บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 29 พ.ย.64 by GT, HGF, SCT, CAF, MTS, YLG, GCAP
โดย : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด
Fundamental
- พบโควิดพันธุ์ใหม่ โอมิครอน จากแอฟริกาหลุดเข้าหลายประเทศ แม้อาการเบา แต่แพร่เชื้อง่าย จึงเสี่ยงต้องปิดเมืองทั่วโลกอีกรอบ ทำให้นักลงทุนเปิดโหมด risk off หนีความเสี่ยงด้วยการเทขายลดพอร์ตแล้วถือเงินสดหรือสินทรัพย์สภาพคล่องสูงจำพวกพันธบัตรสหรัฐฯที่อัตราผลตอบแทนร่วงหนักทันทีทุกช่วงอายุ
- ส่วนทองคำได้รับอานิสงส์ดังกล่าวแค่เพียงบางส่วน เพราะถ้าเศรษฐกิจโลกต้องชะลอลงหรือหยุดชะงักอีก เงินเฟ้อที่ทำประมาณการณ์ไว้จะถูกเบรกลงชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะเอื้อให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
Technical
- กราฟจบรูปแบบinverted head & shoulder ราคาทิ้งตัวแรง แต่ RSI ลงไม่เยอะ จึงน่าจะมีแรงซื้อหนุนไม่ให้หลุด 1,780 อย่างน้อยก็ชั่วคราว
- ราคาพุ่งขึ้นไปไม่ถึงเส้น MA แล้วกลับลงมาย่ำฐานรับเดิม ทำให้ RSI สวิงจาก overbought ลงมาสู่ oversold ทันที จึงมองว่าหากจะกลับเป็นขาขึ้นอีกครั้ง ต้องยืนในช่วง1,800-1,820ให้ได้สักระยะก่อน
- ทิศทางวันนี้ถ้าหลุด 1,780 ระวังร่วงหนัก
- จับจังหวะเล่นยังไง?ปิดทำกำไรที่ชอร์ตไว้แล้วรอดู ถ้าหลุด 1,780 ให้ชอร์ต ถ้าขึ้นพ้น 1,800 ให้ stop loss
Attention
- อังคารนี้คาดสภาถามประธาน Fed ว่าโควิดรอบใหม่มีผลถึงการลด QE และช่วงที่จะขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่
- ยุโรปกำลังเผชิญโควิดระลอกใหม่ หลังหลายประเทศรายงานยอดผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่มีโควิดซึ่งหลายชาติยุโรปเตรียมสั่ง lockdown เพื่อลดโควิด
- หลายประเทศกำลังประสบปัญหาขาดแคลนพลังงาน ดันให้ราคาโภคภัณฑ์สำคัญที่เกี่ยวข้องขึ้นสูงต่อเนื่อง ทำให้เกิดความกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้า
โดย : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)
สัปดาห์ก่อนทองคำปรับลดลงทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์
สัปดาห์นี้ติดตามการจ้างงานสหรัฐเดือนพ.ย.
ราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหว Sideways up
- สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ Spot ปรับลดลงหลุด 1,800 ดอลลาร์ ทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวลให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นสมัยที่ 2 เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 16 เดือน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น การที่นายเจอโรม พาวเวลดำรงตำแหน่งประธานเฟด ตลาดมองว่าจะคุมเข้มนโยบายการเงินมากกว่านางลาเอล เบรนาร์ด ผู้ว่าการเฟด แต่ในช่วงปลายสัปดาห์ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เนื่องจากตลาดการเงินสหรัฐปิดทำการในวันพฤหัส เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า แต่เริ่มฟื้นตัวขึ้นในวันศุกร์จากความวิตกเกี่ยวกับรายงานการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่อาจจะดื้อวัคซีน ทางด้านกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 7.85 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- สัปดาห์นี้ติดตามการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด 12 เขต (Beige Book) และการจ้างงานสหรัฐเดือนพ.ย. สำหรับการเปิดเผยรายงาน Beige Book นั้น ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะนำข้อมูลมาใช้ประกอบการตัดสินใจนโยบายการเงินในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 14-15 ธ.ค. ส่วนการจ้างงานของสหรัฐจะส่งผลให้ราคาทองคำผันผวน ถ้าการจ้างงานสหรัฐออกมาแตกต่างจากที่ตลาดคาดไว้มาก
- แนวโน้มราคาทองคำ Spot สัปดาห์นี้คาดจะเคลื่อนไหว Sideways up โดยมีแนวต้าน 1,800 ดอลลาร์ และ 1,820 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,780 ดอลลาร์ และ 1,770 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,791.60 | +3.1 | 1,780/1,770 | 1,800/1,820 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
28,650 | -50 | 28,400/28,250 | 28,650/28,900 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
28,760 | -100 | 28,530/28,370 | 28,830/29,140 |
การเข้าซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวแนะนำเมื่อราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,780 ดอลลาร์ (GF 28,530 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,770 ดอลลาร์ (GF 28,370 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,793.30 | -14.20 | 1,781/1,771 | 1,801/1,821 |
การเข้าซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวแนะนำเมื่อราคา GOZ21 ปรับลงมาที่ 1,781 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,771 ดอลลาร์
ค่าเงิน
ทิศทางค่าเงินบาทในวันนี้คาดแข็งค่าขึ้น หลังจากอ่อนค่าลงต่อเนื่องในสัปดาห์ก่อน ส่วนเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนพากันขายสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ โดย USD Futures เดือนธ.ค.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 33.50 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 33.80 บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนค่า นลท.เทขายจากวิตกโควิดพันธุ์ใหม่
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนพากันขายสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.75% แตะที่ 96.0468 ในวันศุกร์
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดบวก 1.2 ดอลล์ วิตกโควิดกลายพันธุ์หนุนแรงซื้อ
