ราคาทองวันนี้ ข่าวทองคำ

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 3 ก.ย.64 by HGF, GT, SCT, TDC, YLG, GCAP

764

- Advertisement -

,

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

กองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำ 1.74 ตัน

คืนนี้ 1 ทุ่มครึ่งติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ

ราคาทองคำคาดผันผวนตามการจ้างงานของสหรัฐ

  • ราคาทองคำ Spot เมื่อวานปรับลดลง นักลงทุนรอติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนส.ค.ในคืนนี้เป็นหลัก ส่วนสหรัฐประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงอยู่ที่ระดับ 340,000 รายซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ  17 เดือนและดีกว่าตลาดคาดจะลดลงอยู่ที่ระดับ 342,000 รายส่วนยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.4% เป็นไปตามที่ตลาดคาดทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำ 1.74 ตันเมื่อวาน
  • คืนนี้ 1 ทุ่มครึ่งติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนส.ค. ซึ่งตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 750,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เดือนก.ค.เพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง 943,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้ในกรณีที่ตัวเลขการจ้างงานออกมาดีกว่าหรือแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้จะกระทบต่อราคาทองคำและมีผลต่อการคาดการณ์แนวโน้มนโยบายการเงินของเฟดเกี่ยวกับช่วงเวลาของการปรับลดวงเงินมาตรการ QE ถ้าการจ้างงานออกมาดีกว่าตลาดคาด ราคาทองคำจะลดลง แต่ถ้าออกมาแย่กว่าตลาดคาด ราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นส่วนอัตราการว่างงานเดือนส.ค.ตลาดคาดจะลดลงเป็น 5.2% จากระดับ 5.4% ในเดือนก.ค. นอกจากนี้สหรัฐจะประกาศดัชนี PMI ภาคบริการเดือนส.ค. โดยISM ตลาดคาดจะลดลงเป็น 61.6
  • แนวโน้มราคาทองคำคาดผันผวนตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ ระยะสั้นราคาทองคำมีแนวต้าน 1,820-1,823 ดอลลาร์และแนวต้านสำคัญ 1,833 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์และ 1,790 ดอลลาร์

- Advertisement -

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,808.41-5.391,800/1,7901,823/1,833

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
27,900+15027,600/27,50027,900/28,050

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
27,960-9027,750/27,63028,050/28,200

การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำที่ราคาทองคำ Spot1,800ดอลลาร์ (GF27,750บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,790 ดอลลาร์(GF27,630บาท) และขายทำกำไรที่ราคาทอง Spot1,823ดอลลาร์ (GF28,050บาท) และ 1,833ดอลลาร์ (GF28,200บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,811.40-6.001,801/1,7911,824/1,831

การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำที่ราคา GOU211,801ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,791 ดอลลาร์ และขายทำกำไรที่ราคาGOU21 1,824ดอลลาร์และ 1,834ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดแข็งค่าขึ้น หลังจากเมื่อวานเงินบาทอ่อนค่าลง 16 ส.ต.ทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆนักลงทุนรอติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนส.ค.ในคืนนี้เพื่อประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟดถึงช่วงเวลาของการปรับลดวงเงินมาตรการ    QEสำหรับ USD Futures เดือนก.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 32.30 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 32.50บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนค่านลท.จับตาสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานวันนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ก.ย.) โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ในวันนี้ซึ่งคาดว่าข้อมูลดังกล่าวจะบ่งชี้ไทม์ไลน์ในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)    ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.25% แตะที่ 92.2254 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดลบ 4.5 ดอลล์ก่อนสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานวันนี้

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ก.ย.) โดยสัญญาทองคำปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่สองท่ามกลางการซื้อขายที่ซบเซาเนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.5 ดอลลาร์หรือ 0.25% ปิดที่ 1,811.5 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 30.3 เซนต์หรือ 1.25% ปิดที่ 23.918 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดพุ่ง $1.40 ขานรับตลาดแรงงานฟื้น-สต็อกน้ำมันร่วง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือนซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันนอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมาสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์หรือ 2% ปิดที่ 69.99 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.2564    สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.44 ดอลลาร์หรือ 2% ปิดที่ 73.03 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดบวก 131.29 จุดรับข้อมูลแรงงานสดใส-หุ้นพลังงานพุ่ง

