ราคาทองวันนี้ ข่าวทองคำ

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 15 ก.ค.64 by SCT, YLG, Gcap

730

- Advertisement -

โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

คำแนะนำ   :  ทองไฉไลหลังเฟดไม่เร่งขึ้นดอกและไม่ลด QE / คืนนี้ตัวเลขเพียบ คาดผันผวน

แนวรับ 1820|1816|1800   แนวต้าน 1832|1845|1850
              Gold/silver           USD                       Baht        DOW (stock)
ระยะสั้น   SW/SW UP   SW DOWN                     SW          SW  
ระยะกลาง  SW UP                   SW                      SW         SW UP
ระยะยาว NEUTRAL  BULLISH  NEUTRAL BULLISH

คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS 1815-38
จุดเข้า BUY 1815-20
เป้าหมาย 1840-50
SL 1799
รายสัปดาห์

คำแนะนำรายเดือน 1770-1900
จุดเข้า BUY 1800-20
เป้าหมาย 1850
SL 1789

- Advertisement -

บทวิเคราะห์ : ทองวิ่งทะยานต่อหลัง BREAKOUT แนวต้าน $1817 รับข่าวเฟดแถลงไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยและใช้นโยบาย QE ต่อ เฟดยังมองเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจะเป็นแค่ภาวะชั่วคราว เดี๋ยวจะลดลงเองถ้าเศรษฐกิจฟื้นตัวจริงๆ ภาพรวมทองได้ใจจากข่าวดีหนุนมาตลอด คืนนี้มีประกาศตัวเลขฝั่งสหรัฐฯเยอะมากจึงระวังผันผวน ประกอบราคาขึ้นมาในโซนสูงอีกวาระทั้งบาทและทองคำ ส่วนเฟดจะมีคิวแถลงต่อคณะการเงินของสภาสูงวันสุดท้าย คาดว่าไม่น่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน ดังนั้นจากนี้ไปราคาทองต้องไม่ต่ำกว่า $1800 หรือจะให้ดีก็ไม่ควรต่ำกว่า $1815 เพื่อลุ้นเป็นขาขึ้นต่อเนื่องไปเทสต้านสำคัญโซน $1840-50

กลยุทธ์ : ทองขึ้นตามคาดจากภาวะค่าเงินและบอนด์ยิลด์สหรัฐฯลดลง ยังแนะนำทางฝั่งซื้อต่อไป เพียงแต่ไม่ไล่ราคา รอราคาย่อค่อยเก็บเล่นสั้น คาดว่าราคาน่าจะ SIDEWAYS UP หรือค่อยๆซึมขึ้นต่อ สลับความผันผวนสั้นๆ คนถือชอตต้องระวังการย่อแนะปิด แล้วหาจังหวะมาซื้อทองคำ

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

ทำกำไรระยะสั้นตามกรอบราคา เปิดสถานะซื้อหากราคาสามารถยืนเหนือ 1,818-1,812 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ให้ทยอยขายทำกำไรหากราคายังไม่ยืนเหนือโซน 1,834-1,839 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และคำนึงถึงความเสี่ยงจากราคาที่ปรับขึ้นมาแล้วในระดับหนึ่ง

แนวรับ : 1,812 1,800 1,784  แนวต้าน : 1,839 1,851 1,866

จจัยพื้นฐาน :

