บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 22 ต.ค.64 by SCT, GT,TDC, MTS
โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด
คำแนะนำ : ทองขาดข่าวดันราคาคาดว่ายังสะสมพลังเพื่อไปต่อ แนะรอซื้อ/ SL 1750
แนวรับ 1773/ 1760 / 1750 แนวต้าน 1790|1800|1815
Gold/silver USD Baht DOW (stock)
ระยะสั้น SW UP/SW SW DOWN/SW SW SW
ระยะกลาง SW UP SW SW SW UP
ระยะยาว BULLISH Neutral NEUTRAL BULLISH
คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS 1765-1800
จุดเข้า BUY 1770-75
เป้าหมาย 1800-30
SL 1750รายสัปดาห์
คำแนะนำรายเดือน 1750-1835
จุดเข้า BUY 1750-80 เป้าหมาย 1830/ 1850
SL 1739
บทวิเคราะห์ : เมื่อวานตัวเลขเศรษฐกิจมีทั้งบวกและลบ ภาพรวมตลาดทองจึงยังดูคลุมเครือเพราะการเคลื่อนไหวขาดแรงซื้อหนุน คล้ายๆตอนนี้ราคายังสะสมพลังไม่จบ เพื่อรอการ BREAK OUT ครั้งใหญ่ โดยหากราคายังยืน $1770 ได้เรายังให้น้ำหนักทางขาขึ้นมากกว่าลง เพียงแต่รอปัจจัยข่าวดีมาหนุนอีกสักที คืนนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจประกาศไม่มากและมีการแถลงข่าว ปธ.เฟด ในการประชุมการเงิน มุมมองทางเทคนิคคาดว่าในเร็วๆนี้กราฟราคาทองจะต้องเลือกข้าง หรือเคลื่อนไหวแรงๆ ยังแนะนำทางซื้อช่วงย่อ แต่ต้อง CUT ถ้าราคาปิดต่ำกว่า $1750 หรือให้ระวังถ้าราคายืน $1770 ไม่ได้จริงๆ ส่วนภาพระยะกลาง ทองยังเป็น SIDEWAY UP หรือจะขึ้นต่อ ตราบใดที่ราคาไม่ปิดต่ำกว่า $1750
โดย : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด
Fundamental
- ราคาน้ำมันดิบร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี หลังคาดการณ์ฤดูหนาวสหรัฐฯปีนี้จะไม่รุนแรง จึงมีความต้องการใช้พลังงานน้อยลง ประกอบกับ ปธน.รัสเซียเผย OPEC+ กำลังจะประกาศแผนเพิ่มกำลังการผลิตชดเชยภาวะอุปทานตึงตัว
- Beige Book เผยว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวชะลอลงตั้งแต่กลางส.ค.ถึงก.ย. เนื่องจากปัญหาห่วงโซ่อุปทาน, ขาดแคลนแรงงาน และโควิดเดลต้าระบาด
- ดอลลาร์แข็งขึ้นเล็กน้อย แต่ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯดีดขึ้นทุกช่วงอายุ
Technical
- ระยะสั้นราคาแกว่งขึ้นในกรอบ1,760-1,800 แต่ต้องระวังถูกขายทำกำไรลงมาทดสอบเส้น MA อีก
- ราคามีแนวโน้มจะขึ้นผ่าน 1,790 แต่ก็เป็นไปได้สูงที่จะถูกขายทำกำไรทันทีที่เข้าใกล้1,800
- ทิศทางวันนี้ขึ้นได้ ก็ลงได้
- จับจังหวะเล่นยังไง?ลงซื้อ ขึ้นขายเน้นจบในวัน
Attention
หลายประเทศกำลังประสบปัญหาขาดแคลนพลังงาน ดันให้ราคาโภคภัณฑ์สำคัญที่เกี่ยวข้องขึ้นสูงต่อเนื่อง ทำให้เกิดความกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้า
โดย : บริษัท ที.ดี.ซี. โกลด์ จำกัด
ตลาดหุ้นเอเชียเริ่มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งหนึ่งหลังจาก EVERGRANDE ได้แถลงว่าจะจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไปเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้าตลาดได้กังวลถึงการผิดนัดชำระหนี้ของ EVERGRANDE นอกจากนี้ยังได้มีการตั้งกองทุนสำรองสำหรับการจ่ายเพิ่มเติมอีกในอนาคต ขณะที่ราคาทองคำยังอยู่ในโซนของการแกว่งตัว Sideway ในระยะสั้นมองการปรับตัวลดลงไปสู่เส้นค่าเฉลี่ย200 วันในรายชั่วโมง ซึ่งเป็นระดับ $1775
โดย : บริษัท ที.ดี.ซี. โกลด์ จำกัด
ตลาดหุ้นเอเชียเริ่มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งหนึ่งหลังจาก EVERGRANDE ได้แถลงว่าจะจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไปเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้าตลาดได้กังวลถึงการผิดนัดชำระหนี้ของ EVERGRANDE นอกจากนี้ยังได้มีการตั้งกองทุนสำรองสำหรับการจ่ายเพิ่มเติมอีกในอนาคต ขณะที่ราคาทองคำยังอยู่ในโซนของการแกว่งตัว Sideway ในระยะสั้นมองการปรับตัวลดลงไปสู่เส้นค่าเฉลี่ย200 วันในรายชั่วโมง ซึ่งเป็นระดับ $1775
โดย : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างช้าๆ จาก Existing Home Sales และ Philly Fed Manufacturing Index ออกมาดีขึ้น ขณะที่ Jobless Claims ออกมาดีขึ้น ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ยังคงปรับอ่อนค่าลงบ้างเล็กน้อยเมื่อวานนี้ โดยที่ค่าเงินบาทเองค่อนข้างทรงตัวบริเวณ 33.35 – 33.50 บาท/ดอลลาร์ ด้าน กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ทำการเทขายทองคำออก 0.03 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 980.07 ตัน สำหรับคืนนี้ต้องติดตามตัวเลขสำคัญได้แก่ Flash Manufacturing และ Services PMI ของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะค่อนข้างทรงตัว และตลาดอาจยังรอประชุมเฟด 2-3 พ.ย. นี้
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ทองคำค่อนข้างเคลื่อนไหว Sideway Up และค่อนข้างทดสอบแนวต้านระยะกลาง 1,785 เหรียญ คาดว่าวันนี้ราคาจะเคลื่อนตัวในกรอบ Sideways เช่นเดิม เป็นลักษณะ Sideway Up เช่นเดิม โดยมีแนวรับ 1,775 เหรียญ และแนวต้าน 1,795 เหรียญ สำหรับ Gold Comex จะมีแนวรับ 1,775 เหรียญ แนวแนวต้าน 1,798 เหรียญ ในส่วนของทองคำไทยคาดจะเคลื่อนไหวใกล้เคียงเดิม
โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำลงซื้อขึ้นขายในกรอบเท่านั้น ภาพรวมคาดราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบไปอีกระยะ
– นักลงทุนที่ถือ Long Position
ลงซื้อขึ้นขายทำกำไรในกรอบ โดยมี Stop Loss หากต่ำกว่า 1,770 เหรียญ
– นักลงทุนที่ถือ Short Position
เล่นสั้นรอจังหวะไม่ผ่านแนวต้าน 1,795 – 1,800 เหรียญ ภาพรวมควรเน้นบริหารพอร์ตให้สมดุลกับการแกว่งของราคา
ที่มา : gold.in.th ( 22 ต.ค. 64 )
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.