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ก.ย.) ขณะที่ดัชนีS&P500 และNasdaqปิดทำนิวไฮโดยได้ปัจจัยหนุนจากจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือนรวมทั้งการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มพลังงานขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันนี้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,443.82 จุดเพิ่มขึ้น 131.29 จุดหรือ +0.37% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,536.95 จุดเพิ่มขึ้น 12.86 จุดหรือ +0.28% ดัชนีNasdaqปิดที่ 15,331.18 จุดเพิ่มขึ้น 21.80 จุดหรือ +0.14%

สหรัฐฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเข็มกระตุ้นให้กับประชาชนแล้วกว่า1ล้านราย

สหรัฐได้ทำการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19โดสที่3ของไฟเซอร์-ไบออนเทคหรือโมเดอร์นาให้กับประชาชนแล้วกว่า1ล้านคนนับตั้งแต่วันที่13ส.ค. หลังจากหน่วยงานกำกับดูแลได้อนุญาตให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่กลุ่มประชาชนที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ    CDC แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19โดสที่3อย่างน้อย28วันหลังจากได้รับวัคซีนโดส2ของไฟเซอร์หรือโมเดอร์นาสำหรับผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันปานกลางหรืออ่อนแอซึ่งมีแนวโน้มจะได้รับภูมิคุ้มกันน้อยกว่าจากวัคซีน2โดสรัฐบาลสหรัฐประกาศแผนเริ่มการฉีดวัคซีนกระตุ้นในวงกว้างขึ้นโดยจะเริ่มในวันที่20ก.ย.นี้ถ้าหากได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) และCDC ของสหรัฐ

โมเดอร์นายื่นข้อมูลวัคซีนกระตุ้นเข็ม3ให้FDA สหรัฐชี้ต้านโควิดเดลตาได้

บริษัทโมเดอร์นาอิงค์เปิดเผยว่าบริษัทได้ยื่นข้อมูลให้กับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐแล้วเพื่อประกอบการพิจารณาในการขออนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19เข็มกระตุ้นโมเดอร์นาเปิดเผยว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลการใช้วัคซีนเข็มกระตุ้นต่อจากวัคซีนสองโดสแรกในปริมาณ50โมโครกรัมซึ่งนายสเตฟานบันเซลซีอีโอของโมเดอร์นาระบุในแถลงการณ์ว่าเป็นปริมาณที่บ่งชี้ว่ามีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการตอบสนองของแอนติบอดีต่อไวรัสโควิด-19สายพันธุ์เดลตาได้เป็นอย่างดีก่อนหน้านี้FDA ได้อนุมัติการใช้งานวัคซีนเข็มกระตุ้นของโมเดอร์นาและไฟเซอร์ในผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำเมื่อช่วงต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมาทั้งนี้โมเดอร์นาคาดว่าจะส่งข้อมูลให้องค์การยาแห่งยุโรป (EMA) รวมถึงหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆทั่วโลกพิจารณาต่อไปในเร็วๆนี้หลายประเทศรวมถึงสหรัฐได้เสนอหรือเตรียมแผนที่จะฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ผู้สูงอายุหรือผู้ที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอเพื่อรับมือกับไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่ระบาดอย่างรุนแรงและเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันหลังจากที่ระดับแอนติบอดีในผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วเริ่มลดลงหลังผ่านไป6เดือน

WHO วอนผู้นำโลกชะลอฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิเปิดโอกาสประเทศยากจนได้ฉีดเข็มแรก องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศย้ำเพื่อเรียกร้องให้ผู้นำโลกเลื่อนกำหนดการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19เพื่อกระตุ้นภูมิไปอย่างน้อย1เดือนเพื่อให้ประเทศที่ยากจนมีโอกาสในการฉีดวัคซีนโดสแรกให้กับประชากรของตนเองได้   WHO ระบุว่าขณะนี้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19ไปแล้วกว่า5พันล้านโดสทั่วโลกแต่วัคซีน75%กลับมีการฉีดเพียงใน10ประเทศเท่านั้น     “ด้วยเหตุนี้ผมจึงอยากขอให้มีการชะลอการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิออกไปก่อนอย่างน้อยก็จนกว่าจะสิ้นเดือนนี้เพื่อให้ประเทศที่ยังมีความล่าช้าในการฉีดวัคซีนสามารถตามได้ทัน” นายแพทย์ทีโดรสอัดฮานอมกีบรีเยซุสผู้อำนวยการใหญ่ของWHO ระบุในแถลงข่าวนายแพทย์ทีโดรสกล่าวว่าประเทศที่ร่ำรวยบางแห่งมีอัตราการฉีดวัคซีนของประชากรวัยผู้ใหญ่ถึง50%ในขณะที่ประเทศยากจนซึ่งรวมถึงหลายประเทศในทวีปแอฟริกายังมีอัตราการฉีดวัคซีนน้อยกว่า2%ทั้งนี้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐระบุว่าสหรัฐได้ฉีดวัคซีนให้กับประชากรไปแล้วกว่า52%นายแพทย์ทีโดรสกล่าวว่าอาจต้องมีการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิสำหรับผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือไม่แข็งแรงแต่ในขณะนี้ไม่ควรมีการฉีดวัคซีนกระต้นภูมิให้กับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและได้รับวัคซีนครบโดสแล้วด้านประธานาธิบดีโจไบเดนเผยว่าสหรัฐมีแผนที่จะเริ่มฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิตั้งแต่วันที่20ก.ย.เป็นต้นไปหากได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) และCDC

