ราคาทองวันนี้ ข่าวทองคำ

วิเคราะห์ราคาทองคำ 12 เม.ย.64 by YLG, HGF, SCT, MTS

588

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,731 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง สามารถรอขายทำกำไรหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้านโซน 1,759-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้ายืนไม่อยู่ให้รอซื้อบริเวณแนวรับโซน 1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,731 1,717 1,696  แนวต้าน : 1,767 1,783 1,800

จจัยพื้นฐาน :

- Advertisement -

ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลดลง 12.15  ดอลลาร์ต่อออนซ์  แม้ระหว่างวันราคาทองคำจะพยายามทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,757.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์  แต่ราคาทองคำกลับเผชิญกับแรงขายทำกำไร  และแรงขายทางเทคนิคหลังจากเกิดสัญญาณ Bearish RSI Divergence ที่สะท้อนว่าแรงซื้อชะลอตัวลง  ก่อนที่ราคาทองคำจะปรับตัวลดลงแรง  หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 1.0% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนมี.ค. นอกจากนี้  เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 4.2% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2011 อีกด้วยสถานการณ์ดังกล่าวหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีให้ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.664% ซึ่งกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ย  พร้อมกับหนุนดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้น 0.13% สู่ระดับ 92.20 ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำเพิ่ม  ส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,731.09 ดอลลาร์ต่อออนซ์  อย่างไรก็ดี  แรงซื้อ Buy the dip หนุนทองฟื้นจากระดับต่ำสุด  ประกอบกับสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดจึงช่วยสร้างแรงหนุนให้แก่ทองคำในช่วงปลายตลาด  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้  ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ

ปัจจัยทางเทคนิค :

ราคาทองคำพยายามทรงตัวยืนเหนือแนวรับในโซน  1,731 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับต่ำสุดของวันก่อนหน้า) หากยืนได้แสดงถึงแรงเข้าซื้อในระยะ ทำให้ประเมินว่าในระยะสั้น ยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านโซน 1,759-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แนวรับถัดไปนั้นอยู่จะในบริเวณ 1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

เปิดสถานะซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,731-1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ อาจพิจารณาแบ่งขายทำกำไรหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,759-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ควรวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบเนื่องจาก TFEX จะปิดทำการในวันอังคาร-วันพฤหัสบดี

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) เกาหลีเหนือสร้างเรือดำน้ำลำใหม่เสร็จเรียบร้อย คาดเตรียมทดสอบยิงขีปนาวุธ  สำนักข่าวยอนฮัพรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้และสหรัฐเชื่อว่า เกาหลีเหนือเตรียมใช้งานเรือดำน้ำลำใหม่ขนาด 3,000 ตัน หลังจากที่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลการสร้างเรือดำน้ำดังกล่าวเมื่อเดือนก.ค. 2562 โดยเรือดำน้ำลำใหม่นี้สามารถบรรทุกขีปนาวุธที่สามารถยิงจากเรือดำน้ำได้ถึง 3 ลูก  สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ทางการประเมินว่า เกาหลีเหนือกำลังทบทวนจังหวะเวลาที่เหมาะสมที่จะใช้เรือดำน้ำด้านยุทธิวิธี ซึ่งรวมถึงการสร้างแรงกดดันสูงสุดต่อสหรัฐ
  • (+) อียูสั่งตรวจสอบวัคซีนโควิดของจอห์นสันฯ หลังพบกรณีลิ่มเลือดอุดตัน  สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ (9 เม.ย.) องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ได้เปิดเผยการตรวจสอบกรณีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 4 รายเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่พัฒนาโดยแจนเซน (Janssen) บริษัทเภสัชภัณฑ์ในเครือจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson)  แถลงการณ์จาก EMA ระบุว่า คณะกรรมการด้านความปลอดภัยได้เริ่มประเมินกรณีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ซึ่งเกิดขึ้นจากการแข็งตัวของลิ่มเลือด และส่งผลให้หลอดเลือดอุดตันในผู้ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแจนเซน
  • (+) สหรัฐเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.พ.  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากพุ่งขึ้น 1.4% ในเดือนม.ค.
  • (-) สหรัฐเผยดัชนี PPI (Y/Y) พุ่งสูงสุดรอบกว่า 9 ปีในเดือนมี.ค.  กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 1.0% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.พ.
  • (-) ดอลล์แข็งค่าตามบอนด์ยีลด์สหรัฐ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจแกร่ง  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 เม.ย.) โดยปรับตัวขึ้นตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และขานรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ  ดัชนีดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.11% สู่ระดับ 92.1629 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.65 เยน จากระดับ 109.25 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9249 ฟรังก์ จากระดับ 0.9238 ฟรังก์ แต่เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2527 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2567 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1903 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1915 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3715 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3735 ดอลลาร์
  • (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 297.03 จุด หุ้นเติบโตหนุนตลาดทำนิวไฮ  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (9 เม.ย.) เช่นเดียวกับดัชนี S&P500 และยังปิดตลาดปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันด้วย โดยตลาดได้แรงหนุนบางส่วนจากหุ้นเติบโต (growth stocks) ที่ดีดตัวขึ้น ขณะที่ตลาดโดยรวมทะยานขึ้นในช่วงท้ายของการซื้อขายก่อนที่บรรดาบริษัทจดทะเบียนจะเริ่มรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2564 ในสัปดาห์หน้า  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,800.60 จุด เพิ่มขึ้น 297.03 จุด หรือ +0.89%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,128.80 จุด เพิ่มขึ้น 31.63 จุด หรือ +0.77% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,900.19 จุด เพิ่มขึ้น 70.88 จุด หรือ +0.51%
  • (+/-) “พาวเวล” ชี้เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในจุดหักเห เตือนเปิดเศรษฐกิจเร็วเกินไปอาจทำยอดโควิดพุ่ง  นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวให้สัมภาษณ์กับรายการ “60 Minutes” ของสถานีโทรทัศน์ CBS ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังอยู่ในจุดหักเห (Inflection Point) โดยอธิบายว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงานมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยง หากการเปิดเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วเกินไปส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก  ในการให้สัมภาษณ์กับรายการ 60 Minutes ในคืนวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐ (11 เม.ย.) นั้น นายพาวเวลได้แสดงมุมมองในด้านบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ แต่ในขณะเดียวกันก็ได้ส่งสัญญาณเตือนว่า สหรัฐยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ในขณะนี้    “เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับความเสี่ยงที่ว่า หากมีการเปิดเศรษฐกิจเร็วเกินไป ประชาชนก็จะกลับไปมีพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตแบบเดิมเร็วขึ้นด้วย ซึ่งจะส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก ในขณะเดียวกันผมมองว่า การที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและไม่มีความเสี่ยงนั้น เราต้องควบคุมการแพร่ระบาดให้ได้ก่อน และสิ่งที่ประชาชนต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่องคือ การเว้นระยะห่างทางสังคม และการสวมหน้ากากอนามัย” นายพาวเวลกล่าว  ทั้งนี้ นายเจอโรมยังกล่าวด้วยว่า การที่รัฐบาลสหรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนนั้น จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวเร็วขึ้น  นอกจากนี้ นายพาวเวลยังให้คำมั่นว่า เฟดจะยังคงดำเนินโยบายเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อไป พร้อมกับส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