ราคาทองคำวานนี้ปิดทะยานขึ้น 18.70ดอลลาร์ต่อออนซ์แม้ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากผู้ผลิตของสหรัฐจะพุ่งขึ้นเกินคาด  แต่ราคาทองคำเมินตัวเลขที่ดีเกินคาด  และพุ่งขึ้นแรง  โดยได้รับปัจจัยหนุนจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อสภาคองเกรสเมื่อคืนนี้  ซึ่งใจความสำคัญนั้นบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐ “ยังคงห่างไกล” จากความคืบหน้าที่เฟดต้องการเห็นก่อนที่จะปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจพร้อมย้ำมุมมองว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มจะอยู่ในระดับสูงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก่อนที่จะมีการปรับตัวลงนอกจากนี้พาวเวลยังกล่าวอีกว่า  นโยบายการเงินของสหรัฐจะให้ “การสนับสนุนอย่างแข็งแกร่ง” ต่อเศรษฐกิจ “จนกว่าการฟื้นตัวจะเสร็จสมบูรณ์” ซึ่งจะเห็นได้ว่าถ้อยแถลงของนายพาวเวลเป็นไปในเชิง Dovishที่สนับสนุนการเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และยังไม่รีบเร่งตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ย  นั่นทำให้นักลงทุนปรับ “ลด” คาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ยในปี 2022 สะท้อนจาก Eurodollar Futures ที่บ่งชี้ว่าตลาดลดโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนธ.ค. 2022ลงเหลือ90% จากโอกาส 100% เต็มในช่วงหลังการเปิดเผยตัวเลข CPI  ขณะที่ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.44% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลงสู่ระดับ 1.356%  ส่งผลให้ราคาทองคำทะยานขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,829.74 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองลดลง -2.91 ตัน  สำหรับวันนี้ติดตามการ Testimony เป็นวันที่ 2 ของนายพาวเวล  และติดตามการเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจจากเฟดฟิลาเดลเฟีย, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน, ดัชนี Empire State Index และตัวเลขในภาคการผลิตของสหรัฐ

ปัจจัยทางเทคนิค :

ราคาทองคำพยายามขึ้นไปทดสอบโซน 1,834-1,839 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนได้ ทำให้ประเมินว่าในระยะสั้นราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไป 1,851 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านแนวต้านแรกไม่ได้ราคาจะอ่อนตัวลงสะสมแรงซื้อประเมินแนวรับบริเวณ 1,812-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

