โดย : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด
Fundamental
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯระยะสั้นดีดขึ้นต่อ กดราคาทองร่วงก่อนรู้ผลประชุม Fed
- อย่างไรก็ตาม ตลาดคาด Fed คงดอกเบี้ยและไม่ปรับนโยบาย แต่จะแสดงความมั่นใจว่าเศรษฐกิจจะโตขึ้น
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน
- OPEC+ เห็นชอบให้เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในส่วนที่เคยปรับลดไปเมื่อปีที่แล้วเพียงเล็กน้อย และคงระดับคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกปีนี้ โดยมองว่าโควิดที่ระบาดหนักในอินเดียไม่ส่งผลใด ๆ
Technical
- รูปซ้ายราคาหลุดเส้นขาขึ้น แต่ยังยืนเหนือ 1,770 วันนี้ลุ้นพักตัวบนแนว 1,760 ที่มีเส้น MA รออยู่
- รูปขวาแรงซื้อดันขึ้นไม่ไหว ราคาพยายามตั้งหลักที่ 1,770 แต่ภาพรวมเป็นลบมากขึ้นเพราะเมื่อวานไม่เลือกทางขึ้น จึงควรระวังการอ่อนตัว
- ทิศทางวันนี้ระยะตั้งหลัก1,755-1,760
- จับจังหวะเล่นยังไง?ถ้าปรับขึ้น ฝั่งซื้อควรลดพอร์ต แล้วรอจังหวะเข้าซื้อใหม่อีกครั้ง ส่วนฝั่ง short ยังไม่น่าเสี่ยงที่บริเวณนี้
Attention
- โควิดทั่วโลกระบาดหนักขึ้น อัตราการติดเชื้อในหลายประเทศกลับพุ่งสูง และมีโอกาสมากขึ้นที่วัคซีนจะใช้ไม่ได้ผลเพราะการกลายพันธุ์มีความหลากหลายและรับมือได้ยากกว่าเดิมมาก
- อินเดียต้องการความช่วยเหลือด่วน หลังทำสถิติป่วยโควิดใหม่รายวันสูงที่สุดในโลกยืนเกิน 3 แสนคน/วัน
โดย : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)
กองทุน SPDRถือครองทองคำเท่าเดิมติดต่อกันมา 6วัน
คืนนี้ติดตามการแถลงของปธน.โจ ไบเดนการประชุมเฟด
แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับลดลง
- ราคาทองคำ Spot เมื่อวานปิดตลาดลดลงแต่ในช่วงระหว่างวันราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆทั้งนี้นักลงทุนรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะทราบผลการประชุมในคืนนี้ และการแถลงของประธานาธิบดีโจไบเดนซึ่งมีกำหนดแถลงนโยบายต่อสภาคองเกรสในวันนี้แต่มีปัจจัยลบจากสหรัฐประกาศดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นเป็น121.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเดือนก.พ.2563 จากระดับ 109.0 ในเดือนมี.ค. ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวานติดต่อกันมา 6วัน
- คืนนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดว่าจะมีมติผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป ทั้งตรึงอัตราดอกเบี้ยต่ำ 0-0.25% และมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยซื้อพันธบัตรวงเงิน1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือนการแถลงนโยบายของประธานาธิบดีโจไบเดนต่อสภาคองเกรส หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีมา 100 วัน ซึ่งคาดว่าที่สำคัญจะเป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและนโยบายการปรับขึ้นภาษีสำหรับคนรวย
- แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดปรับลดลงโดยคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,760-1,780 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้าน 1,780 ดอลลาร์ และมีแนวต้านสำคัญ 1,800 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับ 1,760 ดอลลาร์ และ 1,750 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,776.50 | -4.5 | 1,760/1,750 | 1,780/1,800 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
26,450 | -50 | 26,200/26,100 | 26,450/26,700 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
26,530 | -70 | 26,370/26,220 | 26,580/26,860 |
แนะนำเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรเมื่อราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,760 ดอลลาร์ (GF 26,370บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,750 ดอลลาร์(GF 26,220บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,780.20 | -4.00 | 1,762/1,752 | 1,782/1,802 |
แนะนำเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรเมื่อราคาGOM21 ปรับลงมาที่ 1,762ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,752 ดอลลาร์
โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด
คำแนะนำ : ทองแกว่งออกข้างรอเฟดคืนนี้ คาดเฟดจะคงนโยบายเดิม แต่ให้รอฟังมุมมองเฟดจะคุม BOND YIELD อย่างไร
แนวรับ 1770/ 1763|1753 แนวต้าน 1795|1800|1810
Gold/silver USD Baht DOW (stock)
