การเคลื่อนไหวของราคาทองคำวันนี้(4 ธ.ค.) ยังขยับผันผวนในกรอบ 1,835-1,845 ดอลลาร์ หลังจากที่ราคาได้ขยับขึ้นมาต่อเนื่องตั้งต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ราคาทองคำในประเทศ จนถึงเวลา (16.00 น.) ได้ปรับขึ้น-ลง รวม 5 ครั้ง เพิ่มขึ้นบาทละ 5o บาท ค่าเงินบาทได้แข็งค่าแตะ 30.14 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าสุดตั้งแต่ช่วงกลางเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา
“หากนับตั้งช่วงต้นสัปดาห์ผ่านมาจนถึง ณ เวลานี้ (16.00 น.) ราคาทองคำได้ปรับเพิ่มขึ้นมาประมาณ 4.5เปอร์เซ็นต์ จากต้นสัปดาห์อยู่ที่ 1,765 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ ขณะนี้อยู่ที่ 1,841 ดอลลาร์ ต้องติดตามว่าราคาทองคำจะขึ้นไปยืนเหนือ 1,850 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นอีกแนวต้านที่สำคัญได้หรือไม่ แต่คาดว่ามีโอกาสจะเป็นไปได้ เพราะในช่วงค่ำวันนี้จะมีการประกาศตัวการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ เดือนพ.ย. ซึ่งคาดว่าตัวเลขจะออกมาไม่ดี และหากสุดสัปดาห์นี้ราคาสามารถปิดเหนือ 1,850 ดอลลาร์ได้ ก็คาดว่าสัปดาห์หน้าราคาทองคำจะมีแนวโน้มที่ดี โดยเป้าต่อไปจะอยู่ที่ 1,900 ดอลลาร์ และอาจจะเห็นราคาปิดปีนี้ที่ 1,950 ดอลลาร์”
นายวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที โกลด์บูลเลี่ยน จำกัด กล่าวกับ GoldAround.com
ในทางกลับกันหากราคาหลุดระดับ 1,840 ดอลลาร์ อาจจะลงมาพักฐานแถว 1,820 ดอลลาร์ หรือ 1,800 ดอลลาร์อีกครั้ง แต่เมื่อมองในภาพรวมขณะนี้มีปัจจัยบวกต่อราคาทองคำมากกว่า ไม่ว่าจะเรื่องการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตัวเลขการจ้างงาน ซึ่งจะส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์
นอกจากนั้นยังต้องติดตามนโยบายของ “โจ ไบเดน” ซึ่งล่าสุดได้ตั้งทีมงานเพื่อดูแลเรื่องมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำการค่ากับประเทศจีน พร้อมระบุจะยังคงสานต่อสิ่งที่”โดนัล ทรัมป์” ทำไว้ ซึ่งจะทำให้ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสองประเทศจะยังคงคุกรุ่นต่อไป
ขณะที่ปัจจัยด้านลบยังคงเกี่ยวข้องกับเรื่องวัคซีนป้องกัน COVID-19 หลังจากที่ อังกฤษอนุมัติการใช้วัคซีนของไฟเซอร์อิงค์ ไปแล้ว คงต้องรอดูความคืบหน้าในส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะวัคซีนจากรัสเซีย ที่มีกระแสข่าวว่าจะเริ่มทดลองฉีดให้ประชาชนทั่วไปในเร็วๆนี้
นอกจากนั้นยังต้องรอดูการเคลื่อนไหวของกองทุนต่างๆ ว่าจะมีการเทขายทองคำออกมาเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงไร เพราะในช่วงปลากปีจะเป็นการเทขายทำกำไรเพื่อปิดบัญชี โดยเฉพาะ SPDR ที่ยังขายต่อเนื่องแม้ในเดือนที่ผ่านมาจะขายไปแล้วกว่า 60 ตัน แต่ยอดการซื้อในปีนี้ก็ยังเหลือมากถึง 290 ตัน
กรรมการผู้จัดการ จีที โกลด์บูลเลี่ยน ได้แนะนะกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ว่า หากราคาพุ่งไปแตะ 1,850 ดอลลาร์ นักลงทุนที่ถือทองคำอยู่อาจจะพิจารณาขายทำกำไร แล้วไปรอซื้อหากราคาลดลงมา ซึ่งแนวโน้มยังมี่ความเป็นไปได้ เนื่องจากในสัปดาห์นี้ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นค่อนข้างเร็วและแรง จึงอาจจะถูกขายทำกำไรออกมา ประกอบกับสินทรัพย์อื่นๆ ยังมีทิศทางที่ดี ไม่ว่าจะเป็นดัชนีหุ้น หรือบิตคอยน์ ซึ่งอาจจะมีการโยกเงินจากทองคำเพื่อไปลงทุนในส่วนนี้
ส่วนนักลงทุนที่ยังไม่มีทองคำในมือ หากว่าราคาลงมาต่ำมาแถว 1,820 ดอลลาร์ อาจจะเข้าลงทุน แต่ยังเน้นลงทุนสั้น และแบ่งทยอยเข้าซื้อ แต่หากต้องการความปลอดภัยสูง แนะนำว่าให้รอไปจนถึงต้นปีหน้า ซึ่งคาดว่าจะทำให้ภาพการลงทุนในทองคำมีความชัดเจนมากขึ้น
GT GOLD BULLION
“จากปัจจัยต่างๆที่เป็นอยู่ในขณะนี้ มองว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่ราคาทองทำจะกลับไปแตะจุดสูงสุดเดิม หรือทะลุไปแตะ 2,100 ดอลลาร์ เพราะหากวัคซีนสามารถผลิตออกมาใช้ได้อย่างแพร่หลายในช่วงกลางปีหน้า จะทำให้ปัญหาเรื่องการแพร่รบาด COVID-19 ดีขึ้น และในช่วงไตรมาส 3 คาดว่าเศรษฐกิจจะค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมา และนโยบายต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจอาจจะผ่อนคลายลง ซึ่งจะส่งผลต่อราคาโดยตรง ยกเว้นว่าวัคซีนป้องกันCOVID-19 มีปัญหาเรื่องการใช้งานก็อาจจะทำให้ภพรวมของทองคำกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง”
กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที โกลด์บูลเลี่ยน จำกัด
อย่างไรก็ดีเชื่อว่าราคาทองคำ ยังมองว่าแม้สถานการณ์COVID-19 จะดีขึ้น แต่ราคาทองคำก็อาจจะลงไม่สุด เพราะจะได้รับแรงหนุนจากเรื่องของสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐแทน หลังจากที่ “โจ ไบเดน” ตั้งทีมขึ้นมาเพื่อดูแลเรื่องนี้ รวมถึงดูแลประเทศในแถวกลุ่มอาเซี่ยนด้วย ซึ่งปัญหาสงครามการค้าคือตัวดันให้ราคาทองคำพุ่งก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 แต่ในรอบนี้สงครามการค้าจะรุนแรงเพียงไร และจะส่งผลดีต่อราคาทองคำเพียงไร คงจะต้องติดตามนโยบายของ “โจ ไบเดน” หลังเข้ารับตำแหน่งอีกครั้ง
โดย : Gold Around