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 พ.ย.) เนื่องจากข่าวการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้ได้ผลักดันให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.2 ดอลลาร์ หรือ 0.07% ปิดที่ 1,785.5 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่สัญญาทองคำร่วงลง 3.6% ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 38.9 เซนต์ หรือ 1.66% ปิดที่ 23.107 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ : น้ำมัน WTI ปิดร่วง 10.24 ดอลล์ ผวาโควิดกลายพันธุ์ฉุดตลาด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดิ่งลงมากกว่า 13% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 พ.ย.) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 สัปดาห์ โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้ ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ดิ่งลง 10.24 ดอลลาร์ หรือ 13.1% ปิดที่ 68.15 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลงมากกว่า 10.4% ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 9.53 ดอลลาร์ หรือ 11.59% ปิดที่ 72.72 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลงมากกว่า 8% ในรอบสัปดาห์นี้
ตลาดหุ้นต่างประเทศ : ดาวโจนส์ปิดดิ่ง 905.04 จุด วิตกโควิดพันธุ์ใหม่ทุบตลาด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทรุดตัวลงอย่างรุนแรงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 พ.ย.) โดยหุ้นกลุ่มเดินทาง, กลุ่มธนาคาร และกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลงอย่างหนักจากแรงเทขายท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับรายงานการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่อาจจะดื้อวัคซีน ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,899.34 จุด ร่วงลง 905.04 จุด หรือ -2.53%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,594.62 จุด ร่วงลง 106.84 จุด หรือ -2.27% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,491.66 จุด ร่วงลง 353.57 จุด หรือ -2.23% ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงในวันศุกร์รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2563 และในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ ร่วง 2%, ดัชนี S&P500 ร่วง 2.2% และดัชนี Nasdaq ดิ่งลง 3.5%
แบงก์ชาติญี่ปุ่นชี้ยังคงผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อบรรลุเป้าเงินเฟ้อ 2%
นางจุนโกะ นาคากาวะ สมาชิกคณะกรรมการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ระบุว่า การบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% นั้นไม่ใช่เป้าหมายเพียงอย่างเดียวในการดำเนินนโยบายการเงินของ BOJ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้ออาจปรับตัวผันผวนที่ราวระดับดังกล่าวในบางช่วงเวลา สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานการให้สัมภาษณ์ของนางนาคากาวะว่า ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคปรับตัวอยู่ที่ราวระดับ 0% นั้น แรงกดดันขาขึ้นก็กำลังเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันและอาหารที่ปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม นางนาคากาวะระบุว่า BOJ จะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษต่อไป เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% นางนาคากาวะยังกล่าวด้วยว่า เงินเยนที่อ่อนค่าลงนั้นมีทั้งผลดีและผลเสียต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น ซึ่งในแง่หนึ่งนั้นช่วยให้ผู้ส่งออกได้กำไรเพิ่มขึ้น แต่ก็ทำให้บริษัทที่ทำธุรกิจในประเทศมีต้นทุนการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น
WHO เผยบุคลากรด้านสาธารณสุขในแอฟริกาเพียง 27% ได้วัคซีนโควิดครบโดส
องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยข้อมูลเมื่อวานนี้ (25 พ.ย.) ว่า มีบุคลากรด้านสาธารณสุขในแอฟริกาเพียง 27% เท่านั้นที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดส ดังนั้นจึงยังมีผู้ปฏิบัติงานแนวหน้าอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับวัคซีน นางมัตชิดิโซ โมเอติ ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคแอฟริกาของ WHO กล่าวว่า “บุคลากรด้านสาธารณสุขในแอฟริกาส่วนใหญ่ยังคงไม่ได้รับวัคซีนและเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 โดยมีอาการรุนแรง” พร้อมเสริมว่า การขาดแคลนบุคลากรด้านสาธารณสุขในแอฟริกานั้นเป็นปัญหาร้ายแรงมาก ขณะที่ 16 ประเทศในภูมิภาคแอฟริกามีบุคลากรด้านสาธารณสุขน้อยกว่า 1 คนต่อประชากร 1,000 ราย สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ขณะนี้ในภูมิภาคแอฟริกามีการแจกจ่ายวัคซีนไปแล้วมากกว่า 227 ล้านโดส โดยบุคลากรด้านสาธารณสุขใน 39 ประเทศที่ให้ข้อมูลนั้น ได้รับวัคซีนไปแล้ว 3.9 ล้านโดส “ด้วยยอดผู้ติดเชื้อที่ส่อเค้าว่าจะพุ่งขึ้นครั้งใหม่ทั่วแอฟริกาหลังช่วงเทศกาลส่งท้ายปี ประเทศต่าง ๆ จึงต้องเร่งกระจายวัคซีนไปยังบุคลากรด้านสาธารณสุขโดยด่วน” นางโมเอติกล่าว ทั้งนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกา (Africa CDC) รายงานข้อมูลยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในแอฟริกาที่ได้รับการยืนยันแล้วในช่วงบ่ายเมื่อวานนี้แตะ 8,614,525 ราย โดยมีผู้เสียชีวิต 222,254 ราย และรักษาหายแล้ว 8,060,459 ราย
อิสราเอลระงับเที่ยวบินจาก 7 ประเทศแอฟริกา หวังสกัดโควิดสายพันธุ์ใหม่
รัฐบาลอิสราเอลประกาศระงับเที่ยวบินจาก 7 ประเทศในทวีปแอฟริกา หลังมีรายงานการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ซึ่งมีชื่อว่า B.1.1.529 ในแอฟริกาใต้ โดยประเทศทั้ง 7 ที่ถูกระงับเที่ยวบินในครั้งนี้ได้แก่ นามิเบีย, เลโซโท, ซิมบับเว, บอตสวานา, เอสวาตีนี, โมซัมบิก และแอฟริกาใต้ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอิสราเอลออกแถลงการณ์วานนี้ว่า นายกรัฐมนตรีนัฟทาลี เบนเนตต์ และนายนิทซาน ฮอรวิทซ์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของอิสราเอลเป็นผู้ตัดสินใจระงับเที่ยวบินจาก 7 ประเทศเหล่านี้ โดยระบุว่าเป็นประเทศที่มีความเสี่ยง “ชาวต่างชาติที่เดินทางมาจาก 7 ประเทศนี้ไม่สามารถเข้าอิสราเอลได้ ส่วนพลเมืองชาวอิสราเอลที่เดินทางกลับมาจากประเทศเหล่านี้ จะต้องกักตัวในโรงแรมเป็นเวลา 7 วัน แม้ว่าได้รับวัคซีนครบโดสแล้วก็ตาม” ทำเนียบนายรัฐมนตรีอิสราเอลระบุในแถลงการณ์ มาตรการดังกล่าวของอิสราเอลเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่รัฐบาลอังกฤษที่ได้ประกาศระงับเที่ยวบินจาก 6 ประเทศในทวีปแอฟริกาเป็นการชั่วคราว ซึ่งได้แก่ นามิเบีย, เลโซโท, ซิมบับเว, บอตสวานา, เอสวาตีนี และแอฟริกาใต้ การดำเนินการป้องกันของทั้งสองประเทศมีขึ้น หลังจากนายทอม พีค็อก นักไวรัสวิทยาของอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอนในอังกฤษได้ตรวจพบคลัสเตอร์ขนาดเล็กของผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า B.1.1.529 ซึ่งไวรัสชนิดนี้สามารถหลบภูมิคุ้มกันได้
โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด
คำแนะนำ : ทองได้หนุนจากไวรัสตัวใหม่ แต่สัปดาห์นี้ราคาจะผันผวนมาก จับตา FED/ตัวเลขผลิต&จ้างงาน
แนวรับ 1780/ 1770 / 1760 แนวต้าน 1800|1811|1820
Gold/silver USD Baht DOW (stock)
ระยะสั้น SW Sw SW SW
ระยะกลาง SW SW SW SW UP
ระยะยาว BULLISH Neutral WEAK BULLISH
คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS 1775-1810
จุดเข้า BUY 1760-75
เป้าหมาย 1800-20
SL 1749รายสัปดาห์
คำแนะนำรายเดือน 1750-1900
จุดเข้า BUY 1760-90 เป้าหมาย 1870-1900
SL 1749
บทวิเคราะห์ : ทองได้ข่าวไวรัสตัวใหม่ร้ายกว่าเดิม “โอไมครอน” หนุนทองหลังโดนขายทำกำไรหนักในสัปดาห์ก่อน สัปดาห์นี้จะผัผผวนหนักเพราะเต็มไปด้วยข่าวและตัวเลขสำคัญทุกวัน ให้จับตาการแถลงของเฟดกับรัฐสภาคืนวันอังคารเรื่องแนวทางดอกเบี้ยควบคุมเงินเฟ้อและสถานะการณ์โควิดปัจจุบัน คาดว่าตลาดทองเริ่ม PRICE IN บ้างแล้ว / รอตัวเลขการผลิตและการจ้างงานสหรัฐฯในวันพุธและวันศุกร์ ตลอดจนข่าวการแพร่ของไวรัสตัวใหม่ว่าจะแพร่ทั่วโลกเร็วแค่ไหน เพราะถ้าแพร่กระจายจนกระทบกิจกรรมเศรษฐกิจ ก็จะเป็นบวกกับทองทันที เมื่อพิจารณาภาพรวมทั้งหมดทองเข้าโหมดพักฐานต่อแต่จะแกว่งผันผวนให้เทรดสั้นได้ แต่การลงแรงให้ซื้อสะสมเช่นเดิม โดยทางเทคนิคมีแนวรับสำคัญที่ $1760-1750 ที่ห้ามหลุดเด็ดขาดเพื่อรักษาภาพขาขึ้นไป $1950 ในปีหน้า ส่วนค่าเงินบาทก็ผันผวนเช่นกันเพราะตลาดหุ้นไทยโดนเทขายตามหุ้นสหรัฐฯทำให้บาทอ่อน ยิ่งถ้าเชื้อไวรัสแพร่กระจายเร็วมาก ตลาดหุ้น คริปโตจะถูกขายมาเข้าตลาดทอง สรุปได้ว่าสัปดาห์นี้เทรดสั้นเท่านั้น ขึ้นขายลงซื้อ
