ราคาทองวันนี้ ข่าวทองคำ

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 19 ก.พ.64 CAF, GT, MTS, HGF, SCT, YLG

665

- Advertisement -

โดย : บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด (CAF)

Gold มีโอกาสรีบาวด์ลงต่อ
จากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกขยายตัวและกำลังฟื้นจากการแพร่ระบาดจากโควิด-19ที่นำโดยสหรัฐฯ และจีน

  • โดยสหรัฐฯมีการใช้ยาต้านโควิด-19 ทำให้แนวโน้มการระบาดลดลง
    กระตุ้นให้นักลงทุนรายใหญ่หลายคนซึ่งรวมถึงนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้ถอนการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย
    เพราะคาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง
  • และจีนโดยข้อมูลสถิติล่าสุดจากกระทรวงพาณิชย์จีน (MOC) เผยว่า
    ผู้บริโภคชาวจีนมีการใช้จ่ายกันมากขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา
    โดยระบุว่ายอดขายรวมของธุรกิจค้าปลีกและบริการส่งอาหารในจีนเพิ่มขึ้น 28.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี

Day Trade
GOH21 Short 1,780-1,785 เป้า 1,750-1,765 จุด Stop 1,795
GF10G21 Short 25,500-25,580 เป้า 25,300 – 25,400 จุด Stop 25,650

Trend Trade ใช้ราคาปิดสิ้นวัน
GOH21 Hold Short จุด Stop 1,825
GF10G21 Hold Short จุด Stop 25,930

- Advertisement -

โดย  : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

Fundamental

  • คาดสัปดาห์หน้าสภาล่างสหรัฐฯอาจได้พิจารณาและโหวตเงินอัดฉีด 1.9 ล้านล้านดอลลาร์
  • มูลค่าการค้าระหว่างจีนกับยุโรปแซงหน้าคู่ค้าสหรัฐฯกับยุโรปในปีที่แล้ว ซึ่งถ้าหากจบปัญหาโควิดแล้วยังเป็นเช่นนี้ต่อไป โอกาสที่เงินสกุลดอลลาร์จะค่อย ๆ ถูกลดบทบาทลงในเวทีการค้าโลกจากการที่เงินสกุลหยวนได้รับการยอมรับให้ขึ้นมาแทนที่ก็มีมากขึ้น

Technical

  • รูปซ้ายราคาลงต่อ แตะจุดต่ำสุดรอบเกือบ 3 เดือน แต่เริ่มเห็นสัญญาณพร้อมจะกลับตัวจาก RSI จึงคาดว่าแรงขายจะชะลอลง และราคาจะเริ่มสร้างฐานรับ
  • รูปขวาRSI ให้สัญญาณ bullish divergence ซ้ำอีกครั้ง จึงคาดว่า1,760-1,765 จะเป็นฐานรับหนุนการรีบาวด์
  • ทิศทางวันนี้สร้างฐานรอรีบาวด์จริง
  • จับจังหวะเล่นยังไง?กรอบซื้อเก็งกำไร1,765-1,785 กรอบซื้อสะสม1,760-1,770 ถ้าหลุด 1,760 ให้ stop loss แล้ว follow short แบบปิดทำกำไรเร็ว

Attention

ติดตามเดโมแครตพยายามผลักดันร่างรายจ่าย 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ให้มีผลบังคับใช้ทันภายใน 15 มี.ค.

โดย  : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องตามสภาพแรงขายอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯจะออกมาไม่ดีนักตามที่คาด โดยเมื่อคืนนี้จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ยังออกมาไม่ดีนัก ขณะที่ดัชนีดอลลาร์มีการปรับอ่อนค่าลงบ้างจาก 91 จุดเมื่อคืนนี้ ลงมาแถว 90.60 จุดโดยประมาณในเช้าวันนี้ ในส่วนของค่าเงินบาทยังทรงตัวและอ่อนค่าแถว 30 บาท/ดอลลาร์ เช้านี้อยู่ที่ 30.02 บาท/ดอลลาร์ กองทุน SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ปัจจุบันยังมีการถือครองทองคำที่ระดับ 1,132.89 ตัน