โดย : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

Fundamental

  • นักวิเคราะห์เริ่มคาดกันว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะประกาศปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมเดือนธันวาคม เนื่องจากเศรษฐกิจในยูโรโซนกำลังฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • เริ่มมีรายงานการตรวจพบเชื้อโควิดสายพันธุ์มิวในเอเชียหลายประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น

Technical

  • ราคาแกว่งตัวในกรอบจำกัดมาตลอดสัปดาห์ RSI ลดระดับลงสู่ช่วงกลาง จึงไม่มีสัญญาณว่าจะไปเลือกทางไหน แต่ยังคงถูกbearish divergenceคุมอยู่
  • ภาพรวมราคามีการแกว่งออกข้าง แต่ผันผวนไร้ทิศทางแทบทุกวัน การเลือกทางในวันนี้จึงอาจจะเป็นการเลือกหลอก แล้วกลับมาสวิงในกรอบเดิมต่อ
  • ทิศทางวันนี้ลงก็หลอก ขึ้นก็ไม่จริง
  • จับจังหวะเล่นยังไง?ซื้อเล่นสั้น ถ้าหลุด 1,805 ควร stop loss ทันที

Attention

  • คืนนี้ตลาดจับตาตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ เพราะคาดว่าจะลดลงทั้งการจ้างงานและการว่างงาน
  • เชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้ากำลังแพร่กระจายทั่วโลก และยังไม่มีวิธีหรือวัคซีนใดที่ป้องกันได้ผลชัดเจน
  • WHO กำลังจับตาเชื้อโควิดสายพันธุ์มิวในอเมริกาใต้ในขณะที่เชื้อโควิดสายพันธุ์แลมด้ายังคงระบาดอยู่

โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

คำแนะนำ : คืนนี้ตัวเลขจ้างงานชี้ชะตาทอง ถ้ายืน 1803 ได้มีลุ้นทางขึ้น

แนวรับ 1800 / 1790/ 1784  แนวต้าน 1820/ 1825/ 1835
              Gold/silver             USD                       Baht          DOW (stock)
ระยะสั้น   SW/SW UP   SW /SW DOWN            SW                  SW  

ระยะกลาง  SW UP            SW DOWN                SW                SW UP
ระยะยาว BULLISH              Neutral                NEUTRAL         BULLISH
คำแนะนำรายวัน  SIDEWAYS   1800-25
จุดเข้า BUY 1800-10
เป้าหมาย 1825-30
SL 1790รายสัปดาห์
คำแนะนำรายเดือน 1700-1850
จุดเข้า BUY 1780-90 เป้าหมาย 1830/ 1875
SL 1775

บทวิเคราะห์ : สัปดาห์นี้ทองไม่ไปไหนเรียงตัวเหนือ $1800 รอตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ คืนนี้ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลข NFP และอัตราการว่างงาน หลังการประกาศหากราคาทองไม่ปิดต่ำกว่า $1800-1803 ทองยังเป็นแนวโน้มทางขึ้นเพื่อรอไปทดสอบ $1825-34 ในทางกลับกันหากราคาหลุด $1800 ให้ปรับพอร์ตหรือชะลอการซื้อเพราะอาจจะต้องพักฐานสั้นๆอีกรอบ คาดว่าราคาทองน่าจะมีโอกาสขึ้นมากกว่าลงจากปัจจัยพื้นฐานจาก FED และค่าเงิน USD ที่อ่อนค่า ส่วนค่าเงินบาทเริ่มฟื้นมาอ่อนค่านิดๆ ทำให้ราคาทองไทยชะลอการลง
กลยุทธ์ : ดังนั้นตัวเลขการจ้างงานทั้งหมดที่จะประกาศคืนนี้จะมีผลต่อท่าที FED ในวันที่ 23/09/64  สัปดาห์หน้าไม่ค่อยมีตัวเลขสำคัญ ดังนั้นทองจึงมีโอกาสเป็น TREND ได้ในสัปดาห์หน้าหากตัวเลขมีความชัดเจน