โดย : บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด (CAF)
Reasons ปัจจัยกระทบทองคำ
+ การพบการระบาดโควิด-19 สายพันธ์โอไมครอน ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในระยะสั้นๆ
– การที่พบการระบาดโควิด-19 สายพันธ์โอไมครอน ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมัน เนื่องจากนานาเริ่มห้ามเดินทางประเทศที่ระบาดของโอไมครอน กดดันอัตราเงินเฟ้อทั่วโลก และกดดันราคาทองคำ
Day Trade
GOZ21และ GF10Z21ไม่เข้าสถานะ
Trend Trade ใช้ราคาปิดสิ้นวัน
GOZ21 Hold Short จุด Stop 1,867
GF10Z21 Hold Short จุด Stop 28,970
โดย : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำวันศุกร์ผันผวนค่อนข้างมากและมีบางช่วงไปเหนือ 1,800 เหรียญ ก่อนจะเผชิญแรงเทขายและอ่อนตัวมาแถว 1,790 เหรียญ ภาพรวมการแกว่งตัวอย่างมากในตลาดทองคำและการแกว่งตัวอย่างรุนแรงในตลาดหุ้นมาจากการพบการระบาดของไวรัส Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อว่า Omicron และจากความกังวลดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วงลงไปกว่า 2% นำโดยดาวโจนส์ปิดร่วงลง -905.04 จุด หรือ -2.53% ปิดรายวันย่ำแย่ที่สุดที่ 34,899.34 จุด ดัชนี S&P500 ปิด -2.27% และดัชนี Nasdaq ปิด -2.23% ขณะที่ช่วงปลายตลาดได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงของประธานเฟดสาขาแอตแลนต้าที่กล่าวถึงโอกาสจะเร่งทำ Tapering QE และการขึ้นดอกเบี้ยจึงกดดันตลาดทองคำ ด้านดัชนีดอลลาร์แกว่งตัวตาม ทำให้เงินบาทบางช่วงแกว่งตัวอย่างมากเช่นกัน และในท้ายที่สุดเงินบาทยังอ่อนค่ารุนแรงมาที่ 33.72 บาท/ดอลลาร์ โดยหลังจากเงินบาททะลุเหนือ 33.50 บาท/ดอลลาร์มา ก็ปรับอ่อนค่าขึ้นมาอย่างต่อเนื่องรุนแรง
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงมีความผันผวนในทิศทางขาลง โดยวันนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,775 -1,805 เหรียญ ในส่วนของ Gold Comex และ Gold Online Futures คาดจะมีแนวรับ 1,775 เหรียญ และแนวต้าน 1,805 เหรีย
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำ Sideway Down เล่นสั้นในกรอบ
– นักลงทุนที่ถือ Long Position
แนะนำบริหารพอร์ตสมดุลตามการแกว่งของทิศทาง
– นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำรอจังหวะเปิดขายตามการรีบาวน์ และหาจังหวะปิดสถานะเมื่อราคาอ่อนตัวเพื่อทำกำไร มี Stop Loss เหนือ 1,810 เหรียญ
Gold Futures 10Z21 จะมีแนวรับที่ระดับ 28,600 บาท และแนวต้านที่ระดับ 28,950 บาท
โดย : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)
คำแนะนำ :
เปิดสถานะซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,779-1,766 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ให้เข้าซื้อ และทยอยปิดสถานะทำกำไรหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,821-1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ : 1,779 1,766 1,758 แนวต้าน : 1,821 1,833 1,849
ปัจจัยพื้นฐาน :
ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนแม้ตลาดสหรัฐจะเปิดทำการในวันศุกร์แค่เพียงครึ่งวันเนื่องในวัน Black Friday ทั้งนี้ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงต้นวัน โดยได้รับแรงหนุนจากความวิตกเกี่ยวกับไวรัสCOVID-19 สายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 ที่พบในแอฟริกาใต้ที่นอกจากจะมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆแล้วยังอาจจะดื้อวัคซีนอีกด้วย สถานการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนพากันเทขายสินทรัพย์เสี่ยงพร้อมเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยในวงกว้าง ทั้งทองคำ เงินเยนญี่ปุ่น ฟรังก์สวิสและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ขณะที่แรงซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ให้ดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดนั้บตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย.ที่1.4765% จนเป็นปัจจัยหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเพิ่ม นั่นทำให้ราคาทองคำทะยานขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,815.27 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ราคาทองคำจะดิ่งลงกว่า 30 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับสูงสุดสู่ระดับต่ำสุดบริเวณ 1,780.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไรและแรงขายทางเทคนิค หลังจากทองคำเข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไป และเกิดสัญญาณทางเทคนิคที่บ่งชี้ว่าแรงซื้อเริ่มชะลอตัวลง อีกทั้งดัชนีดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดที่ 95.753 หลังเผชิญกับแรงขายทำกำไรในช่วงก่อนหน้าปัจจัยกดดันดังกล่าวลดช่วงบวกของทองคำในช่วงปลายตลาด ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม +1.74 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย และถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดเพื่อเปิดงานสัมมนาทางเว็บที่จัดขึ้นโดยเฟดสาขานิวยอร์ก
ปัจจัยทางเทคนิค :
ราคาดีดตัวขึ้นแต่หากไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ระดับสูงสุดของวันก่อนหน้า) อาจทำให้เกิดแรงขายกดดันให้ปรับตัวลงสู่ระดับ 1,779 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับต่ำสุดของวันก่อนหน้า) แต่หากราคาสามารถทรงตัวรักษาระดับไว้ได้ ราคามีโอกาสดีดตัวขึ้นช่วงสั้นอีกครั้ง โดยหากราคายืนเหนือโซนแนวต้านแรกได้โซน 1,821ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านโซน 1,833ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน :
เปิดสถานะซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,779-1,766 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,766 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้อาจพิจารณาแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,815-1,821ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวสารประกอบการลงทุน :
- (+) ผลสำรวจชี้ชาวอเมริกัน 77% มองว่าเงินเฟ้อกระทบชีวิตประจำวันผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยยาฮูนิวส์ (Yahoo News) และยูกอฟ (YouGov) ระบุว่า ชาวอเมริกัน 77% คิดว่าภาวะเงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันในระดับหนึ่ง หนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์รายงานผลสำรวจดังกล่าว ซึ่งระบุเพิ่มเติมว่าชาวอเมริกัน 61% รู้สึกว่าวิกฤตห่วงโซ่อุปทานที่กำลังเกิดขึ้นและนำไปสู่การขาดแคลนอาหารและบริการนั้น ได้ก่อให้เกิดความไม่สะดวกสบายในชีวิต ขณะเดียวกัน ชาวอเมริกัน 51% แสดงความกังวลว่าจะไม่มีศักยภาพพอที่จะซื้อของที่ต้องการในช่วงเทศกาลเนื่องจากเงินเฟ้อ ขณะที่ 45% เกรงว่าจะไม่สามารถซื้อของที่ต้องการได้เพราะห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงัก สำนักข่าวซินหัวรายงาน
- (+) ยอดติดโควิดพุ่งแรงใน 2 เมืองใหญ่ในแอฟริกาใต้ ขณะนักวิทย์เจอ “โอไมครอน”สภาวิจัยทางการแพทย์ของแอฟริกาใต้ (SAMRC) เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์น้ำเสียพบว่า การติดเชื้อโควิด-19 กำลังพุ่งขึ้นใน 2 เมืองใหญ่ SAMRC ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ (26 พ.ย.) ว่า จำนวนไวรัสที่พบในตัวอย่างน้ำเสียได้พุ่งขึ้นในเดือนนี้ในเมืองชวาเน และเมืองจีเคอเปอร์ฮา