การเข้าซื้อยังคงเน้นการทำกำไรระยะสั้น เมื่อราคายืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,812-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ขณะที่การปิดสถานะซื้อทำกำไรอาจพิจารณาในโซน 1,839-1,851 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) “พาวเวล” แถลงคองเกรส ย้ำเฟดเดินหน้าทำ QE, ไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย  นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในวันนี้  ทั้งนี้ นายพาวเวลกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ เวลา 12.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 23.00 น.ตามเวลาไทย ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้ เวลา 09.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 20.30 น.ตามเวลาไทย  เนื้อหาในแถลงการณ์ของนายพาวเวลในวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นไปตามที่สื่อได้รายงานก่อนหน้านี้หลายชั่วโมง โดยนายพาวเวลส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และจะยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นในขณะนี้  นายพาวเวลระบุว่า แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการฟื้นตัวขึ้น แต่ตลาดแรงงานยังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  นอกจากนี้ นายพาวเวลยังกล่าวว่า ขณะนี้เศรษฐกิจสหรัฐยังคงห่างไกลจากเป้าหมายของเฟดที่กำหนดให้เศรษฐกิจมีการจ้างงานเต็มศักยภาพ พร้อมกับการรักษาเสถียรภาพของราคา  สำหรับในประเด็นเงินเฟ้อ นายพาวเวลกล่าวว่า เงินเฟ้อได้พุ่งขึ้นในระยะนี้จากปัจจัยชั่วคราวจากการที่รัฐต่างๆทำการเปิดเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะดีดตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ก่อนที่จะปรับตัวลงเมื่อสถานการณ์ต่างๆกลับสู่ภาวะปกติ  นายพาวเวลย้ำว่า เฟดจะใช้นโยบายการเงินในการสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐ จนกว่าจะมีการฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ ซึ่งการที่เฟดจะลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE จากระดับ 120,000 ล้านดอลลาร์/เดือน จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้
  • (+) ดอลล์อ่อน หลังพาวเวลส่งสัญญาณเดินหน้า QE-ไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และจะยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นหลังจากอังกฤษเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.38% แตะที่ 92.4050 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.00 เยน จากระดับ 110.59 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9146 ฟรังก์ จากระดับ 0.9186 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2508 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2518 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1830 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1782 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3852 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3820 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7477 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7445 ดอลลาร์
  • (-) สหรัฐเผยดัชนี PPI พุ่งเกินคาดในเดือนมิ.ย.  กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.6% หลังจากปรับตัวขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ค.  เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 7.3% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากเป็นประวัติการณ์เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2553 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 6.8% หลังจากปรับตัวขึ้น 6.6% ในเดือนพ.ค.
  • (+/-) ซาอุดีอาระเบีย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์บรรลุดีลผลิตน้ำมันได้แล้ว แหล่งข่าวรายงานว่า ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) สามารถบรรลุข้อตกลงในการผลิตน้ำมันได้แล้ว โดยจะมีการปรับเพิ่มระดับการผลิตน้ำมันขั้นต่ำของ UAE สู่ระดับ 3.65 ล้านบาร์เรล/วัน หลังจากที่ข้อตกลงเดิมหมดอายุในเดือนเม.ย.2565 จากปัจจุบันที่ระดับ 3.17 ล้านบาร์เรล/วัน
  • (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 44.44 จุด รับพาวเวลส่งสัญญาณไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณในระหว่างการแถลงต่อสภาคองเกรสเมื่อคืนนี้ว่า เฟดจะเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และจะยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นในขณะนี้  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,933.23 จุด เพิ่มขึ้น 44.44 จุด หรือ +0.13% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,374.30 จุด เพิ่มขึ้น 5.09 จุด หรือ +0.12% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,644.95 จุด ลดลง 32.70 จุด หรือ -0.22%
  • (+/-) ไบเดน-เดโมแครต เดินหน้าผลักดันข้อตกลงงบค่าใช้จ่าย 3.5 ล้านล้านดอลลาร์  ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ร่วมประชุมกับวุฒิสมาชิกสังกัดพรรคเดโมแครต เพื่อหารือรายละเอียดการจัดสรรงบภายใต้ข้อตกลงงบประมาณ 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ที่ตั้งเป้าจะนำไปใช้งานด้านบริการสาธารณสุขสำหรับชาวอเมริกันผู้สูงอายุ รวมทั้งโครงการเพื่อรับมือกับปัญหาสภาพอากาศที่
  • เปลี่ยนแปลง และโครงการอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือครอบครัวชาวอเมริกัน  ก่อนการประชุมในวันพุธ ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา ประกาศว่า ข้อตกลงงบประมาณล่าสุดนี้จะเป็น “แผนการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในหลายทศวรรษสำหรับชาวอเมริกันชนชั้นกลาง”

โดย : บริษัท จีแคป จำกัด

แนะแนวทางการลงทุน

แนวรับ 1,815-  1,810- 1,805

แนวต้าน  1,833–1,838– 1,843

                ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน ทำให้ภาพรวมทองคำระยะกลางมีมุมมองที่เป็นบวก นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง จากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณเดินหน้าทำ (QE) และจะยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้เกิดแรงซื้อในฝั่งทองคำอีกครั้ง  แนะเก็งกำไรขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองคำช่วงเช้า

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และจะยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นหลังจากอังกฤษเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี

                 มุมมองทองคำภาคเช้า   ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือนเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และจะยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับราคาทองคำ

                นอกจากนี้นักลงทุนยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในรอบสัปดาห์นี้ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต  รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ  (Beige Book)  จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน  ดัชนีภาคการผลิต เฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย  ดัชนีภาคการผลิตสาขานิวยอร์ก  รายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรม  ยอดค้าปลีก  ดัชนีสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ  เป็นต้น

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และจะยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นหลังจากอังกฤษเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี

ที่มา : gold.in.th ( 15 ก,ค.64 )

- Advertisement -

Leave a Reply