ราคาทองวันนี้ ข่าวทองคำ

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 8 ก.ย.64 by HGF, SCT, GT, TDC, YLG, MTS

759

- Advertisement -

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองคำปรับลงแรง เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาก

คืนนี้ติดตามรายงาน Beige Book

ทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,790 ดอลลาร์

  • ราคาทองคำSpot เมื่อวานในช่วงกลางวันปรับขึ้นเนื่องจากตลาดคาดธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะชะลอการปรับลดวงเงินมาตรการ QE แต่ในช่วงกลางคืนราคาทองคำปรับลงแรงหลุด 1,800 ดอลลาร์เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาก และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.373%ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวาน
  • คืนนี้ติดตามรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด12 เขตในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาซึ่งธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)  จะนำข้อมูล Beige Book มาใช้ประกอบการตัดสินใจนโยบายการเงินในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 ก.ย.ส่วนคืนนี้สหรัฐจะประกาศจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครเดือนก.ค. ตลาดคาดจะลดลงเหลือ 10.03ล้านตำแหน่ง
  • หลังจากที่ราคาทองคำไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านสำคัญ 1,833 ดอลลาร์ได้ ทำให้เกิดสัญญาณของการปรับฐานลงดังนั้นแนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดจะเคลื่อนไหว Sideways down โดยคาดทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,790 ดอลลาร์และ 1,780 ดอลลาร์ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,810 ดอลลาร์และ 1,820ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

- Advertisement -

Closechg.SupportResistance
1,794.10-28.941,790/1,7801,810/1,820

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,05027,700/27,55028,000/28,150

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
27,940-16027,850/27,72028,150/28,280

เทรดดิ้งระยะสั้นแนะนำซื้อขายตามกรอบราคาทอง Spot ระหว่าง 1,790-1,810ดอลลาร์(GF27,850-28,150บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,794.40-17.001,791/1,7811,811/1,821

เทรดดิ้งระยะสั้นแนะนำซื้อขายตามกรอบราคา GOU21ระหว่าง 1,791-1,811ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดอ่อนค่าลงต่อเนื่องทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆเนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขตของสหรัฐหรือ Beige Book ในวันนี้ส่วนสถานการณ์โควิดในประเทศจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ค่อนข้างทรงตัว ซึ่งUSD Futures เดือนก.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 32.40 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 32.70บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศดอลล์แข็งเทียบสกุลเงินหลักหลังบอนด์ยีลด์พุ่ง

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐขณะที่นักลงทุนจับตาธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขตของสหรัฐหรือBeige Book ในวันพุธนี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.32% แตะที่ 92.5126 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ ทองปิดร่วง $35.2 เหตุดอลล์แข็ง-บอนด์ยีลด์พุ่งกดดันตลาด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 1,800 เมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ก.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาดทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 35.2 ดอลลาร์หรือ 1.92% ปิดที่ 1,798.5 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 42.9 เซนต์หรือ 1.73% ปิดที่ 24.373 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดลบ 94 เซนต์เหตุดอลล์แข็ง-ซาอุฯลดราคาน้ำมันลูกค้าเอเชีย

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ก.ย.) โดยได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และจากการที่ซาอุดีอาระเบียประกาศลดราคาน้ำมันดิบให้กับลูกค้าในเอเชียสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 94 เซนต์หรือ 1.4% ปิดที่ 68.35 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 53 เซนต์หรือ 0.7% ปิดที่ 71.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดร่วง 269.09 จุดวิตกไวรัสเดลตาฉุดเศรษฐกิจ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างไรก็ดีดัชนีNasdaqปิดทำนิวไฮโดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,100.00 จุดลดลง 269.09 จุดหรือ -0.76% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,520.03 จุดลดลง 15.40 จุดหรือ -0.34% ดัชนีNasdaqปิดที่ 15,374.33 จุดเพิ่มขึ้น 10.81 จุดหรือ +0.07%

โกลด์แมนแซคส์หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐเหตุผู้บริโภคลดใช้จ่ายขณะเดลตาระบาด

