกองทุน SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยยังถือครองทองคำที่ระดับ 1,001.72 ตัน ขณะที่ภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้คาดว่าจะออกมาแย่ลง ได้แก่ Chicago PMI และ  CB Consumer Confidence

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำทรงตัวบริเวณ 1,810 เหรียญ โดยที่วันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,800 เหรียญ แนวต้านที่ 1,825 เหรียญ  ทางด้าน Gold Online Futures คาดจะมีแนวรับ 1,802 เหรียญ และแนวต้าน 1,827 เหรียญ คาดว่าราคาทองคำไทยวันนี้อาจปรับลง 50 บาท/บาททองคำ

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

หาจังหวะเข้าออกตามเเนวรับ-แนวต้าน เก็งกำไรตามการแกว่งตัวในกรอบ ยังแนะนำลงทุนในระยะสั้น

– นักลงทุนที่ถือ Long Position 

หาจังหวะเข้าออกตามเเนวรับ-แนวต้าน ทำกำไรระยะสั้น

– นักลงทุนที่ถือ Short Position

หาจังหวะเข้าออกตามเเนวรับ-แนวต้าน ทำกำไรระยะสั้น

Gold Futures 10V21 จะมีแนวรับที่ระดับ 27,840 บาท และแนวต้านที่ระดับ 28,100  บาท

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

เปิดสถานะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาใกล้ 1,807-1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หรือหากรับความเสี่ยงได้ไม่มากอาจเลือกชะลอการเปิดสถานะขายออกไป

แนวรับ : 1,807 1,789 1,770  แนวต้าน : 1,833 1,849 1,864

จจัยพื้นฐาน :

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง  6.82 ดอลลาร์ต่อออนซ์  แม้ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,823.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงเช้าของวานนี้ในตลาดเอเชีย  โดยได้รับแรงหนุนต่อเนื่องจากวันศุกร์ หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย  แม้เฟดอาจเริ่มปรับวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ก่อนสิ้นปีนี้ก็ตาม  อย่างไรก็ดี  ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้  โดยได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไรหลังจากราคารับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือน  ประกอบกับเกิดสัญญาณทางเทคนิคที่บ่งชี้ว่าแรงซื้อเริ่มชะลอตัวลง  นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากดัชนีดอลลาร์ที่ปิดตลาดแข็งค่าขึ้น +0.02% โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อดอลลาร์ในช่วงสิ้นเดือนจากธุรกิจต่างๆ สำหรับทำธุรกรรมการนำเข้าและส่งออก  สถานการณ์ที่กล่าวมากดดันให้ราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,806.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์    แต่การปรับตัวลงของราคาทองคำเป็นไปอย่างจำกัด  เนื่องจากดัชนีดอลลาร์ยังคงแกว่งตัวไม่ไกลระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์  ขณะที่ัการเปิดเผยดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ของสหรัฐที่ลดลงสวนทางคาดการณ์  และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.275% เหล่านี้เป็นปัจจัยสกัดช่วงติดลบของราคาทองคำ  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำมาเปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้  ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนมิ.ย.โดย S&P/CS, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)เขตชิคาโก และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จาก CB

ปัจจัยทางเทคนิค :

แม้จะมีแรงซื้อให้ราคาดีดตัวขึ้นอย่างมากแต่ยังคงเห็นแรงขายกดดันเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเข้าใกล้กรอบแนวต้านด้านบน หากการดีดตัวของราคายังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านโซน  1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับสูงสุดของเดือน ก.ค.) อาจทำให้เกิดแรงขายกดดันให้ปรับตัวลงสู่ระดับ 1,807-1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นประเมินการเคลื่อนไหวของราคาในแบบของการแกว่งตัวเพื่อสะสมแรงซื้อหากยืนได้จะเกิดการดีดตัวขึ้นต่อ

กลยุทธ์การลงทุน :

ถ้าราคาเกิดการอ่อนตัวลงมาอาจเปิดสถานะซื้อใหม่หากราคาทองคำไม่หลุด 1,807-1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามลดพอร์ตการลงทุนหากราคาหลุด 1,789ดอลลาร์ต่อออนซ์  และผู้ถือสถานะโดยอาจปิดสถานะทำกำไรในบริเวณ 1,828-1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากราคายังยืนได้ไม่แข็งแกร่ง