- (+) CDC สหรัฐเฝ้าระวัง เผยยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ “โอไมครอน”ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ (26 พ.ย.) ว่า ยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน (Omicron) ในสหรัฐ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าเป็นสายพันธุ์ที่น่าวิตก “จนถึงขณะนี้ยังไม่พบสายพันธุ์ดังกล่าวในสหรัฐ โดย CDC ทำการตรวจสอบไวรัสสายพันธุ์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และระบบเฝ้าระวังไวรัสของสหรัฐได้ตรวจพบสายพันธุ์ใหม่ ๆ ในประเทศได้อย่างน่าเชื่อถือ เราคาดว่า โอไมครอนจะถูกตรวจพบได้อย่างรวดเร็ว หากเกิดขึ้นในสหรัฐ
- (+) สหรัฐห้ามผู้เดินทางจาก 8 ชาติในแอฟริกาเข้าประเทศ สกัดโควิดพันธุ์ใหม่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐประกาศในวันศุกร์ (26 พ.ย.) ว่า สหรัฐจะกำหนดข้อจำกัดด้านการเดินทางกับ 8 ประเทศในแอฟริกา เนื่องจากตรวจพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในทวีปดังกล่าว ปธน.ไบเดนระบุว่า ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 29 พ.ย. คณะบริหารของเขาจะสั่งจำกัดการเดินทางทางอากาศจากแอฟริกาใต้, บอตสวานา, ซิมบับเว, นามิเบีย, เลโซโท, เอสวาตินี, โมซัมบิก และมาลาวี เพื่อเป็นมาตรการป้องกันล่วงหน้าไม่ให้ไวรัส “โอไมครอน” ซึ่งเป็นไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ แพร่ระบาดเข้าสู่สหรัฐ
- (+) อนามัยโลกตั้งชื่อโควิดพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน” ประกาศเป็นสายพันธุ์น่าวิตกองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศในวันศุกร์ (26 พ.ย.) ว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 ที่พบในแอฟริกาใต้นั้น เป็นสายพันธุ์ที่น่าวิตก โดยระบุว่า อาจแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วมากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ WHO ระบุในแถลงการณ์ว่า จากหลักฐานเบื้องต้นบ่งชี้ว่า มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าวจะทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำ และมีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นอันตรายในด้านระบาดวิทยาของไวรัสโควิด-19
- (+) ดอลล์อ่อนค่า นลท.เทขายจากวิตกโควิดพันธุ์ใหม่ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (26 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนพากันขายสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.75% แตะที่ 96.0468 ในวันศุกร์ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.13 เยน จากระดับ 115.36 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9217 ฟรังก์ จากระดับ 0.9357 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2783 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2648 ดอลลาร์แคนาดา ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1313 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1209 ดอลลาร์ และเงินปอนด์แข็งค่าแตะที่ระดับ 1.3335 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3321 ดอลลาร์
- (+) ดาวโจนส์ปิดดิ่ง 905.04 จุด วิตกโควิดพันธุ์ใหม่ทุบตลาดดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทรุดตัวลงอย่างรุนแรงในวันศุกร์ (26 พ.ย.) โดยหุ้นกลุ่มเดินทาง, กลุ่มธนาคาร และกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลงอย่างหนักจากแรงเทขายท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับรายงานการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่อาจจะดื้อวัคซีน ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,899.34 จุด ร่วงลง 905.04 จุด หรือ -2.53%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,594.62 จุด ร่วงลง 106.84 จุด หรือ -2.27% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,491.66 จุด ร่วงลง 353.57 จุด หรือ -2.23%