โกลด์แมนแซคส์ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้โดยคาดว่าชาวอเมริกันมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายน้อยลงในช่วงเวลาที่ไวรัสโควิด-19สายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาดอย่างหนักนายรอนนีวอล์คเกอร์นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมนแซคส์เปิดเผยในรายงานคาดการณ์ล่าสุดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพียง5.7%ในปีนี้ซึ่งลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ6%   “ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคเริ่มปรากฎให้เห็นมากขึ้นซึ่งได้แก่การระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่กำลังสร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจในไตรมาส3, มาตรการกระตุ้นด้านการคลังที่เริ่มแผ่วลงและการฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าของภาคบริการซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐในระยะกลาง” นายวอล์คเกอร์กล่าวพร้อมระบุว่า “ผู้บริโภคชาวอเมริกันจะเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากมากกว่าที่เราคาดไว้ในเบื้องต้น”   นอกจากนี้โกลด์แมนแซคส์ยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราว่างงานของสหรัฐในปีนี้ขึ้นสู่ระดับ4.2%จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ4.1%การปรับทบทวนตัวเลขคาดการณ์ของโกลด์แมนแซคส์มีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง235,000ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่720,000ตำแหน่งและน้อยกว่าเดือนก.ค.ที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง1,053,000ตำแหน่งซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19สายพันธุ์เดลตาข้อมูลจากหนังสือพิมพ์USA Today เมื่อวันจันทร์ (6ก.ย.) ระบุว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19รายวันในสหรัฐพุ่งขึ้น316%นับตั้งแต่วันแรงงานในปี2563และอัตราการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลพุ่งขึ้น158%เมื่อเทียบกับช่วงวันหยุดแรงงานเมื่อปีที่แล้ว

ผลวิจัยจีนชี้ซิโนแวคเข็ม3ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานต่อเชื้อเดลตาได้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างผลการวิจัยจากจีนว่าการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่3ด้วยซิโนแวคสามารถเพิ่มแอนติบอดีที่ค่อยๆลดลงให้ดันสูงขึ้นมาได้ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวได้ช่วยลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันในระยะยาวต่อเชื้อไวรัสโควิด-19สายพันธุ์เดลตาที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้และสถาบันจีนอื่นๆระบุว่านักวิจัยไม่พบการทำงานของแอนติบอดีต่อต้านเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาในตัวอย่างที่เก็บจากผู้ที่เคยฉีดวัคซีน “โคโรนาแวค” ของบริษัทซิโนแวคภายหลังฉีดวัคซีนดังกล่าวครบ2โดสเป็นเวลา6เดือนแต่สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนกระตุ้นนั้นจะมีภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตามากกว่า2.5เท่าเมื่อเทียบกับผู้ที่ฉีดวัคซีนเพียง2เข็มหลังจากที่ได้รับวัคซีนเข็ม3ผ่านไปราว4สัปดาห์อนึ่งผลการวิจัยดังกล่าวจัดทำโดยใช้การวิจัยตัวอย่างจากผู้เข้าร่วมโครงการ66รายโดยมีอาสาสมัคร38รายที่ได้รับวัคซีน2หรือ3โดสในปัจจุบันหลายประเทศที่พึ่งพาวัคซีนของซิโนแวคเป็นหลักในช่วงก่อนหน้านี้ได้เริ่มฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม3ให้กับประชาชนโดยเลือกใช้วัคซีนจากชาติตะวันตกซึ่งมีเงื่อนไขว่าประชาชนกลุ่มดังกล่าวจะต้องเคยได้รับวัคซีนซิโนแวคมาแล้ว2โดสอย่างไรก็ตามบางประเทศปฏิเสธที่จะใช้วัคซีนดังกล่าวโดยระบุว่ายังขาดข้อมูลด้านประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา

องค์การยาEU เผยอยู่ในระหว่างศึกษาข้อมูลการฉีดไฟเซอร์เป็นเข็มกระตุ้น

องค์การยาแห่งยุโรป (EMA) เปิดเผยว่าทางองค์การอยู่ในระหว่างการประเมินข้อมูลเกี่ยวกับการใช้วัคซีนจากไฟเซอร์/ไบออนเทคฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 ให้กับกลุ่มผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไปที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้วเป็นเวลา 6 เดือนทั้งนี้ไฟเซอร์และไบออนเทคได้ยื่นคำร้องต่อEMA ซึ่งระบุว่าจะดำเนินการประเมินข้อมูลอย่างรวดเร็วโดยคาดว่าจะได้ผลลัพธ์ออกมา “ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า”  นอกจากนี้EMA ยังกล่าวด้วยว่าทางองค์กรกำลังประเมินข้อมูลเกี่ยวกับการใช้วัคซีนmRNA เพิ่มเติมในผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอโดยผลการตรวจสอบดังกล่าวจะมีการประกาศผลเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

คำแนะนำ : ทองเจอทุบ หลัง USD รีบาวด์ เข้าโหมดพักฐานแต่ภาพรวมดีอยู่
 
แนวรับ 1820 / 1810 / 1800  แนวต้าน 1800 / 1810 / 1825

Gold/silver           USD                       Baht        DOW (stock)
ระยะสั้น   SW                SW /SW DOWN       SW                SW DOWN
ระยะกลาง  SW UP            SW DOWN               SW                SW UP
ระยะยาว BULLISH              Neutral            NEUTRAL         BULLISH
คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS
กรอบ 1784-1810
จุดเข้า BUY 1785
เป้าหมาย 1800-1830
SL 1770รายสัปดาห์
คำแนะนำรายเดือน 1770-1890
จุดเข้า BUY 1780-1790 เป้าหมาย 1830/ 1875
SL 1775   

บทวิเคราะห์ : ทองโดนทุบหลุด $1800 เสียภาพขาขึ้นระยะสั้น เพราะค่าเงิน USD รีบาวด์หรือฟื้นตัวสั้นๆ ภาพรวมทองสูญเสียโมเมนตั้มขาขึ้นระยะสั้น แต่ระยะกลางและปัจจัยพื้นฐานยังหนุนอยู่ จึงอาจต้องเสียเวลามาตั้งฐานเพื่อขึ้นรอบใหม่ โดยแนวรับสำคัญจะอยู่แถว $1786 / 1775 ยังแนะทางซื้อช่วงย่อตัวทั้งนักลงทุนระยะสั้นและกลาง โดยปรับจุด STOP ใหม่ที่ $ 1770 ส่วนแนวต้าน $1812 ยืนได้จึงกลับมามีลุ้นไปต่อ คาดว่าราคาทองน่าจะลงๆขึ้นๆไปก่อนในสัปดาห์นี้ การลงอาจจะไม่แรงและลึกแต่จะเน้นแกว่งสะสมพลัง นักลงทุนระยะกลางทยอยซื้อสะสมเช่นเดิม คืนนี้ไม่มีตัวเลขสำคัญ ตลาดน่าจะรอฟัง EUROZONE แถลงนโยบายวันพฤหัสนี้

โดย : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

Fundamental

  • สกุลเงินคริปโตพังยับหลังถูกดันขึ้นพร้อมกันทั้งตลาดจนราคาบิทคอยน์ขึ้นทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนเกิดการทิ้งดิ่งลงมากะทันหัน ทำให้สกุลเงินอื่นร่วงลงเกินระดับ -10% กันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งยังหาสาเหตุของการ panic sell นี้ไม่ได้
  • จอร์จ โซรอส ออกโรงเตือนกองทุนยักษ์ใหญ่สัญชาติสหรัฐฯด้วยกันที่กำลังลงทุนในตลาดหลักทรัพย์จีนด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาลว่า อาจก่อให้เกิดความพินาศในเงินทุนของผู้ถือหน่วยได้ เพราะธุรกิจต่าง ๆ ถูกควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จโดยรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีน

Technical

  • เงินดอลลาร์แข็งขึ้นพร้อมอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯแตะจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์ ทำให้ทองคำถูกเทขายอย่างหนักจากการย้ายเม็ดเงิน
  • ราคาร่วงหนักรวดเดียวกว่า 30 เหรียญ จนลงไปอยู่ใต้เส้นMAแม้หยุดลงและยืนได้บนแนวรับเดิม แต่ด้วย market sentiment ที่เสียไปในครั้งนี้ ได้ทำให้ภาพรวมราคาทองคำกลายเป็นขาลงไปแล้ว
  • ทิศทางวันนี้เด้งรีบาวด์ไม่ยืน 1,800
  • จับจังหวะเล่นยังไง?รอชอร์ตเมื่อปรับขึ้น

