สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่เลื่อนแผนการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) แม้ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐขยายตัวต่ำกว่าคาดในเดือนก.ย.
- ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.7 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,755.7 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4 เซนต์ หรือ 0.18% ปิดที่ 22.665 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 21.3 ดอลลาร์ หรือ 2.07% ปิดที่ 1,006.9 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 46.50 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 2,119.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปรับตัวลงหลังจากดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.26% แตะที่ 94.3165 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น
นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะไม่เลื่อนแผนการปรับลดวงเงินในโครงการ QE แม้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 194,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 500,000 ตำแหน่ง หลังจากแตะระดับ 366,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.
ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 4.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.1% จากระดับ 5.2% ในเดือนส.ค.
นักลงทุนจับตาเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยและแนวโน้มการปรับลดวงเงิน QE ของเฟด