- (-) บริษัทผลิตวัคซีนรายใหญ่เร่งตรวจสอบ พร้อมปรับวัคซีนสู้โควิด “โอไมครอน” บรรดาบริษัทผลิตวัคซีนโควิด-19 รายใหญ่ของโลกเปิดเผยในวันศุกร์ (26 พ.ย.) ว่า พวกเขากำลังดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อตรวจสอบและปรับวัคซีนที่มีอยู่ให้สามารถป้องกันไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เปิดเผยในวันศุกร์ว่า ไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อ โอไมครอนเป็นสายพันธุ์ที่น่าวิตก ซึ่งอาจมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำมากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ไฟเซอร์และไบออนเทคระบุว่า พวกเขากำลังตรวจสอบไวรัสโอไมครอน หรือ B.1.1.529 และสามารถที่จะปรับวัคซีนที่มีอยู่ได้อย่างรวดเร็ว หากจำเป็น
โดย : บริษัท จีแคป จำกัด
แนวโน้มราคาทองคำช่วงเช้า
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (26 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนพากันขายสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่
รัฐบาลอังกฤษได้ประกาศระงับเที่ยวบินจาก 6 ประเทศในทวีปแอฟริกาเป็นการชั่วคราวซึ่งได้แก่ นามิเบีย, เลโซโท, ซิมบับเว, บอตสวานา, เอสวาตีนี และแอฟริกาใต้ โดยนายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษแถลงว่า นับตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันศุกร์ที่ 26 พ.ย.เป็นต้นไป ทั้ง 6 ประเทศเหล่านี้จะถูกรวมอยู่ในบัญชีรายชื่อสีแดง (Red List) และเที่ยวบินที่มาจาก 6 ประเทศเหล่านี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าอังกฤษเป็นการชั่วคราว
มุมมองทองคำภาคเช้า ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (26 พ.ย.) เนื่องจากข่าวการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้ได้ผลักดันให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
นอกจากนี้นักลงทุนยังต้องจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในรอบสัปดาห์ ได้แก่ ยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย ดัชนีภาคการผลิต เฟดสาขาดัลลัส ดัชนีราคาบ้านในเขต 20 เมืองใหญ่ ดัชนีราคาบ้าน FHFA ดัชนีจัดซื้อจัดจ้าง ชิคาโก ความเชื่อมั่นผู้บริโภค การจ้างงานนอกภาคเกษตร ADP
ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต ดัชนีภาคการผลิต ISM ค่าใช้จ่ายด้านก่อสร้าง สรุปรายงานสภาพเศรษฐกิจ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน การจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง คำสั่งซื้อโรงงาน ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ เป็นต้น
สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (26 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนพากันขายสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่
รัฐบาลอังกฤษได้ประกาศระงับเที่ยวบินจาก 6 ประเทศในทวีปแอฟริกาเป็นการชั่วคราวซึ่งได้แก่ นามิเบีย, เลโซโท, ซิมบับเว, บอตสวานา, เอสวาตีนี และแอฟริกาใต้ โดยนายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษแถลงว่า นับตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันศุกร์ที่ 26 พ.ย.เป็นต้นไป ทั้ง 6 ประเทศเหล่านี้จะถูกรวมอยู่ในบัญชีรายชื่อสีแดง (Red List) และเที่ยวบินที่มาจาก 6 ประเทศเหล่านี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าอังกฤษเป็นการชั่วคราว
แนะแนวทางการลงทุน
แนวรับ 1,782- 1,777- 1,772
แนวต้าน 1,808–1,813– 1,818
ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นจากแรงช้อนซื้อหลังจากสัญญาทองร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จากข่าวการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้ได้ผลักดันให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ในเบื้องต้นยังมองแค่รีบาวน์ระยะสั้น ๆ แนะเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ๆ ไปก่อน
ที่มา : gold.in.th ( 29 พ.ย. ่64 )
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.