Attention

  • วันพฤหัสฯ  ตลาดจับตาเงินเฟ้อยุโรปว่ามากพอที่จะกดดันให้ ECB พิจารณาปรับลดวงเงิน QE หรือไม่
  • เชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้ากำลังแพร่กระจายทั่วโลก และยังไม่มีวิธีหรือวัคซีนใดที่ป้องกันได้ผลชัดเจน
  • เชื้อโควิดสายพันธุ์มิวจากอเมริกาใต้เริ่มแพร่ระบาดในเขตเอเชียตะวันออกหลายประเทศ

โดย : บริษัท ที.ดี.ซี. โกลด์ จำกัด

ตลาดหุ้นอเมริกาเริ่มปรับตัวลดลงในหลายๆกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่ม  Dow jones ซึ่งมีหุ้นกลุ่มวัฏจักรอยู่มาก การปรับตัวลดลงมาจากความกังวลเรื่องไวรัสเดลต้าและทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยที่ยังไม่แน่นอน ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์เริ่มแข็งค่าขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน ประเด็นดังกล่าวกดดันมายังราคาทองคำให้ปรับตัวลดลงหลุด $1800 ระยะสั้นมองการรีบาวน์กลับมาที่ระดับ$1806หากไม่สามารถกลับไปยืนได้มองการปรับตัวลดลงต่อ

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

เน้นเก็งกำไรระยะสั้นการเข้าซื้อควรรอราคาอ่อนตัวลงบริเวณแนวรับ 1,792-1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,814-1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านได้สามารถถือต่อ

แนวรับ : 1,789 1,775 1,759  แนวต้าน : 1,824 1,833 1,849

จจัยพื้นฐาน :

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลงถึง 28.94 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากทั้งปัจจัยพื้นฐานและแรงขายทางเทคนิค  ทั้งนี้  ปัจจัยพื้นฐานที่กดดันทองคำ  ได้แก่  (1.) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 1.34% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 14 ก.ค. ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย (2.) ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน พร้อมกับปิดตลาดในวันอังคารด้วยการแข็งค่าขึ้น 0.34% สู่ระดับ 92.525นำโดยการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (3.) ยูโรอ่อนค่า 0.22% เทียบดอลลาร์ แตะระดับ 1.1843 ดอลลาร์ หลัง ZEW เผยดัชนีความเชื่อมั่นเยอรมนีร่วงลงในเดือนก.ย. ต่ำกว่าคาดการณ์  และจากแรงขายทำกำไรยูโรก่อนการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)ในสัปดาห์นี้  (4.) ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงมากถึง 0.5% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1.3768 ดอลลาร์  และร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับเงินยูโรนับตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. หลังนายกฯอังกฤษประกาศแผนขึ้นภาษี  ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาทองคำดิ่งลงจนหลุดโซนเส้นค่าเฉลี่ยหลายระยะ  อาทิ 10, 100, 200 วันอีกทั้งยังหลุดแนวรับจิตวิทยาบริเวณ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์จนกระตุ้นแรงขายทางเทคนิคเพิ่มเติม  นั่นทำให้ราคาทองคำดิ่งลงทดสอบระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 1,792.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยตําแหน่งงานว่างเปิดใหม่ (JOLTS Job Openings)ของสหรัฐ  ถ้อยแถลงของนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดนิวยอร์กและนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดดัลลัส  รวมถึงรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book

ปัจจัยทางเทคนิค :

ระหว่างวันหากราคาทองคำไม่หลุด 1,792-1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะมีโอกาสดีดตัวขึ้น โดยหากยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,814 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ การขยับขึ้นจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดแนวรับแรก แนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1,775 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

เน้นการซื้อขายทำกำไรระยะสั้น โดยอาจใช้บริเวณ 1,792-1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดซื้อ หากหลุดให้ตัดขาfทุนเพื่อควบคุมความเสี่ยง ขณะที่หากราคาดีดตัวขึ้นแนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรตั้งแต่ราคา 1,814-1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์แต่ถ้าผ่านได้สามารถถือต่อ