ระยะสั้น SW SW SW SW
ระยะกลาง SW UP SW DOWN SW SW UP
ระยะยาว NEUTRAL BULLISH NEUTRAL BULLISH
คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS 1755-1795
จุดเข้า buy 1755-65
เป้าหมาย 1800-1815
SL 1750
รายสัปดาห์
คำแนะนำรายเดือน 1675-1800
จุดเข้า BUY 1755-65 เป้าหมาย 1815
SL 1749
เมื่อคืนดัชนีความเชื่อมั่นสหรัฐฯออกมาดีกว่าที่คาด ทำให้ค่าเงินสหรัฐฯฟื้นตัว และทองย่อลง อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังรอฟังมุมมองปธ.เฟดในคืนนี้และตัวเลข GDP สหรัฐฯในวันพฤหัสที่คาดว่าจะดีขึ้น โดยรวมคืนนี้คาดว่าเฟดน่าจะยืนนโยบายคงดอกเบี้ยต่ำและซื้อสินทรัพย์ตามเดิม ซึ่งน่าจะดีกับทอง แต่ปัญหาเงินเฟ้อที่ขยายตัวแต่เศรษฐกิจไม่โตตามอันนี้เฟดจะต้องแก้ไขไม่ให้ BOND YIELD อยู่ในโซนสูงซึ่งจะกดดันการขึ้นดอกเบี้ยในเร็วขึ้น
ในทางเทคนิค ทองยังปิดเหนือ $1760 ได้ยังถือเป็นขาขึ้นในกราฟรายชั่วโมง แต่กำลังพักฐาน หากราคาย่อแล้วมีแรงซื้อดูกลับขึ้นมาทะลุ $1800 จะถือว่าเป็นกระทิง ในกรณีพักฐานแรงหลุด $1755-60 อาจนำพาการลงไป $1730 ได้ ดังนั้นจับตาการ BREAKOUT กรอบ $1760-95 จึงน่าสนใจลงทุนตาม
โดย : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)
คำแนะนำ :
ยังมีลุ้นที่ราคาอาจไปทดสอบแนวต้านโซนที่ 1,778 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนไม่ได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา เมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงจะมีแนวรับบริเวณ 1,755 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ : 1,755 1,741 1,726 แนวต้าน : 1,778 1,797 1,816
ปัจจัยพื้นฐาน :
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 4.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ในระหว่างวันราคาทองคำจะพยายามขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,785.42 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้โดยเผชิญกับแรงขายทำกำไรเนื่องจากนักลงทุนมีการปรับสถานะก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะประชุมนโยบายการเงินเสร็จสิ้นในช่วงกลางดึกของคืนวันนี้ นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมา “ดีเกินคาด” อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐจาก Conference Board ที่พุ่งขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 121.7 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มเกิดการระบาดของ COVID-19ในเดือนก.พ.2020 และดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐจากเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ก็พุ่งขึ้นเกินคาดที่ 12% ในเดือนก.พ.เช่นกัน ปัจจัยดังกล่าวหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีให้ดีดตัวสู่ระดับ 1.627% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นตามจนเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวันลงมาปิดตลาดบริเวณ 1,776.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่เช้าวันนี้จะมีแรงขายสลับออกมาเพิ่มขึ้นจนส่งผลให้ราคาปรับตัวลดลงทำระดับต่ำสุดบริเวณ 1,766.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งของสหรัฐ พร้อมจับตาผลการประชุมเฟด คาดเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยและวงเงิน QE ตามเดิม แต่แนะนำรอความชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคตผ่านถ้อยแถลงของประธานเฟดซึ่งอาจส่งผลให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวผันผวนได้
ปัจจัยทางเทคนิค :
ราคาทองคำมีแรงซื้อลดลงหลังจากแกว่งตัวออกด้านข้างเพื่อสะสมกำลัง แต่ระยะสั้นอาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา แต่หากไม่มากราคาจะพยายามดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านระดับ 1,778 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม หากราคาอ่อนตัวลงประเมินแนวรับโซน 1,755 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนได้ราคาอาจพยายามทรงตัวและดีดตัวขึ้นอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน :
การเข้าซื้อขายทำกำไรระยะสั้น หากราคาขยับขึ้นอาจแบ่งขายทำกำไรหากราคาไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวต้าน 1,778-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนสถานะขายหากราคาผ่าน 1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์) แล้วทยอยปิดสถานะขายหากราคาทองคำไม่หลุดแนวรับโซน 1,755 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวสารประกอบการลงทุน :
- (+) ชาวมะกันกว่า 5 ล้านคนไม่ไปฉีดวัคซีนเข็ม 2 ตามกำหนด สื่อสหรัฐรายงานว่า ชาวอเมริกันกว่า 5 ล้านคนหรือเกือบ 8% ของผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มแรกนั้น ไม่ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ตามกำหนด ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐระบุว่า จำนวนผู้ที่ไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 เพิ่มขึ้นจากประมาณ 3.4% ในเดือนมี.ค. ซึ่งมากกว่า 2 เท่าของจำนวนผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนในช่วงสัปดาห์แรกๆ ของการรณรงค์ฉีดวัคซีนทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุว่า สำหรับการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นานั้นประชาชนต้องกลับมาฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ภายใน 3-4 สัปดาห์หลังจากฉีดเข็มแรกเพื่อให้วัคซีนมีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่
- (-) Conference Board เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐพุ่งนิวไฮ 14 เดือน ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 121.7 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มเกิดการระบาดของโควิด-19 ในเดือนก.พ.2563 จากระดับ 109.0 ในเดือนมี.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 113.0
- (-) “เอสแอนด์พี” เผยราคาบ้านสหรัฐพุ่งขึ้น 12% ในเดือนก.พ. ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 12% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว โดยเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2549 หลังจากเพิ่มขึ้น 11.2% ในเดือนม.ค.
- (-) จับตาสหรัฐเผย GDP Q1/64 พฤหัสฯนี้ นักวิเคราะห์ชูเศรษฐกิจโต 6.1% กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2564 ในวันพฤหัสบดีนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 6.1% ในไตรมาส 1 ซึ่งจะเป็นตัวเลขการขยายตัวสูงเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ไตรมาส 3/2546 หลังจากที่เติบโต 4.3% ในไตรมาส 4/2563 ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวมากกว่า 7.0% ในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2527 หลังจากหดตัว 3.5% ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดในรอบ 74 ปี
- (-) สหรัฐฯ ผ่อนคลายมาตรการสวมหน้ากาก หลังฉีดวัคซีนเกือบครึ่งประเทศ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือ CDC ระบุในวันอังคารว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้ง อย่างการเดินเล่น หรือเดินป่าได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องสวมหน้ากาก แต่ยังบังคับใช้มาตรการสวมหน้ากากในที่สาธารณะโดยทั่วไปอยู่ ตามรายงานของรอยเตอร์ การปรับปรุงมาตรการสวมหน้ากากของ CDC มีขึ้นหลังจากที่ชาวอเมริกันกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 1 โดส และราว 1 ใน 3 ของชาวอเมริกันในวัยผู้ใหญ่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว ซึ่งทาง CDC มองว่ามาตรการใหม่นี้เป็นเพียงก้าวแรกในการช่วยให้ชาวอเมริกันที่ได้รับวัคซีนครบโดส สามารถกลับไปทำกิจกรรมต่างๆได้ตามปกติ จากที่ต้องหยุดไปช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19
- (-) ดอลล์แข็งค่าตามทิศทางบอนด์ยีลด์ ก่อนตลาดรู้ผลประชุมเฟด ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) โดยดอลลาร์ปรับตัวตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงมติการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.11% แตะที่ 90.9048 เมื่อคืนนี้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.73 เยน จากระดับ 108.10 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9142 ฟรังก์ จากระดับ 0.9140 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2407 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2399 ดอลลาร์แคนาดา ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2089 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2091 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3901 ดอลลาร์