สัปดาห์ก่อนทองคำปรับขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์

สัปดาห์นี้ติดตามการเปิดเผยรายงาน Beige Bookจีดีพีจีนไตรมาส 1

ระยะสั้นราคาทองคำปรับฐานเพื่อขึ้นได้ต่อ

  • สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ Spot ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐลดลงและเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งรายงานการประชุม FOMCระบุว่ากรรมการเฟดมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และย้ำว่าเฟดจะใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ส่วนประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐปีนี้อาจเร่งตัวสูงขึ้นชั่วคราว  ส่งสัญญาณว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไป รวมทั้งสหรัฐประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นสูงกว่าตลาดคาด ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำ 6.76 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • สัปดาห์นี้ติดตามการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด 12 เขต  (Beige Book) และจีดีพีไตรมาส 1 ของจีนสำหรับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะประกาศสัปดาห์นี้ ได้แก่ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมี.ค.ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนเม.ย.จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค. การอนุญาตก่อสร้างและการเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนมี.ค.
  • ระยะสั้นราคาทองคำ Spotอยู่ในช่วงของการปรับฐาน แต่มองว่าเป็นการปรับฐานเพื่อขึ้นได้ต่อ  โดยราคาทองคำมีแนวต้าน1,760 ดอลลาร์ ถ้าผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไป 1,775 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับ 1,730 ดอลลาร์ และ 1,720 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,743.10-12.551,730/1,7201,760/1,775

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
25,95025,800/25,65026,200/26,400

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
26,100-2025,930/25,80026,300/26,500

การเปิดสถานะซื้อแนะนำที่ราคาทอง Spot1,730ดอลลาร์(GF25,930บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,720 ดอลลาร์ (GF 25,800บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,746.70-1.601,732/1,7221,762/1,777

การเปิดสถานะซื้อแนะนำที่ราคาGOM21 1,732ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,722 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดอ่อนค่าลงโดยเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาโดยปรับตัวขึ้นตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐโดยดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น1.0% เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 4.2%เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 9 ปีครึ่งนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2554สำหรับ USD Futures เดือนมิ.ย.2564คาดจะมีแนวรับที่ 31.30 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 31.60 บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศดอลล์แข็งค่าตามบอนด์ยีลด์สหรัฐขานรับข้อมูลเศรษฐกิจแกร่ง

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (9 เม.ย.) โดยปรับตัวขึ้นตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและขานรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.11% สู่ระดับ 92.1629 เมื่อคืนนี้

