ราคาทองวันนี้ ข่าวทองคำ

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 1 ก.ย.64 by GT, SCT, HGF, GCAP, YLG ,TDC, MTS

1,020

- Advertisement -

โดย : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

Fundamental

  • สหรัฐฯกดดันให้ที่ประชุม OPEC เพิ่มอุปทานน้ำมันวันละ 4 แสนบาร์เรล จนถึงสิ้นปีนี้
  • ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐฯ เดือน ส.ค. ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน
  • อินเดียเผย GDP พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่+20.1%เพราะตัวเลขของปีก่อนออกมาต่ำผิดปกติที่ -24.4% เนื่องจากผลกระทบของการปิดเมืองจากภาวะวิกฤตโควิดแพร่ระบาดอย่างไรก็ตาม ถือเป็นสัญญาณบวกว่าการแพร่ระบาดกำลังลดลงและทั่วโลกกำลังทยอยเปิดเศรษฐกิจภายในประเทศกันมากขึ้น

Technical

  • ราคาแกว่งลงมาย้ำ 1,800 แต่มีแรงซื้อกลับทันที จึงยังคงมองทางบวกว่าราคาจะปรับตัวขึ้นได้อีก แต่ระวัง bearish divergence ใน RSI จะทำให้จบรอบ
  • เส้น MA ยกตัวขึ้น ราคาร่วงลงไปแล้วกลับขึ้นมาใหม่แสดงว่ามีแรงซื้อกลับทันที จึงยังคงมองว่าแนวโน้มว่าราคาจะปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงใหม่อีกครั้ง
  • ทิศทางวันนี้ขึ้นเพื่อจบ?
  • จับจังหวะเล่นยังไง?ซื้อเล่นสั้น

Attention

- Advertisement -

เชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้ากำลังแพร่กระจายทั่วโลก และยังไม่มีวิธีหรือวัคซีนใดที่ป้องกันได้ผลชัดเจน

โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

คำแนะนำ : ทองเด้งไม่ผ่าน 1820 เลยเจอแรงขาย ลงมาตั้งฐานใหม่ คืนนี้ตัวเลขสำคัญอาจผันผวน

แนวรับ 1800 / 1790/ 1784  

แนวต้าน 1815/1820/1835

                 Gold/silver              USD                        Baht         DOW (stock)
ระยะสั้น    SW/SW DOWN   SW /SW UP                 SW                  SW  

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงหนุนราคาทองคำ

คืนนี้ติดตามการจ้างงานภาคเอกชน ADP ของสหรัฐ

ราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,800-1,823 ดอลลาร์

  • ราคาทองคำ Spot เมื่อวานปรับเพิ่มขึ้น  เนื่องจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าภายหลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นทั้งนี้นักลงทุนรอติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำ 1.46 ตัน
  • คืนนี้เวลา19.15 น. สหรัฐจะประกาศการจ้างงานภาคเอกชน ADP เดือนส.ค. ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 640,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 330,000 ตำแหน่ง ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนส.ค. โดยISM ตลาดคาดจะลดลงเป็น 58.5 จากเดือนก.ค.อยู่ที่ระดับ 59.5
  • แนวโน้มราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,800-1,823 ดอลลาร์ ทั้งนี้คาดราคาทองคำจะปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,833ดอลลาร์ได้ในระยะถัดไป  ระยะสั้นราคาทองคำมีแนวต้าน 1,823 ดอลลาร์และ 1,833 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์และ 1,790 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,813.40+3.701,800/1,7901,823/1,833

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
27,750-15027,450/27,30027,800/27,950

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
27,780-3027,620/27,46027,940/28,080

การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำที่ราคาทองคำ Spot1,800ดอลลาร์ (GF27,620บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,790 ดอลลาร์(GF27,460บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,816.00+1.101,801/1,7911,824/1,831

การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำที่ราคา GOU211,801ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,791 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้แข็งค่าอย่างต่อเนื่องเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศดีขึ้นต่อเนื่องนอกจากนี้เงินบาทแข็งค่าตามทิศทางในภูมิภาคซึ่งนักลงทุนรอติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้สำหรับ USD Futures เดือนก.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 32.10 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 32.30บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนหลังความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐร่วงต่ำสุดในรอบ 6 เดือน

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (31 ส.ค.) หลังจากConference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจเปิดเผยผลสำรวจระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.03% แตะที่ 92.6337 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดบวก $5.9 นลท.ซื้อทองคำหลังความเชื่อมั่นผู้บริโภคดิ่งหนัก

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (31 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้เพื่อเป็นสัญญาณบ่งชี้ไทม์ไลน์ในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)     ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.9 ดอลลาร์หรือ 0.33% ปิดที่ 1,818.1 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดทรงตัวที่ 24.01 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดลบ 71 เซนต์กังวลโอเปกพลัสเพิ่มการผลิต

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (31 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสจะตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมวันนี้นอกจากนี้การชะลอตัวของภาคการผลิตจีนยังส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความต้องการใช้น้ำมันในประเทศจีนสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 71 เซนต์หรือ 1% ปิดที่ 68.50 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 42 เซนต์หรือ 0.6% ปิดที่ 72.99 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดลบ 39.11 จุดจากแรงขายหุ้นพลังงาน-หุ้นเทคโนฯ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (31 ส.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งรวมถึงหุ้นZoom Video Communications ที่ทรุดตัวลงกว่า 16% ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,360.73 จุดลดลง 39.11 จุดหรือ -0.11% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,522.68 จุดลดลง 6.11 จุดหรือ -0.13% ดัชนีNasdaqปิดที่ 15,259.24 จุดลดลง 6.65 จุดหรือ -0.04%

นักวิเคราะห์คาดตัวเลขจ้างงานสหรัฐชะลอตัวเดือนส.ค. เหตุไวรัสเดลตาระบาดหนัก

นางไดแอนสวองค์หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทแกรนท์ธอร์นตันซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบบัญชีรายใหญ่ของสหรัฐคาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเพียง675,000ตำแหน่งโดยชะลอตัวลงจากเดือนก.ค.ที่มีการขยายตัวแข็งแกร่งถึง943,000ตำแหน่งซึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19สายพันธุ์เดลตานางสวองค์กล่าวว่าแม้ตัวเลขจ้างงานเดือนส.ค.จะได้ปัจจัยหนุนจากการจ้างงานใหม่ในภาคการศึกษาของรัฐบาลเนื่องจากโรงเรียนและมหาวิทยาลัยเริ่มกลับมาเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งแต่ก็มีโรงเรียบางแห่งต้องกักตัวบุคลากรเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19และมีโรงเรียนอีกส่วนหนึ่งที่ต้องกลับไปเรียนออนไลน์อีกครั้งหลังเปิดทำการได้ไม่นาน   “จำนวนผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้นซึ่งเกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตานั้นคาดว่าจะส่งผลให้การจ้างงานในธุรกิจสันทนาการและที่พักอาศัยชะลอตัวลงด้วย” นางสวองค์กล่าวพร้อมกับยกตัวอย่างข้อมูลบัตรเครดิตซึ่งแสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายในภัตตาคารชะลอตัวลงในช่วงปลายเดือนก.ค.และส.ค.ซึ่งเป็นช่วงที่จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นนอกจากนี้นางสวองค์คาดว่าอัตราว่างงานเดือนส.ค.ของสหรัฐจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ5.4%โดยได้ปัจจัยหนุนจากอัตราการมีส่วนร่วมด้านแรงงานที่ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ในวันศุกร์นี้เวลา19.30น.ตามเวลาไทย

