ราคาทองวันนี้ ข่าวทองคำ

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 29 ธ.ค.64 by GT, HGF, GCAP, CAF, YLG

722

- Advertisement -

โดย : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

Fundamental

  • ดัชนีภาคการผลิตในเดือนธ.ค. ของเขตที่ Fed สาขาริชมอนด์ดูแลอยู่ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 16 จุดเนื่องจากคำสั่งซื้อใหม่ที่สูงขึ้น
  • สหรัฐฯเผยราคาบ้านทั่วประเทศในเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 19.1% yoyส่วนราคาบ้านเฉพาะในเขต20 เมืองที่มีขนาดใหญ่ของประเทศก็พุ่งขึ้น 18.4% yoy
  • เงินลีราของตุรกียังอ่อนไม่หยุดหลังคุมเงินเฟ้อไม่อยู่ ด้านผู้เชี่ยวชาญคาด เงินเฟ้อในเดือนนี้จะพุ่งขึ้น 9% mom และจะสูงถึง 30.6%yoy

Technical

  • ตลาดหลักซบเซาตลอดช่วงสัปดาห์สุดท้ายที่คนส่วนใหญ่หยุดเทรดไปแล้ว จึงควรระวังการเหวี่ยงแรง ๆ แบบไร้ทิศทางด้วย
  • ราคาปรับขึ้นหนีเส้นแนวโน้ม แต่ไปไม่พ้นช่วงแนวต้าน จากนั้นไหลลลงตามแรงกดดันของ RSI ลงมาอยู่แถวเส้น MA จึงคาดว่าระยะสั้นจะแกว่งคาบระดับ 1,800
  • ทิศทางวันนี้ซึม แต่พร้อมกระชากสั้น ๆ
  • จับจังหวะเล่นยังไง?รอจังหวะสวนกลับเมื่อเกิดการกระชากแรง ๆ และเห็นแท่งยาวชะลอตัว

Attention

- Advertisement -

  • ระวังภาวะตลาดซบเซาช่วงคริสต์มาสไปจนถึงปีใหม่ จะทำให้ราคาทองคำแกว่งแรงไร้ทิศทาง
  • รัฐบาลสหรัฐฯจะมีเงินใช้จ่ายไปถึง 18 ก.พ. ปีหน้า
  • ดอกเบี้ยโลกมีแนวโน้มจะปรับขึ้นเร็วกว่าคาดเพราะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการอัดฉีดสภาพคล่องทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งต้องรอดูความชัดเจนว่ารอบนี้นักลงทุนจะเลือกทองคำหรือเงินคริปโตเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมากกว่ากัน
  • กระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯเฟส 4
  • สัปดาห์นี้  สภาสหรัฐฯเริ่มพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและลดผลกระทบจากCOVID-19รอบใหม่
  • นักลงทุนเชื่อมั่น 45%ว่า Fed จะลดดอกเบี้ยเป็น 0%
  • ระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุนว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 0% ภายในครึ่งปีแรกอยู่สูงกว่า75%
  • ความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ติดตาม  แผนการทำข้อตกลงการค้าเฟส 2

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

นักลงทุนเริ่มเข้าซื้อทองคำมากขึ้นก่อนเทศกาลปีใหม่

คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านรอปิดการขาย

ราคาทองคำ Spot คาดเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบจำกัด

  • ราคาทองคำ Spot เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับขึ้นระดับสูงสุดบริเวณ 1,820 ดอลลาร์ โดยได้รับปัจจัยหนุนมากจากการปรับลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รวมถึงนักลงทุนเริ่มเข้าซื้อทองคำมากขึ้นก่อนเทศกาลปีใหม่ อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน แม้ว่าหลายประเทศได้แก่ สหรัฐ เนเธอร์แลนด์ ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักแล้ว แต่นักลงทุนก็คลายความกังวลมากขึ้นจากผลวิจัยของแอฟิรกาใต้ชี้ว่าการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันชนิดลบล้างฤทธิ์ที่สามารถต้านไวรัสเดลตาได้ โดยหากเชื้อโอมิครอนมีความรุนแรงน้อยกว่าเมื่อพิจารณาจากการระบาดในแอฟริกาใต้ ก็อาจจะทำให้สายพันธุ์เดลตาหายไป ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมจากเมื่อวาน
  • คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านรอปิดการขายเดือนพ.ย. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 7.5% ในเดือนต.ค.
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบจำกัด โดยมีแนวต้าน 1,820 ดอลลาร์ และ 1,830ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,790 ดอลลาร์ และ 1,780 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,806.00-5.11,790/1,7801,820/1,830