โดย : บริษัท ที.ดี.ซี. โกลด์ จำกัด

ติดตามการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้เวลา 19.30 ตลาดคาดว่าจะออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อยซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำทั้งนี้ยังมีความเสี่ยงที่ตัวเลขจะออกมามากกว่าที่คาดการณ์ เนื่องจากเศรษฐกิจอเมริกาเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ มาตรการเงินช่วยเหลือได้หมดลง และเด็กนักเรียนเริ่มกลับมาเปิดเทอม ทำให้ผู้ปกครองตัดสินใจกลับเข้าทำงานเต็มเวลามากขึ้น ฝั่งราคาทองคำยังผันผวนในกรอบ $1808-1821 ต้องติดตามว่าจะหลุดกรอบบนหรือกรอบล่าง 

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

เก็งกำไรระยะสั้นตามกรอบราคา เปิดสถานะซื้อหากราคาสามารถยืนเหนือ 1,801-1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ให้ทยอยขายทำกำไรหากราคายังไม่ยืนเหนือโซน 1,823-1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,796 1,775 1,751  แนวต้าน : 1,833 1,849 1,864

จจัยพื้นฐาน :

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง  5.39  ดอลลาร์ต่อออนซ์  แม้ว่าระหว่างวันราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,817.03  ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์  หลังจากสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน  โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในยูโรโซน ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าหน้าโรงงาน เพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน  มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.3%  และเมื่อเทียบรายปี เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 12.1% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 11.0%  อย่างไรก็ดี  ราคาทองคำปรับตัวลงในเวลาต่อมา  จากแรงขายทำกำไรเพื่อปรับสถานะการลงทุนก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสำคัญในตลาดแรงงานวันนี้  นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่ลดลงสู่ระดับ 340,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน อีกทั้งยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 345,000 ราย  ซึ่งสะท้อนว่าตลาดแรงงานสหรัฐมีการฟื้นตัวขึ้นแม้จะเผชิญกับการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์เดลต้าก็ตาม  ปัจจัยในที่กล่าวมา  กดดันให้ราคาทองคำดิ่งลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,804.95  ดอลลาร์ต่อออนซ์  แต่แรงซื้อ Buy the dip และการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์ช่วยพยุงราคาเอาไว้  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองลดลง -1.74 ตัน  สำหรับวันนี้จับตาการเปิดเผยตัวเลขตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราการว่างงาน, รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง และดัชนี PMI ภาคการบริการของสหรัฐ  ซึ่งตัวเลขในตลาดแรงงานจะส่งผลต่อการคาดการณ์เกี่ยวกับแผนการลด QE ของเฟดจึงคาดว่าจะสร้างความผันผวนให้กับราคาทองคำในคืนนี้

ปัจจัยทางเทคนิค :

ราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือ 1,823 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ส่งผลให้แรงซื้อยังคงถูกจำกัด สำหรับวันนี้ประเมินแนวต้านระยะสั้นในโซน 1,823-1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านไปได้แนวต้านสำคัญจะอยู่ในบริเวณ 1,849 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แนวรับนั้นยังประเมินในโซนคือ 1,801-1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