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) หน่วยงานตรวจสอบนิวเคลียร์เชื่อ ‘เกาหลีเหนือ’ เริ่มเปิดเตาปฏิกรณ์ปรมาณูอีกครั้งสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ ไอเออีเอ (IAEA) เปิดเผยในรายงานประจำปีว่า ดูเหมือนเกาหลีเหนือได้เริ่มเปิดเตาปฏิกรณ์ปรมาณูอีกครั้ง ซึ่งเชื่อว่าใช้ในการผลิตพลูโตเนียมสำหรับอาวุธนิวเคลียร์  ไอเออีเอ ระบุว่า เกาหลีเหนือปิดเตาปฏิกรณ์ขนาด 5 เมกะวัตต์ที่โรงงานนิวเคลียร์เมืองยองเบียน ตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 2018 และคาดว่าได้เริ่มเปิดใช้อีกครั้งเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมปีนี้ โดยมีตัวบ่งชี้หลายอย่าง รวมทั้งการปล่อยน้ำหล่อเย็นซึ่งใช้กับเตาปฏิกรณ์ออกมา
  • (+) สหรัฐเผยดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายลดลง สวนทางคาดการณ์สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 1.8% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากร่วงลง 2.0% ในเดือนมิ.ย.  นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค.
  • (+) แบงก์ชาติฝรั่งเศสชี้ ECB ควรคำนึงถึงสภาพการเงินยูโรโซนในการพิจารณาโครงการซื้อบอนด์นายฟรังซัวส์ วิลเลอรอย เดอ กาลฮาว ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยว่า ECB ควรจะคำนึงถึงสภาพการเงินล่าสุดที่ปรับตัวดีขึ้น ในการหารืออนาคตของการซื้อทรัพย์สินรายเดือนที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  นายวิลเลอรอยซึ่งเป็นประธานธนาคารกลางฝรั่งเศสกล่าวว่า ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะทำให้ต้องตัดสินอนาคตของโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) ในที่ประชุม ECB ประจำเดือนก.ย. เพราะ ECB ต่างกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่สามารถปรับการซื้อรายเดือนได้ตามสภาพการเงิน  นายวิลเลอรอยระบุว่า สภาพการเงินในยูโรโซนที่ดีขึ้นนับตั้งแต่การประชุมล่าสุดของ ECB ในเดือนมิ.ย. โดยกล่าวว่า “การหารือของเราควรจะคำนึงถึงสภาพการเงินที่ดีขึ้นด้วย”  นอกจากนี้ นายวิลเลรอยยังกล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจฝรั่งเศสและยูโรโซนควรจะกลับไปสู่ระดับก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ในต้นปี 2565 หรือเร็วกว่านั้น และไม่มีความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะสูงอย่างต่อเนื่องในตอนนี้
  • (-) ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจยูโรโซนปรับตัวลงแตะ 117.5 เดือนส.ค.คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซนปรับตัวลงแตะ 117.5 ในเดือนส.ค. จากระดับ 119.0 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
  • (-) สหรัฐยันไม่มีผู้เสียชีวิตจากกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์/โมเดอร์นาศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) แถลงว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่า มีวัยรุ่นได้เสียชีวิตจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หลังได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา
  • (+/-) ดอลล์อ่อนตามทิศทางบอนด์ยีลด์ จับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ส.ค.) หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐร่วงหลุดจากระดับ 1.3% ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนและตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.  ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.03% แตะที่ 92.6613 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.88 เยน จากระดับ 109.82 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9165 ฟรังก์ จากระดับ 0.9115 ฟรังก์ แต่เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2607 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2619 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1803 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1793 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ทรงตัวที่ระดับ 1.3767 ดอลลาร์
  • (+/-) ดาวโจนส์ปิดลบ 55.96 จุดหลังหุ้นแบงก์ร่วง,Nasdaq ทำนิวไฮรับแรงซื้อหุ้นเทคโนฯดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ยืนยันว่า เฟดจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,399.84 จุด ลดลง 55.96 จุด หรือ -0.16% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,528.79 จุด เพิ่มขึ้น 19.42 จุด หรือ +0.43% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,265.89 จุด เพิ่มขึ้น 136.39 จุด หรือ +0.90%
  • (+/-) เยอรมนีเผยเงินเฟ้อพุ่ง 3.4% ในเดือนส.ค. สูงสุดรอบ 13ปีสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 3.4% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2551 และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 3.1% ในเดือนก.ค.

โดย : บริษัท ที.ดี.ซี. โกลด์ จำกัด

ดัชนี S&P500 ทำจุดสูงสุดใหม่ ปรับตัวสูงขึ้น 7 วันติดต่อกัน ถือว่าเป็นการบวกติดต่อกันสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2018 ขณะที่ทางการจีนมีประกาศฉบับใหม่ ห้ามเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเล่นเกมส์เกิน 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยผู้เยาว์สามารถเล่นเกมส์ออนไลน์ได้ในเวลา 2-3 ทุ่มวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอื่นๆในจีนยังคงมีความเสี่ยง ขณะที่ราคาทองคำยังได้รับปัจจัยบวกเล็กน้อยจากการประชุมแต่ยังมองการแกว่งตัวในกรอบ 1808-1816 มองขึ้นก่อน

ที่มา : gold.in.th ( 31 ส.ค. 64 )