ราคาทองวันนี้ ข่าวทองคำ

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 24 พ.ย.64 by GT, SCT, HGF

645

- Advertisement -

โดย : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

Fundamental

  • ตุรกีวิกฤตหนัก ค่าเงินลีราดิ่งไม่หยุด 11 วันติดต่อกัน จนแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งสะท้อนภาวะเงินเฟ้ออย่างรุนแรงที่พุ่งขึ้นสูงเกือบ 20%
  • สหรัฐฯจับมือชาตินอกกลุ่ม OPEC+ ทั้งจีน อินเดีย อังกฤษ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ด้วยการนำน้ำมันสำรองของแต่ละประเทศออกจำหน่ายเพื่อลดปัญหาการขาดแคลนพลังงานจนราคาตลาดพุ่งสูง
  • แต่ราคาน้ำมันดิบรีบาวด์ขึ้นแรง +3% เพราะปรับลงต่อเนื่องเพื่อรับข่าวนี้มาแล้วตลอดหลายวันก่อนหน้า

Technical

  • ราคาทิ้งตัวลงต่อโดยไม่รีบาวด์ก่อนเพื่อให้ RSI ได้พ้นภาวะ oversold จึงมีแนวโน้มว่าอาจลงไปจนสุดทางถึง 1,750-1,760 โดยที่ระดับ 1,800 ไม่มีผลใด ๆ ต่อทิศทางราคาทั้งในแง่แนวรับและแนวต้าน
  • RSI แกว่งสวนทางราคาสร้างสัญญาณ bullish divergence เต็มตัว แต่ระยะสั้นยังมีสัญญาณ hidden divergence ที่เตือนว่าการลงรอบนี้ยังไม่จบ
  • ทิศทางวันนี้ขึ้นเพื่อลง
  • จับจังหวะเล่นยังไง?ปรับขึ้นให้ชอร์ต ลงมาใต้ 1,770 ให้ซื้อเก็บไม้แรก ถึงช่วง 1.750-1,760 ให้ซื้อสะสม

- Advertisement -

Attention

  • ยุโรปกำลังเผชิญโควิดระลอกใหม่ หลังหลายประเทศรายงานยอดผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่มีโควิดซึ่งหลายชาติยุโรปเตรียมสั่ง lockdown เพื่อลดโควิด
  • หลายประเทศกำลังประสบปัญหาขาดแคลนพลังงาน ดันให้ราคาโภคภัณฑ์สำคัญที่เกี่ยวข้องขึ้นสูงต่อเนื่อง ทำให้เกิดความกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้า

โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

คำแนะนำ : ตลาดทองเป๋ หลุด 1800 คืนนี้มีตัวเลขเพียบมีผลต่อแนวโน้ม พรุ่งนี้ตลาดหยุด
    
แนวรับ 1780/ 1770 / 1760  แนวต้าน 1800|1820|1835
              Gold/silver           USD                       Baht        DOW (stock)
ระยะสั้น    SW/SW DOWN     Sw                  SW                SW 
ระยะกลาง  SW UP /SW       SW DOWN               SW               SW UP
ระยะยาว BULLISH              Neutral              WEAK          BULLISH
คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS 1775-1820
จุดเข้า SELL 1800-30
เป้าหมาย 1770-80
SL 1836รายสัปดาห์
คำแนะนำรายเดือน 1750-1900
จุดเข้า BUY 1760-90 เป้าหมาย 1870-1900
SL 1750   

บทวิเคราะห์ : ตลาดทองเป๋หลังราคาร่วงแรงหลุดทุกแนวรับทุกวัน ภาพระยะสั้นขาลง ส่วนระยะกลางกลับมามีสถานะภาพเป็นกลางๆเว้นแต่จะทะลุข้าม$1835 อีกวาระจึงจะถือเป็นขาขึ้น คืนนี้จะตลาดจะมีประกาศตัวเลขสำคัญเยอะมากเพราะถูกเลื่อนขึ้นมาจากวันหยุดขอบคุณพระเจ้า ให้นักลงทุนจับตา GDP และเงินเฟ้อ PCE ซึ่งมีผลต่อแนวโน้มทองระยะสั้น หากราคากลับขึ้นมายืน $ 1800 ได้หรือข้าม $ 1820 ได้ทองจะเริ่มเปลี่ยนแนวโน้ม คาดว่าราคาทองอาจจะแกว่งตัวออกข้างก่อนวันหยุดยาว แล้วค่อยรอตัวเลขการจ้างงานมาชี้ชะตาในสัปดาห์หน้า
กลยุทธ์ : ราคาลงแรงทั้งๆที่ไม่มีข่าวสำคัญต่อแนวโน้ม จึงมองว่าเป็นการพักเพื่อขึ้นต่อในระยะกลาง แนะรอซื้อสะสมระยะกลางถ้าราคาย่อตัวแรง หรือจะรอราคาทองฟื้นตัว หรือมีสัญญาณกลับตัวค่อยกลับมาไล่ซื้อ