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (9 เม.ย.) โดยถูกกดดันจากการที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นนอกจากนี้การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐกดดันราคาทองด้วยสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 13.4 ดอลลาร์หรือ 0.76% ปิดที่ 1,744.8 ดอลลาร์/ออนซ์แต่สัญญาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นเกือบ 1% ในรอบสัปดาห์นี้สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 26 เซนต์หรือ 1.02% ปิดที่ 25.325 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันWTI ปิดลบ 28 เซนต์วิตกแนวโน้มอุปทานเพิ่ม-อุปสงค์ลด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (9 เม.ย.) โดยถูกกดดันจากแนวโน้มปริมาณน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากบรรดาผู้ผลิตรายใหญ่และตลาดน้ำมันยังถูกถ่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลงซึ่งเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19   สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 28 เซนต์หรือ 0.5% ปิดที่ 59.32 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 25 เซนต์หรือ 0.4% ปิดที่ 62.95 ดอลลาร์/บาร์เรลในรอบสัปดาห์นี้สัญญาน้ำมันดิบWTI ลดลง 3.5% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 2.9%

ตลาดหุ้นต่างประเทศ:ดาวโจนส์ปิดบวก 297.03 จุดหุ้นเติบโตหนุนตลาดทำนิวไฮ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกทำนิวไฮเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (9 เม.ย.) เช่นเดียวกับดัชนีS&P500 และยังปิดตลาดปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันด้วยโดยตลาดได้แรงหนุนบางส่วนจากหุ้นเติบโต (growth stocks) ที่ดีดตัวขึ้นขณะที่ตลาดโดยรวมทะยานขึ้นในช่วงท้ายของการซื้อขายก่อนที่บรรดาบริษัทจดทะเบียนจะเริ่มรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2564 ในสัปดาห์หน้าดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,800.60 จุดเพิ่มขึ้น 297.03 จุดหรือ +0.89%, ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,128.80 จุดเพิ่มขึ้น 31.63 จุดหรือ +0.77% และดัชนีNasdaq ปิดที่ 13,900.19 จุดเพิ่มขึ้น 70.88 จุดหรือ +0.51%   ในรอบสัปดาห์นี้ดัชนีดาวโจนส์บวก 1.96%, ดัชนีS&P500 เพิ่มขึ้น 2.71% และดัชนีNasdaq ปรับตัวขึ้น 3.12%

โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

คำแนะนำ : ทองพักสะสมพลัง สัปดาห์นี้จับตาเงินเฟ้อUSและFED ทางเทคนิคถ้ายืน 1750 ได้จริงมีลุ้นไปใกล้ 1800

แนวรับ 1730|1719|1710   แนวต้าน 1750|1760|1770
                   Gold/silver              USD           Baht        DOW (stock)
ระยะสั้น           SW                       SW              SW              SW
ระยะกลาง     SW UP             SW DOWN        SW            SW UP
ระยะยาว      NEUTRAL              BULLISH    NEUTRAL   BULLISH
คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS  1725-1755
จุดเข้า buy 1710-30
เป้าหมาย 1760-70
SL 1700
รายสัปดาห์
คำแนะนำรายเดือน 1675-1800
จุดเข้า BUY 1700 เป้าหมาย 1800
SL 1677

  ราคาทองปิดสัปดาห์ต่ำกว่า $1750 แสดงว่ากำลังพักสะสมพลัง สัปดาห์นี้นักลงทุนควรจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯคืนพรุ่งนี้และมีปฐกถาของปธ.เฟดในวันต่อมา โดยคาดการณ์กันว่าเงินเฟ้อที่จะประกาศน่าจะสูงขึ้น เพราะเงินอัดฉีดที่เริ่มดำเนินการไปแล้ว หากเงินเฟ้อสูงขึ้นจริงอาจดึง BOND YIELD พันธบัตร 10 ปีขึ้นมารอบใหม่และกดดันราคาทอง อย่างไรก็ตามปธ.เฟด ที่ยังยืนยันดื้อจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในอีก2ปี  (ซึ่งขัดกับสถานะการณ์เงินเฟ้อตอนนี้ที่สูงขึ้น ที่เฟดจะต้องปิดวงเงินรับซื้อคืนและขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ) ดังนั้นใครจะถูกจะผิดต้องรอดูกันต่อไป
   กลับไปดูทางเทคนิค ถ้าราคาทองยืน $1750 ได้ชัดในสัปดาห์นี้โดยเฉพาะหลังประกาศดัชนีเงินเฟ้อ เราอาจจะเห็นการขึ้นระลอกใหม่ไปแถว $1800 เลย กลยุทธ์เรายังแนะนำทยอยซื้อสะสม เพื่อเล่นรีบาวด์สั้นๆ โดยทองต้องห้ามต่ำกว่า $1700-1705 เพื่อรักษาภาพขาขึ้นต่อ

ที่มา : gold.in.th ( 12 เม.ย. 64 )

- Advertisement -

Leave a Reply