ผลวิจัยเบลเยียมชี้วัคซีนโมเดอร์นาสร้างภูมิคุ้มกันโควิดได้มากกว่าไฟเซอร์2เท่า

ผลวิจัยจากเบลเยียมซึ่งใช้ข้อมูลจากบุคลากรสาธารณสุขเกือบ2,500คนเพื่อเปรียบเทียบระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายหลังจากได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19ระบุว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19ของโมเดอร์นาสามารถสร้างแอนติบอดี้ในร่างกายได้มากกว่า2เท่าเมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทคผลวิจัยพบว่าระดับแอนติบอดี้ในร่างกายของผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อโควิด-19มาก่อนและได้รับการฉีดวัคซีนของโมเดอร์นาทั้ง2โดสอยู่ที่ระดับ2,881หน่วยต่อมิลลิลิตรเทียบกับ1,108หน่วยต่อมิลลิลิตรของไฟเซอร์งานวิจัยดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ในวารสารสมาคมการแพทย์อเมริกันโดยระบุว่าความแตกต่างนี้อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุเช่นปริมาณสารออกฤทธิ์ (100ไมโครกรัมในวัคซีนโมเดอร์นาเทียบกับ30ไมโครกรัมในวัคซีนไฟเซอร์) หรือระยะเวลาระหว่างการฉีดวัคซีนแต่ละโดส (4สัปดาห์สำหรับวัคซีนโมเดอร์นาเทียบกับ3สัปดาห์ของวัคซีนไฟเซอร์)   นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่เผยแพร่เมื่อวันที่9ส.ค. ซึ่งใช้ข้อมูลจากระบบสุขภาพMayo Clinic ในสหรัฐที่ระบุว่าวัคซีนของโมเดอร์นามีความเชื่อมโยงกับการลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19ได้มากเป็น2เท่าเมื่อเทียบกับวัคซีนของไฟเซอร์

EU ถอดสหรัฐจากรายชื่อประเทศปลอดภัยเหตุโควิดระบาดไม่หยุด

สภาสหภาพยุโรป (EU) ประกาศถอดสหรัฐออกจากรายชื่อประเทศที่ปลอดภัยด้านการเดินทางเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19ในสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยนอกจากสหรัฐแล้วEU ยังได้ถอดอิสราเอล, เลบานอน, มอนเตเนโกร, มาซิโดเนียเหนือและโคโซโวออกจากรายชื่อประเทศและเขตแดนปลอดภัยสำหรับการเดินทางโดยไม่มีเหตุจำเป็นความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามกับเมื่อช่วงเดือนมิ.ย. ที่EU กำหนดให้สหรัฐอยู่ในกลุ่มประเทศปลอดภัยก่อนจะเข้าช่วงเทศกาลวันหยุดหน้าร้อนทั้งนี้EU ได้ออกแถลงการณ์แนะนำให้ประเทศสมาชิกEU จำกัดการเดินทางของผู้ที่มาจากสหรัฐเนื่องจากในสหรัฐมีการแพร่ระบาดของโควิด-19อย่างหนักโดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่977,947รายและผู้เสียชีวิต7,394รายซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในโลกคำแนะนำดังกล่าวไม่มีผลผูกมัดใดๆแต่ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศและเขตแดนเหล่านี้อาจถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดขึ้นรวมถึงมีข้อจำกัดมากขึ้นเมื่อเดินทางมายังยุโรปเช่นต้องถูกบังคับให้กักตัว

โดย : บริษัท จีแคป จำกัด

แนะแนวทางการลงทุน
แนวรับ 1,805 – 1,800 – 1,796
แนวต้าน 1,822 – 1,828– 1,833
ราคาทองคำปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน นอกจากนี้สกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าได้กระตุ้นแรงซื้อทองคำเพิ่มขึ้น แนะเก็งกำไรทิศทางขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองคำช่วงเช้า
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) หลังจาก Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน

มุมมองทองคำภาคเช้า ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
หลังมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อเป็นสัญญาณบ่งชี้ไทม์ไลน์ในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การจ้างงานนอกภาคเกษตร ADP ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต ดัชนีภาคการผลิต ISM ค่าใช้จ่ายด้านก่อสร้าง ดุลการค้า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน ผลผลิตนอกภาคเกษตร คำสั่งซื้อโรงงาน การจ้างงานนอกภาคการเกาตร อัตราการว่างงาน รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงการทำงาน เป็นต้น