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองคำปรับลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2หลุด 1,800 ดอลลาร์

คืนนี้ติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC

ราคาทองคำคาดสร้างฐานที่แนวรับ 1,770-1,780 ดอลลาร์

  • ราคาทองคำ Spot เมื่อวานปรับลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2หลุด 1,800 ดอลลาร์หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวลให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นสมัยที่ 2โดยราคาทองคำถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.648%สะท้อนให้เห็นว่าเฟดอาจต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ซื้อทองคำ6.11 ตันเมื่อวาน
  • คืนนี้ติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC จะทำให้ทราบมุมมองของเจ้าหน้าที่เฟดเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟดในรายละเอียดมากขึ้นดัชนีราคา PCE พื้นฐานของสหรัฐเดือนต.ค.ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบรายปี จีดีพีไตรมาส 3ของสหรัฐ ซึ่งเป็นประมาณการครั้งที่2ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น2.2% จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ตลาดคาดจะลดลงสู่ระดับ259,000 ราย ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค.ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น0.2%
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดจะพยายามสร้างฐานที่แนวรับ 1,770-1,780 ดอลลาร์ทั้งนี้ทองคำยังมีปัจจัยกดดันจากการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC ที่เฟดอาจเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยมีแนวต้าน1,800 ดอลลาร์ และ 1,820 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,788.70-15.601,780/1,7701,800/1,820

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,200-55027,900/27,75028,200/28,500

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,210-7028,070/27,91028,380/28,650

การเข้าซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวแนะนำเมื่อราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,770ดอลลาร์ (GF 27,910บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,760ดอลลาร์ (GF27,750 บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,790.00-8.101,782/1,7721,802/1,822

การเข้าซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวแนะนำเมื่อราคาGOZ21ปรับลงมาที่ 1,772 ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,762ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะทรงตัว โดยเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก เนื่องจากดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐเดือนพ.ย.ออกมาอ่อนแอลดลงสู่ระดับ 57.0ต่ำกว่าตลาดคาดโดยUSD Futures เดือนธ.ค.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 33บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน33.20 บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนค่ากังวลPMI ภาคบริการสหรัฐชะลอตัว

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (23 พ.ย.) หลังจากไอเอชเอสมาร์กิตเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐชะลอตัวลงดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.06% แตะที่ 96.4841 เมื่อคืนนี้

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนที่ผ่านมา (23 พ.ย.) โดยราคาทองดิ่งหลุดจากระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1,800 ดอลลาร์เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาดนอกจากนี้นักลงทุนยังกังวลว่าการที่นายเจอโรมพาวเวลดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นสมัยที่ 2 จะส่งผลให้เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 22.5 ดอลลาร์หรือ 1.25% ปิดที่  1,783.8 ดอลลาร์/ออนซ์ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. 2564    สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 86.2 เซนต์หรือ 3.55% ปิดที่ 23.435 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดพุ่ง $1.75 คาดโอเปกระงับแผนเพิ่มผลิตรับมือสหรัฐระบายน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา (23 พ.ย.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสอาจระงับแผนเพิ่มกำลังการผลิตหลังจากที่สหรัฐและพันธมิตรประกาศระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองทั้งนี้สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.75 ดอลลาร์หรือ 2.3% ปิดที่ 78.50 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 2.61 ดอลลาร์หรือ 3.3% ปิดที่ 82.31 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดบวก 194.55 จุดรับแรงซื้อหุ้นพลังงาน-หุ้นแบงก์

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (23 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันWTI ทะยานขึ้นกว่า 2% ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอย่างไรก็ดีการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรได้สร้างแรงกดดันต่อกลุ่มเทคโนโลยีและเป็นปัจจัยฉุดดัชนีNasdaqปิดในแดนลบดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,813.80 จุดเพิ่มขึ้น 194.55 จุดหรือ +0.55%, ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,690.70 จุดเพิ่มขึ้น 7.76 จุดหรือ +0.17% และดัชนีNasdaqปิดที่ 15,775.14 จุดลดลง 79.62 จุดหรือ -0.50%