การเข้าซื้อยังคงเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยเข้าซื้อเฉพาะเมื่อตลาดปรับตัวลงมาในบริเวณแนวรับ 1,801-1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุน 1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์)ขณะที่การขายทำกำไรพิจารณาในโซน 1,823-1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ดอลล์อ่อนค่า นลท.จับตาสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานวันนี้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ก.ย.) โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ในวันนี้ ซึ่งคาดว่าข้อมูลดังกล่าวจะบ่งชี้ไทม์ไลน์ในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)  ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.25% แตะที่ 92.2254 เมื่อคืนนี้   ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9146 ฟรังก์ จากระดับ 0.9151 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2554 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2615 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 109.96 เยน จากระดับ 109.92 เยน  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1874 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1845 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3839 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3779 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7403 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7374 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (+) นิวยอร์ก-นิวเจอร์ซีย์ประกาศภาวะฉุกเฉิน ขณะดับ 9 ราย หลัง “ไอดา” ถล่มรัฐนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 รายจากเหตุอุทกภัยที่เกิดจากพายุโซนร้อนไอดา  “ดิฉันขอประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือชาวนิวยอร์กที่ได้รับผลกระทบจากพายุ” นางเคธี โฮชูล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กกล่าว  ทั้งนี้ สื่อรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 2 รายจากเหตุน้ำท่วมใหญ่และฝนตกหนักในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ขณะที่รัฐนิวยอร์กมีผู้เสียชีวิต 7 ราย ซึ่งรวมถึงเด็กชายวัย 2 ขวบ
  • (-) สหรัฐเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานต่ำสุด 17เดือนนับตั้งแต่เกิดโควิดกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ340,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563 จากระดับ 354,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้  นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 345,000 ราย
  • (-) บิตคอยน์พุ่งไม่หยุด ล่าสุดทะยานเหนือ $50,000 ทะลุ 1,600,000 บาทบิตคอยน์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานขึ้นเหนือระดับ 50,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 1,600,000 บาท แม้มีข่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐ เรียกร้องให้มีการคุมเข้มการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล  ณ เวลา 19.24 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์พุ่งขึ้น 3.85% สู่ระดับ 50,021.75 ดอลลาร์ หรือราว 1,625,000 บาท ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase  ทั้งนี้ นายแกรี เกนสเลอร์ ประธานก.ล.ต.สหรัฐ เรียกร้องให้แพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลทุกแห่งให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ควบคุมกฎระเบียบ เนื่องจากหากไม่ให้ความร่วมมือ แพลตฟอร์มต่างๆจะเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบเอง  ทางด้านนายไนเจล กรีน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท deVere Group ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเช่นกันว่า “สกุลเงินคริปโตจะต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบ และมีมาตรฐานที่เข้มงวดเหมือนกับระบบการเงินอื่นๆ ซึ่งการดำเนินการที่ดีที่สุดคือการทำผ่านทางแพลตฟอร์มซื้อขายต่างๆ”
  • (-) อดีตจนท.ระดับสูงสหรัฐแนะรัฐบาลไบเดนลดภาษีการค้ากับจีน เชื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างปท.นายแฟรงค์ ลาวิน อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสิงคโปร์และรองเลขาธิการฝ่ายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐเผยว่า การที่สหรัฐเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนสูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจและผู้บริโภคของสหรัฐเอง ขณะที่การลดอัตราการเก็บภาษีอาจเป็นวิธีการที่ฉลาดกว่า
  • (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 131.29 จุด รับข้อมูลแรงงานสดใส-หุ้นพลังงานพุ่งดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ก.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยได้ปัจจัยหนุนจากจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน รวมทั้งการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันนี้  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,443.82 จุด เพิ่มขึ้น 131.29 จุด หรือ +0.37% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,536.95 จุด เพิ่มขึ้น 12.86 จุด หรือ +0.28% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,331.18 จุด เพิ่มขึ้น 21.80 จุด หรือ +0.14%
  • (-) สหรัฐเผยขาดดุลการค้าลดลง 4.3% ในเดือนก.ค.กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 4.3% สู่ระดับ 7.01 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค.

โดย : บริษัท จีแคป จำกัด

แนะแนวทางการลงทุน
แนวรับ 1,800 – 1,795 – 1,790
แนวต้าน 1,828 – 1,833 – 1,838
ราคาทองคำปิดลบเล็กน้อย ราคาทองคำเคลื่อนตัวในกรอบแคบตลอดทั้งวัน ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันคืนนี้อย่างไรก็ตามสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่ายังเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำต่อไปได้ แนะเก็งกำไรทิศทางขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองคำช่วงเช้า
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ก.ย.) โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ในวันนี้ ซึ่งคาดว่าข้อมูลดังกล่าวจะบ่งชี้ไทม์ไลน์ในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

มุมมองทองคำภาคเช้า ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ก.ย.) โดยสัญญาทองคำปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่สอง ท่ามกลางการซื้อขายที่ซบเซา
เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากที่นายเจอโรม นายพาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณว่า เฟดจะเริ่มปรับลดลงวงเงิน QE ก่อนสิ้นปีนี้ ส่วนข้อมูลแรงงานที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 340,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน หรือนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563 จากระดับ 354,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในคืนนี้ ได้แก่ การจ้างงานนอกภาคการเกาตรอัตราการว่างงาน รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงการทำงาน เป็นต้น

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ก.ย.) โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ในวันนี้ ซึ่งคาดว่าข้อมูลดังกล่าวจะบ่งชี้ไทม์ไลน์ในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ที่มา : gold.in.th ( 3 ก.ย. 64 )

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.