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31ส.ค.) หลังจาก Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

เปิดสถานะซื้อเมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงใกล้โซนแนวรับบริเวณ 1,801-1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนได้ยังมีลุ้นที่ราคาอาจไปทดสอบแนวต้านโซนที่ 1,823-1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนไม่ได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมาอีกครั้ง

แนวรับ : 1,796 1,775 1,751  แนวต้าน : 1,833 1,849 1,864

จจัยพื้นฐาน :

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนตามการเคลื่อนไหวของดัชนีดอลลาร์ที่ตอบรับการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ โดยราคาทองคำร่วงลงก่อนจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ในช่วงเวลาสั้นๆ หลังผลสำรวจของ S&P CoreLogic Case-Shiller พบว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 18.6% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการทะยานขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 1987และเป็นผลให้ราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 1,801.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ดัชนีดอลลาร์จะกลับมาอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว  หลังการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดภาคการผลิตในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐปรับตัวลดลงเกินคาดสู่ระดับ 66.8 ในเดือนส.ค. ขณะที่ Conference Board เผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 113.8 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. จากระดับ 125.1 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 124.0 โดยได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 และอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น  สถานการณ์ดังกล่าวกดดันดัชนีดอลลาร์ให้อ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า3สัปดาห์ที่ 92.403 และปิดตลาดด้วยการอ่อนค่าลง -0.06% จนกระตุ้นแรงซื้อทองคำให้ทะยานขึ้นมาปิดตลาดในแดนบวกได้ในที่สุด  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -1.46 ตัน  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตจากมาร์กิตและ ISM ของสหรัฐ

ปัจจัยทางเทคนิค :

ราคาทองคำยังคงมีการแกว่งตัวในกรอบและแรงซื้อค่อนข้างจำกัด แต่ระยะสั้นอาจมีแรงดีดกลับและพยายามจะดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านระดับ 1,823-1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนเหนือระดับดังกล่าวได้  อาจจะเกิดแรงขายสลับออกมาอีกครั้ง ประเมินแนวรับบริเวณ 1,801-1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

ซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น โดยเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำย่อตัวลงมาบริเวณ 1,801-1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุดแนวรับ 1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์) แนะนำให้แบ่งขายทองคำออกขายเพื่อทำกำไร หากราคาทองคำขยับขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 1,823-1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+)Conference Board เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐร่วงต่ำสุดรอบ 6 เดือนผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 113.8 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. จากระดับ 125.1 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 124.0
  • กระทรวงสถิติแห่งชาติอินเดียเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 20.1% ในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. ซึ่งเป็นไตรมาสแรกของปีงบประมาณของอินเดีย  ตัวเลข GDP ดังกล่าวบ่งชี้ถึงการขยายตัวมากเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่รัฐบาลเริ่มเก็บข้อมูลตัวเลข GDP นับตั้งแต่ปี 2539 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 20.0%
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) หลังจาก Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน  ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.03% แตะที่ 92.6337 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9149 ฟรังก์ จากระดับ 0.9165 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.00 เยน จากระดับ 109.88 เยน และทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2607 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1812 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1803 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3757 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3767 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7318 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7297 ดอลลาร์สหรัฐ
  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งรวมถึงหุ้น Zoom Video Communications ที่ทรุดตัวลงกว่า 16% ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,360.73 จุด ลดลง 39.11 จุด หรือ -0.11% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,522.68 จุด ลดลง 6.11 จุด หรือ -0.13% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,259.24 จุด ลดลง 6.65 จุด หรือ -0.04%
  • หอการค้าอเมริกันในเมืองเฉิงตูของจีนเปิดเผยว่า กระทรวงกิจการพลเรือน (MCA) ของจีนได้มีคำสั่งให้ทางหอการค้าฯยุติการทำงาน โดยออกประกาศถึงเจ้าหน้าที่ภายในองค์กรระบุว่า เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของรัฐบาลจีน ทางองค์กรมีความจำเป็นต้องหยุดดำเนินการในนามหอการค้าอเมริกันในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน
  • ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 18.6% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการทะยานขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2530 จากระดับ 16.8% ในเดือนพ.ค.  ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ พุ่งขึ้น 19.1% ในเดือนมิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 17.1% ในเดือนพ.ค.