“พาวเวล” ย้ำพันธสัญญาผลักดันเฟดแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ทำเนียบขาวเปิดเผยว่านายเจอโรมพาวเวลประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เน้นย้ำถึงพันธสัญญาของเขาในการผลักดันให้วาระการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศเป็นศูนย์กลางของการตัดสินใจด้านนโยบายของเฟดในระหว่างที่เขาสนทนากับประธานาธิบดีโจไบเดนสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าปธน.ไบเดนได้เสนอชื่อให้นายพาวเวลให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่ออีก4ปีเมื่อวานนี้ซึ่งสร้างความผิดหวังให้กับสมาชิกพรรคเดโมแครตหัวก้าวหน้าที่ผลักดันให้ทำเนียบขาวเสนอชื่อผู้นำเฟดที่มีความเข้มงวดในการควบคุมภาคธนาคารในประเด็นต่างๆอาทิการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการปล่อยเงินกู้อย่างเป็นธรรมนางเจนซากีโฆษกทำเนียบขาวได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันว่าเฟดได้ดำเนินมาตรการสำคัญๆภายใต้การนำของนายพาวเวลซึ่งรวมถึงการบ่งชี้ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นความเสี่ยงสำคัญที่จำเป็นต้องแก้ไข, การทำงานร่วมกับธนาคารกลางของประเทศอื่นๆเพื่อลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการว่าจ้างนักเศรษฐศาสตร์ด้านสภาพอากาศชั้นนำ    “คุณพาวเวลได้ย้ำถึงพันธสัญญาดังกล่าวของเขาในระหว่างการหารือกับท่านประธานาธิบดี” นางซากีระบุ

ส.ส.เดโมแครตจี้ไบเดนใช้คำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันดิบเร่งสกัดราคาน้ำมันพุ่ง

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรคเดโมแครตได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโจไบเดนระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) และบังคับใช้คำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันเพื่อสกัดราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้นทั้งนี้สมาชิกพรรคเดโมแครตซึ่งมีนายโรคานนาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นแกนนำได้ส่งจดหมายถึงปธน.ไบเดนให้เร่งดำเนินการเพื่อสร้างความมั่นใจว่าครัวเรือนอเมริกันจะยังมีน้ำมันใช้ในราคาที่เหมาะสมและเพียงพอสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่าจดหมายดังกล่าวเรียกร้องให้ปธน.ไบเดนใช้เครื่องมือต่างๆที่มีอยู่เพื่อสกัดราคาน้ำมันเบนซินในระยะสั้นขณะเดียวกันโฆษกประจำตัวของนายคานนาได้ยืนยันข้อเรียกร้องในจดหมายซึ่งมีสมาชิกพรรคเดโมแครตประมาณ10คนร่วมกันลงนามแหล่งข่าววงในของรัฐบาลสหรัฐเผยว่ามีการคาดการณ์ว่ากระทรวงพลังงานจะประกาศระบายน้ำมันสำรองจากคลังSPR ในวันอังคาร (23พ.ย.) ร่วมกับอีกหลายประเทศ

เยลเลนเชื่อพาวเวลบริหารเฟดสมัย 2 จะป้องกันไม่ให้เงินเฟ้อเป็น “ปัญหาเรื้อรัง”

นางเจเน็ตเยลเลนรัฐมนตรีคลังสหรัฐเปิดเผยว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ภายใต้การดำรงตำแหน่งประธานสมัยที่ 2 ของนายเจอโรมพาวเวลจะมีบทบาทสำคัญในระยะยาวในการป้องกันไม่ให้ภาวะเงินเฟ้อกลายเป็น “ปัญหาเรื้อรัง”   นางเยลเลนให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์CNBC ว่าเธอเชื่อมั่นว่าการเสนอชื่อนายพาวเวลในฐานะประธานเฟดและนางเลลเบรนาร์ดในฐานะรองประธานจะได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาคองเกรสส่วนใหญ่อีกทั้งเธอยังมั่นใจในความสามารถของทั้งสองในการตัดสินใจดำเนินการต่างๆเพื่อสร้างสมดุลระหว่างการรักษาการจ้างงานที่ระดับสูงสุดและเสถียรภาพด้านราคานางเยลเลนซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานเฟดช่วงปี 2557-2561 กล่าวว่า “ดิฉันคิดว่าเราควรกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อเนื่องจากขณะนี้เงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ชาวอเมริกันส่วนใหญ่จะเห็นได้ชัดเจนเมื่อต้องไปซื้ออาหารตามร้านค้าหรือเติมน้ำมัน”   นอกจากนี้เธอยังได้ให้ความเห็นว่าภาวะเงินเฟ้อในช่วงนี้เกิดจากความไม่สมดุลของอุปสงค์และอุปทานตลอดจนปัญหาคอขวดทางเศรษฐกิจที่จำเป็นต้องแก้ไขและแสดงความมั่นใจว่าราคาที่พุ่งสูงขึ้นจะปรับตัวลดลงในที่สุด

ที่มา : gold.in.th ( 24 พ.ย. 64)

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.