สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนแห่เทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังมีข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 รวมทั้งความราบรื่นในการถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีของสหรัฐ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 33.2 ดอลลาร์ หรือ 1.81% ปิดที่ 1,804.6 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 33.3 เซนต์ หรือ 1.41% ปิดที่ 23.3 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 26.6 ดอลลาร์ หรือ 2.85% ปิดที่ 958.3 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ หรือ 0.07% ปิดที่ 2,352.20 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้มอบหมายให้นางเอมิลี เมอร์ฟีย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานบริการทั่วไปของสหรัฐ (General Services Administration – GSA) เริ่มกระบวนการถ่ายโอนอำนาจให้แก่คณะบริหารของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐแล้ว ซึ่งทำให้นายไบเดนสามารถเข้าถึงทรัพยากรต่างๆที่จำเป็นในการถ่ายโอนอำนาจ เพื่อเปิดทางให้เขาสามารถเข้าทำหน้าที่ในทำเนียบขาวได้อย่างราบรื่น
นอกจากนี้ ความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย โดยแอสตร้าเซนเนก้าเปิดเผยว่า วัคซีนที่บริษัทพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด มีประสิทธิภาพ 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ขณะที่ไฟเซอร์ระบุว่า วัคซีน BNT162b2 ที่ไฟเซอร์พัฒนาร่วมกับบริษัท BioNTech นั้น มีประสิทธิภาพมากถึง 95% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ซึ่งสูงกว่าวัคซีนของโมเดอร์นา อิงค์ ที่มีประสิทธิภาพ 94.5%
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 4-5 พ.ย.ที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณการผ่อนคลายนโยบายการเงินซึ่งมีเป้าหมายที่จะเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ที่มา : สำนักข่าว อินโฟเควสท์ ( 25 พ.ย. 63)