โดย : บริษัท ที.ดี.ซี. โกลด์ จำกัด

ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวลงทดสอบ ปรับตัวสูงขึ้นทดสอบกรอบบนบริเวณ $1816ก่อนที่จะลงมาทดสอบ $1808 จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลง ขณะที่ Bond yieldยังคงทรงตัวอยู่บริเวณ 1.3% และตลาดหุ้นเริ่มทรงตัว โดยรวมแล้วตลาดยังอยู่ในทิศทางที่ยังแกว่งตัวออกทางด้านข้าง แต่มองภาพรวมระยะสันวันนี้ยังคงปรับตัวลดลงสู่แนวรับ $1806-1800 ซึ่งเป็นกรอบทางด้านล่าง

โดย  : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวกรอบแคบระหว่าง 1,810 – 1,817 เหรียญ โดยรอคอยตัวเลขเศรษฐกิจใหม่ๆที่จะเข้ามา โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯคืนวันศุกร์ จึงจะเห็นได้ถึงแรงซื้อและขายเข้ามาโดยตลอด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯเมื่อวานนี้ออกมาแย่กว่าคาด ได้แก่ Chicago PMI และ CB Consumer Confidence สำหรับคืนนี้ต้องติดตาม ADP Non-Farm Employment Change  และ ISM Manufacturing PMI ที่คาดว่าจะออกมาแย่ลง ทางด้านกองทุน SPDR ขายออก 1.46 ตัน ปัจจุบันลดการถือครองลงมาสู่ระดับ 1,000.26 ตัน ในส่วนดัชนีดอลลาร์รีบาวน์เล็กน้อย ขณะที่เงินบาทแข็งค่าต่อหลังจากที่เคยอยู่บริเวณ 32.50 บาท/ดอลลาร์ เช้านี้เคลื่อนไหวที่ 32.35 บาท/ดอลลาร์ โดยมีผลจากตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศที่เป็นตัวกดดันเงินบาทอย่างมาก ในส่วนของ Volume ซื้อขาย GOF ค่อนข้างเบาบาง

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 

ราคาทองคำค่อนข้างเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบ 1,810 – 1,818 เหรียญโดยประมาณ และคาดว่าจะเห็นราคาเคลื่อนไหวในกรอบเช่นเดิม สำหรับ Gold Comex และ Gold Online Futures คาดจะมีแนวรับ 1,808 เหรียญ และแนวต้าน 1,822 เหรียญ ในส่วนของทองคำไทยวันนี้คาดว่าจะเปิดตลาดเท่าดิม

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ 

เก็งกำไรระยะสั้นๆในกรอบ Sideways เป็นลักษณะลงซื้อขึ้นขาย เน้นบริหารพอร์ตก่อนทราบตัวเลขสำคัญศุกร์นี้

– นักลงทุนที่ถือ Long Position  
ลงซื้อขึ้นขาย ทำกำไรระยะสั้นๆในวัน เน้นบริหารพอร์ตสมดุลกับการแกว่งของทิศทาง

– นักลงทุนที่ถือ Short Position

เล่นสั้นๆในกรอบ เข้าออกเร็วภายในวันเท่านั้น ควรลดสถานะและบริหารพอร์ตก่อนทราบตัวเลข Non-Farm Payrolls ศุกร์นี้


Gold Futures 10V21 จะมีแนวรับที่ระดับ 27,770 บาท และแนวต้านที่ระดับ 28,000  บาท

ที่มา : gold.in.th ( 1 ก.ย.64 )

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.