- (+/-) ดาวโจนส์ปิดบวกเล็กน้อย จับตาประชุมเฟด-ผลประกอบการบริษัทเทคโนฯ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ซึ่งรวมถึงไมโครซอฟท์และอัลฟาเบท จะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 1 ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย รวมทั้งจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,984.93 จุด เพิ่มขึ้น 3.36 จุด หรือ +0.01% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,186.72 จุด ลดลง 0.90 จุด หรือ -0.02% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,090.22 จุด ลดลง 48.56 จุด หรือ -0.34%
โดย : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเผชิญแรงขายทำกำไรจึงทำให้ช่วงเช้าปรับลงมาแนว 1,770 เหรียญ ในขณะที่ภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดูจะเริ่มฟื้นตัวได้จากแรงอัดฉีดเม็ดเงินอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายยุคนายทรัมป์ จึงทำให้นักวิเคราะห์บางส่วนกลับมากังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย แม้ว่าในภาพรวมเฟดจะย้ำถึงภาวะเงินเฟ้อที่ควบคุมได้ และจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2023 ดังนั้น ประเด็นดังกล่าวจึงน่าจะเป็นมุมมองของนักวิเคราะห์บางส่วนเท่านั้น ขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ดีขึ้นมาจากเม็ดเงิน 1.9 ล้านล้านเหรียญที่ได้รับการอัดฉีดจากรัฐบาลไม่ได้มาจากการขยายตัวตามปกติ สิ่งสำคัญที่ตลาดรอคอยคือถ้อยแถลงประธานเฟดว่าจะมีนโยบายอย่างเดิมหรือไม่ และคาดว่าภาพรวมน่าจะคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพความกังวลอย่างที่นักวิเคราะห์บางส่วนกังวล แต่ตลาดน่าจะมีแรงกดดันเข้าสู่ตลาดก่อนทราบถ้อยแถลงประมาณตี 1.30น. สำหรับเช้านี้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าเล็กน้อยมาที่ 91 จุด ในส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯเช้านี้ปรับขึ้นมาที่ 1.62% ด้านบาทเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อยมาแถว 31.39 บาท/ดอลลาร์
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว 1,785 เหรียญได้ จึงทำให้ทองคำกลับมาทดสอบ 1,770 เหรียญ ภาพรวมแนวรับระยะกลางของทองคำอยู่บริเวณ 1,760 เหรียญ ดังนั้น จึงคาดว่า ทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,760 เหรียญ และแนวต้าน 1,790 เหรียญคงเดิม ในส่วนของ Gold Online Futures จะมีแนวรับ 1,763 เหรียญ และแนวต้าน 1,790 เหรียญเช่นกัน ในส่วน Gold Comex จะมีแนวรับ 1,760 เหรียญ และแนวต้าน 1,788 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยเช้านี้คาดอาจปรับลง 150 บาท/บาททองค
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำทำกำไรกรอบ Sideways ระยะสั้นๆ เน้นบริหารพอร์ตการลงทุนก่อนทราบผลประชุมเฟด
– นักลงทุนที่ถือ Long Position
แนะนำให้หาจังหวะลดสถานะหรือปิดขายทำกำไรตามแนวต้าน เพื่อปรับพอร์ตการลงทุนให้สมดุลก่อนทราบผลประชุมเฟด
– นักลงทุนที่ถือ Short Position
เน้นเล่นสั้นๆ เข้าออกเร็วในวัน และย้ำถึงการปิดสถานะเพื่อบริหารพอร์ตก่อนทราบผลประชุมเฟด
Gold Futures 10J21 จะมีแนวรับที่ระดับ 26,400 บาท และแนวต้านที่ระดับ 26,650 บาท
โดย: บริษัท จีแคป จำกัด
แนะแนวทางการลงทุน
แนวรับ 1,763- 1,758- 1,753
แนวต้าน 1,781- 1,786 – 1,791
ทองคำปิดตลาดขยับตัวลงเล็กน้อย
เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 ของสหรัฐภาพรวมทองคำราคาอ่อนตัวเข้าไกล้แนวรับอาจเข้าซื้อบางส่วนเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ๆ
มุมมองทองคำภาคเช้า ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ นักลงทุนในตลาดทองคำจับตาความเคลื่อนไหวของเฟดอย่างใกล้ชิด พร้อมกับคาดการณ์ว่าราคาทองมีแนวโน้มพุ่งขึ้นทะลุแนว 1,800 ดอลลาร์ หากการปรับเพิ่มแนวโน้มเศรษฐกิจของเฟดไม่ส่งผลให้เกิดแรงเทขายในตลาดพันธบัตร ทองคำปรับตัวในกรอบแคบๆ ก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 27-28 เม.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับใกล้ 0% และเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ได้แก่ สินค้าคงคลังภาคค้าส่ง GDP จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน ยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย ต้นทุนค่าจ้างแรงงาน ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐาน ดัชนีจัดซื้อจัดจ้างชิคาโก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.มิชิแกน เป็นต้น
สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) โดยดอลลาร์ปรับตัวตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงมติการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย
ที่มา : gold.in.th(28 เม.ย. 64)