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) รัสเซียเผยยังไม่ตัดสินใจรับรองรัฐบาลตาลีบัน เตรียมติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดนายดิมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินแถลงข่าวในวันนี้ว่า ขณะนี้รัสเซียไม่ได้มีการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับการยอมรับรัฐบาลชุดใหม่ที่กลุ่มตาลีบันจัดตั้ง พร้อมยืนยันว่า รัสเซียจะติดตามสถานการณ์ในอัฟกานิสถานต่อไปอย่างใกล้ชิด  นายเพสคอฟกล่าวว่า รัสเซียจะคอยติดตามว่าการกระทำของกลุ่มตาลีบันนั้นสอดคล้องกับแถลงการณ์และคำมั่นสัญญาหรือไม่
  • (+) ดาวโจนส์ปิดร่วง 269.09 จุด วิตกไวรัสเดลตาฉุดเศรษฐกิจดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,100.00 จุด ลดลง 269.09 จุด หรือ -0.76% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,520.03 จุด ลดลง 15.40 จุด หรือ -0.34% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,374.33 จุด เพิ่มขึ้น 10.81 จุด หรือ +0.07%
  • (-) ZEW เผยดัชนีความเชื่อมั่นเยอรมนีร่วงลงในเดือนก.ย. ต่ำกว่าคาดการณ์ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีร่วงลงสู่ระดับ 26.5 ในเดือนก.ย. จากระดับ 40.4 ในเดือนส.ค. ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะปรับตัวลงแตะที่ 30.0  ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบและการขาดแคลนชิปจะฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
  • (-) ดอลล์แข็งเทียบสกุลเงินหลัก หลังบอนด์ยีลด์พุ่งดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขตของสหรัฐหรือ Beige Book ในวันพุธนี้  ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.32% แตะที่ 92.5126 เมื่อคืนนี้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.28 เยน จากระดับ 109.83 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9190 ฟรังก์ จากระดับ 0.9150 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2641 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2534 ดอลลาร์แคนาดายูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1845 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1869 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3787 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3834 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7388 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7433 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (-) นายกฯอังกฤษประกาศแผนขึ้นภาษี หวังนำเงินหนุนระบบบริการสุขภาพ-สวัสดิการสังคมนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ประกาศแผนขึ้นภาษีในวันนี้ เพื่อนำเงินหนุนระบบบริการสุขภาพและสวัสดิการสังคม โดยรัฐบาลอังกฤษต้องการเก็บภาษีบริการสุขภาพและสวัสดิการสังคมในอัตรา 1.25% ของรายได้จากการทำงานทั่วสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ ยังจะเพิ่มอัตราภาษีที่เก็บกับเงินปันผลของผู้ถือหุ้นด้วย  แผนภาษีใหม่นี้คาดว่าจะทำให้อังกฤษมีรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้นเกือบ 3.6 หมื่นล้านปอนด์ในอีก 3 ปีข้างหน้า 
  • (+/-) บิตคอยน์ร่วงต่ำสุดในรอบ 1 เดือน หลังกระแสตอบรับข่าวเอลซัลวาดอร์เริ่มแผ่วราคาบิตคอยน์ร่วงลงอย่างหนักถึง17% แตะระดับ 43,050 ดอลลาร์ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ และปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ราคาพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงเหนือระดับ 52,000 ดอลลาร์ อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้เข้าซื้อบิตคอยน์จำนวน 400 เหรียญ ขณะที่รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้ประกาศรับรองบิตคอยน์เป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวานนี้
  • (+/-) เอลซัลวาดอร์ประกาศรับรองบิตคอยน์เป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการแล้วรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ประกาศรับรองบิตคอยน์เป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการแล้วเช่นเดียวกับดอลลาร์สหรัฐ โดยกลุ่มผู้สนับสนุนมองว่าบิตคอยน์จะช่วยลดค่าธรรมเนียมในการส่งเงินกลับประเทศ ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งมองว่าบิตคอยน์จะกลายเป็นเครื่องมือฟอกเงิน  นายนายิบ บูเคเล ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ ซึ่งสนับสนุนการใช้บิตคอยน์ เปิดเผยว่า นอกจากบิตคอยน์จะช่วยลดค่าธรรมเนียมในการส่งเงินกลับประเทศแล้ว ยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่ยังไม่มีบัญชีธนาคารเข้าถึงบริการทางการเงินได้ด้วย  ด้านฟิทช์ เรทติ้งส์ เคยออกมาเตือนว่า การที่เอลซัลวาดอร์รับรองบิตคอยน์ให้เป็นเงินตราที่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมายในประเทศนั้น อาจทำให้ภาคธนาคารเผชิญกับความเสี่ยงที่สูงขึ้น อีกทั้งอาจนำไปสู่การฟอกเงิน และการจัดหาเงินทุนเพื่อการก่อการร้าย