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

เก็งกำไรกรอบขาลงเช่นเดิม โดยมี Stop Loss หากสูงกว่า 1,790 เหรียญ

– นักลงทุนที่ถือ Long Position 

ไม่แนะนำให้ถือครองสถานะในเวลานี้

– นักลงทุนที่ถือ Short Position

แนะนำให้ซื้อปิดทำกำไรตามแนวรับ และรอเปิดขายเมื่อราคารีบาวน์ มีจุด Stop Loss เสมอหากสูงกว่าแนวต้าน

Gold Futures 10G21 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,150 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,450  บาท

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

กองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิม

คืนนี้สหรัฐจะประกาศดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ

ราคาทองคำเคลื่อนไหวในทิศทางขาลง

  • ราคาทองคำSpot เมื่อวานปิดตลาดทรงตัว ถึงแม้ว่าในช่วงกลางวันราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นก็ตาม หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีลดลงและเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง นอกจากนี้เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 861,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน และสูงกว่าตลาดคาดจะอยู่ที่ระดับ 775,000 ราย ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวาน
  • คืนนี้สหรัฐจะประกาศดัชนี PMI ภาคการผลิตและดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.พ. ตลาดคาดจะลดลงสู่ระดับ 58.4 และ 57.9และยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค.ตลาดคาดจะลดลงสู่ระดับ 6.59 ล้านยูนิต
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot เคลื่อนไหวในทิศทางขาลงอย่างชัดเจน หลังจากเมื่อวันพุธที่ผ่านมาราคาทองคำทางด้านเทคนิคเกิดภาวะ Death Cross เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2561 เนื่องจากเส้นค่าเฉลี่ยทางเทคนิคระยะสั้น50 วันตัดเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว 200 วันลงมา นอกจากนี้เช้าวันนี้ราคาทองคำหลุดแนวรับ 1,764 ดอลลาร์ ทองคำมีแนวรับที่ 1,750 ดอลลาร์ และ 1,730 ดอลลาร์ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,780 ดอลลาร์ และ 1,800 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,775.40-0.401,750/1,7301,780/1,800

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
25,40024,900/24,65025,250/25,550

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
25,340-14025,010/24,76025,380/25,670

แนะนำเปิดสถานะขายที่ราคาทอง Spot1,780 ดอลลาร์  (GF 25,380 บาท)  โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,800 ดอลลาร์(GF 25,670 บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,776.80-10.801,752/1,7321,782/1,802

แนะนำเปิดสถานะขายที่ราคาGOH21 1,782 ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,802 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะทรงตัว โดยเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากสหรัฐประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 861,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน และสูงกว่าตลาดคาด สำหรับ USD Futures เดือนมี.ค.64 คาดจะมีแนวรับที่ 29.90 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 30.10 บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ:ดอลล์อ่อนค่ากังวลตัวเลขว่างงานสหรัฐสูงเกินคาด

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (18 ก.พ.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการว่างงานที่สูงกว่าคาดซึ่งสร้างความผิดหวังต่อตลาดที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นหลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.39% สู่ระดับ 90.5966 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดบวก $2.2 หลังบอนด์ยีลด์-เงินดอลล์อ่อนตัว

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเป็นวันแรกในนรอบ 5 วันทำการเมื่อคืนที่ผ่านมา (18 ก.พ.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงนอกจากนี้สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.2 ดอลลาร์หรือ 0.12% ปิดที่ 1,775 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 23.7 เซนต์หรือ 0.87% ปิดที่ 27.078 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันWTI ปิดลบ 62 เซนต์จากแรงขายทำกำไร-ข่าวอิรักส่งออกน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (18 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวันอันเนื่องมาจากสภาพอากาศหนาวเย็นในรัฐเท็กซัสได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันของสหรัฐนอกจากนี้ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากข่าวอิรักส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งแรกของเดือนก.พ.  สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 62 เซนต์หรือ 1% ปิดที่ 60.52 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 41 เซนต์หรือ 0.6% ปิดที่ 63.93 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ:ดาวโจนส์ปิดลบ 119.68 จุดผิดหวังตัวเลขว่างงาน-กังวลเงินเฟ้อพุ่ง

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (18 ก.พ.) หลังสหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่สูงเกินคาดซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่องรวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อที่ส่งสัญญาณพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งอาจผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยุติการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,493.34 จุดลดลง 119.68 จุดหรือ -0.38% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,913.97 จุดลดลง 17.36 จุดหรือ -0.44% และดัชนีNasdaq ปิดที่ 13,865.36 จุดลดลง 100.14 จุดหรือ -0.72%

โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

แนวรับ 1760/ 1750/1740 แนวต้าน 1790/1800/1810
                             Gold                     USD                       Baht        DOW (stock)
ระยะสั้น             SW/SW DOWN       SW                       SW           SW /SW DOWN
ระยะกลาง           SW UP                 SW DOWN             SW                SW
ระยะยาว       NEUTRAL                  NEUTRAL              NEUTRAL       BULLISH
คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS 1750-90
จุดเข้า BUY 1750-60
เป้าหมาย 1790-1800
SL 1749
รายสัปดาห์
คำแนะนำรายเดือน 1750-1880
จุดเข้า BUY 1750
เป้าหมาย 1880-1930
SL 1749
ภาพรวม : ทองโดนถล่มต่อหลังรีบาวด์ไม่แรงเมื่อวาน ปัจจัยหลักๆคือค่าเงินสหรัฐฯเป็นที่สนใจหลังความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะฟื้นเพราะวงเงินกระตุ้นของไบเดนและวัคซีนที่พร้อมทั่วโลก ภาพรวมเชิงบวกของทองโดนท้าทายมาตลอดทั้งเดือนและตอนนี้มาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญคือแนวรับ $1750-60 ที่ตลาดหมีจะกุมตลาดแล้ว ดังนั้นในเดือนนี้ทองจะต้องพยายามรีบาวด์หรือฟื้นตัวให้ข้าม $1800 เพื่อพลิกพื้นสถานะการณ์ โดยเฉพาะวันนี้ที่ทองต้องแสดงพลังจากแรงซื้อที่เข้ามาดันราคา
กลยุทธ์ : ระยะกลางทยอยซื้อ หลุด $1750 หยุดการซื้อ / ระยะสั้น ลุ้นต่อหากหลุด $1750 หาทางหมอบ หรือรอการรีบาวด์ลดพอร์ตเว้นแต่ทะลุ $1790 ก็ลุ้นขึ้นต่อ คืนนี้มีตัวเลขสำคัญน่าจะผันผวน

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

หากราคาทดสอบแนวต้านโซน 1,777 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านได้ให้แบ่งขายทำกำไร แต่ถ้าผ่านได้ให้รอขายบริเวณแนวต้าน 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขึ้นไป อย่างไรก็ตามหากไม่ผ่าน ประเมินแนวรับที่ 1,760-1,749 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,749 1,733 1,716  แนวต้าน : 1,777 1,795 1,816

จจัยพื้นฐาน :

ราคาทองคำวานนี้ปิดทรงตัวแทบไม่เปลี่ยนแปลง  แม้ในระหว่างวัน ราคาทองจะดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง  โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ  จนราคาแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างการซื้อขายของวานนี้  อย่างไรก็ดี  เป็นอีกครั้งที่ราคาไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้  เนื่องจากแรงขายในตลาดทองคำยังคงอยู่ในระดับสูง  ประกอบกับวานนี้สหรัฐเปิดตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีเกินคาดหลายรายการ  อาทิ  ดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ที่อยู่ที่ระดับ 23.1 ในเดือนก.พ., การอนุญาตก่อสร้างบ้านดีดตัวขึ้น 10.4% สู่ระดับ 1.881 ล้านยูนิตในเดือนม.ค. และดัชนีราคานำเข้าพุ่งขึ้น 1.4% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2012 แม้ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานจะออกมาแย่เกินคาดก็ตาม  สถานการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนยังคงคาดการณ์เชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก  นั่นทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังคงเคลื่อนไหวไม่ไกลจากระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี  ซึ่งส่งผลเชิงลบต่อทองคำในสินทรัพย์ที่ไม่ได้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง  ก่อนที่เช้านี้ราคาทองคำจะร่วงลงต่อจนแตะระดับต่ำสุดบริเวณ1,760ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน  สำหรับวันนี้  ติดตามการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ และยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐ

ปัจจัยทางเทคนิค :

ราคาทองคำเช้าวันนี้สร้างระดับต่ำสุดใหม่จากวันก่อนหน้าอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีแรงเข้าซื้อระยะสั้นยังคงเข้ามาพยุงราคาทองคำไว้ ทั้งนี้ ทำให้ประเมินแนวรับระยะสั้นนั้นอยู่ในบริเวณ 1,760-1,749 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่หลุดยังคงมีโอกาสที่ราคาจะทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,777-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