โดย  : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์หลุดระดับ 1,800 เหรียญอีกครั้ง หลังจากที่ราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1,830 เหรียญได้ โดยภาพรวมราคาหลุดระดับสำคัญทางจิตวิทยา 1,808 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดที่ราคาเคลื่อนไหวแบบ Consolidate มาในช่วงเวลาหลายวัน ดังนั้น พอราคาหลุดลงมาจึงเห็นราคาทองคำหลุดไปทำต่ำสุดที่ 1,792 เหรียญ ก่อนจะกลับมาทรงตัวเช้านี้ 1,796 เหรียญ โดยภาพรวมตลาดมองว่าการประมูลพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นเป็นที่น่าพอใจ จึงมาเป็นช่วยหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธับตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี แตะสูงสุด 1.385% หนุนดอลลาร์แข็งค่า และทำให้เงินบาทอ่อนค่าทะลุ 32.50 บาท/ดอลลาร์ขึ้นมา ขณะที่ภาพรวมของแรงกดดันจากการทำ Tapering QE ในตลาดทองคำก็ยังมีอยู่ ทางด้านสถานการณ์ Covid-19 จะเห็นถึงตลาดคลายความกังวลลงไปบ้าง ยกเว้นประเทศไทยที่คาดว่าจะเห็นเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า เนื่องจากกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวเป็นหลัก ซึ่งถือเป็นการฟื้นตัวหลักๆในประเทศกว่า 90%

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำกลับมาหลุดแนวรับเส้นค่าเฉลี่ยอีกครั้ง ซึ่งจะเห็นได้ว่า ภาพรวมของราคาทองคำแกว่งตัวอย่างมากต่อเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นและระยะกลาง จึงวิเคราะห์ว่าจะเห็นการปรับตัวลดลงในระยะสั้น หากไม่สามาถยืนเหนือ 1,805 เหรียญได้ โดยคาดว่าวันนี้ทองคำจะมีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่างแนวรับ 1,785 เหรียญ และแนวต้าน 1,805 เหรียญ ขณะที่ Gold Comex และ Gold Online Futures คาดจะมีแนวรับ 1,787 เหรียญ และแนวต้าน 1,807 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยคาดจะมีลดลง 150 บาท

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

ราคาทองคำคาดแกว่งตัว Sideway Down หลังจากที่ไม่สามารถยืนได้เหนือ 1,800 เหรียญ ภาพรวมทองคำจะกลับมาเป็นขาขึ้นได้อีกครั้งต้องผ่าน 1,805 เหรียญ

– นักลงทุนที่ถือ Long Position 

หาจังหวะทปิดสถานะ หรือลดการถือครองในเวลานี้ จากปัจจัยกดดันราคาที่เข้ามาหนาแน่น

– นักลงทุนที่ถือ Short Position

แนะนำให้เล่นสั้นๆ เข้าออกในวัน หาจังหวะขายก่อนตามการรีบาวน์ และรอย่อซื้อตามแนวรับ มี Stop Loss เหนือ 1,805 เหรียญขึ้นไป

Gold Futures 10V21 จะมีแนวรับที่ระดับ 27,840 บาท และแนวต้านที่ระดับ 28,150  บาท

  •  

ที่มา : gold.in.th ( 8 ก.ย. 64 )

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.