แนะนำขายเก็งกำไรระยะสั้น หากราคาไม่สามารถกลับขึ้นมายืนเหนือแนวต้าน 1,777-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาผ่าน 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์) เน้นทำกำไรจากการแกว่งตัว สำหรับการเข้าซื้อคืนอาจรอดูบริเวณ1,760-1,749 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดลงมาให้ชะลอการซื้อไปยังบริเวณแนวรับถัดไป

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ดาวโจนส์ปิดลบ 119.68 จุด ผิดหวังตัวเลขว่างงาน-กังวลเงินเฟ้อพุ่ง  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 ก.พ.) หลังสหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่สูงเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อที่ส่งสัญญาณพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยุติการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,493.34 จุด ลดลง 119.68 จุด หรือ -0.38% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,913.97 จุด ลดลง 17.36 จุด หรือ -0.44% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,865.36 จุด ลดลง 100.14 จุด หรือ -0.72%
  • (+) สหรัฐเผยตัวเลขเริ่มต้นสร้างบ้านต่ำกว่าคาดในเดือนม.ค.กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 6.0% ในเดือนม.ค. สู่ระดับ 1.580 ล้านยูนิต ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.658 ล้านยูนิต  เมื่อเทียบรายปี ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 2.3% ในเดือนม.ค.  ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านที่ดิ่งลงในเดือนม.ค.ได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาไม้ ซึ่งเป็นวัสดุก่อสร้างที่สำคัญในการสร้างบ้าน
  • (+) สหรัฐเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว  กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 861,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 773,000 ราย
  • (+) ผลการศึกษาชี้โควิด-19 ทำอายุขัยเฉลี่ยของชาวอเมริกันลดลงถึง 1 ปี  ผลการศึกษาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ระบุว่า ตัวเลขคาดการณ์อายุขัยเฉลี่ยของชาวอเมริกันลดลงถึง 1 ปีอันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งถือเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2ทั้งนี้ CDC เปิดเผยว่า ตัวเลขคาดการณ์อายุขัยเฉลี่ยของชาวอเมริกันลดลง 1 ปีในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ไวรัสโควิด-19 มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง สู่ระดับ 77.8 ปี โดยลดลงจาก 78.8 ปีในปี 2562  ส่วนตัวเลขคาดการณ์อายุขัยเฉลี่ยของชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันลดลง 2.7 ปี สู่ระดับ 72 ปี ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2562 ขณะที่ตัวเลขคาดการณ์อายุขัยเฉลี่ยของชาวอเมริกันเชื้อสายฮิสแปนิกลดลง 1.9 ปี สู่ระดับ 79.9 ปี ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าว
  • (+) ดอลล์อ่อนค่า กังวลตัวเลขว่างงานสหรัฐสูงเกินคาด  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ก.พ.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการว่างงานที่สูงกว่าคาด ซึ่งสร้างความผิดหวังต่อตลาดที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้น หลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.39% สู่ระดับ 90.5966 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 105.68 เยน จากระดับ 105.91 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8964ฟรังก์ จากระดับ 0.8991ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2681 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2699 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2085 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2036 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3974 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3860 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7766 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7749 ดอลลาร์สหรัฐ3
  • (-) สหรัฐเผยดัชนีราคานำเข้าพุ่งสูงสุดรอบเกือบ 9 ปีในเดือนม.ค.  กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคานำเข้าดีดตัวขึ้นมากกว่าคาดในเดือนม.ค. โดยพุ่งขึ้น 1.4% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2555 หลังจาเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนธ.ค.  นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีราคานำเข้าเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนม.ค.
  • (-) เฟดฟิลาเดลเฟียเผยดัชนีภาวะธุรกิจมิด-แอตแลนติกร่วงลงในเดือนก.พ.  ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ร่วงลงสู่ระดับ 23.1 ในเดือนก.พ. จากระดับ 26.5 ในเดือนม.ค.  การปรับตัวลงของดัชนีได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่นักลงทุนลดความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้า  อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกยังคงมีการขยายตัว

ที่มา : gold.in.th (19 ก.พ. 64)

- Advertisement -

Leave a Reply