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,800+5028,600/28,50028,950/29,050

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,840-5028,620/28,54029,070/29,180

แนะนำเข้าซื้อเมื่อราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,780 ดอลลาร์ (GF 28,540 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,770 ดอลลาร์ (GF 28,380 บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,811.10-6.901,791/1,7811,821/1,831

แนะนำเข้าซื้อเมื่อราคา GOH22 ปรับลงมาที่ 1,781 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,771 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางค่าเงินบาทเมื่อวานนี้แข็งค่าเล็กน้อย อย่างไรก็ตามปริมาณธุรกรรมยังคงเบาบาง ซึ่งนักลงทุนจับตามาตรการของภาครัฐในการจัดการการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนภายในประเทศ ก่อนถึงช่วงเทศกาลหยุดวันปีใหม่ ทั้งนี้ทิศทางค่าเงินบาทคาดว่าเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด สำหรับ USD Futures เดือนมี.ค.65 คาดจะมีแนวรับที่ 33.37 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 33.62 บาท/ดอลลาร์

News

“เฟาชี” แนะรบ.สหรัฐออกกฎผู้โดยสารต้องฉีดวัคซีนจึงมีสิทธิ์บินในประเทศได้

นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว ได้แนะนำให้รัฐบาลออกกฎข้อบังคับให้ผู้โดยสารเที่ยวบินภายในประเทศต้องฉีดวัคซีนแล้วเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์ใช้บริการเที่ยวบิน    “นี่เป็นอีกหนึ่งข้อกำหนดที่ผมคิดว่าสมควรนำมาพิจารณา” นายเฟาชีให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ MSNBC เมื่อวานนี้   ทางด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เขาเปิดรับแนวคิดการลดเวลากักตัวชาวอเมริกัน หลังศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าบุคลากรด้านสาธารณสุขสามารถร่นเวลากักตัวให้เหลือเพียง 7 วัน จากเดิม 10 วัน    อย่างไรก็ดี ปธน.ไบเดนปฏิเสธที่จะให้คำตอบว่าเขาสนับสนุนแนวทางการบังคับฉีดวัคซีนของนายเฟาชีหรือไม่   สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สายการบินในสหรัฐหลายแห่งขาดแคลนพนักงานเนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้น เป็นเหตุให้มีการยกเลิกหลายร้อยเที่ยวบิน โดยอุตสาหกรรมสายการบินประสบปัญหาขาดแคลนพนักงานเช่นเดียวกันกับภาคธุรกิจอื่น ๆ ในช่วงไม่กี่วันมานี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนทำให้นักบิน, ลูกเรือ และพนักงานคนอื่น ๆ ที่ติดเชื้อต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน  นอกจากกรณีเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบจากโอมิครอนแล้ว CDC กล่าวว่า ทางหน่วยงานกำลังตรวจสอบเรือสำราญ 68 ลำหลังมีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 บนเรือ

ญี่ปุ่น-จีนเห็นพ้องเริ่มสายด่วนกลาโหมปีหน้า หลังความตึงเครียดหมู่เกาะพิพาทเพิ่ม

นายโนบุโอะ คิชิ รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ทางญี่ปุ่นเห็นพ้องกับนายเหว่ย เฝิงเหอ รัฐมนตรีกลาโหมจีนว่าจะเริ่มดำเนินการเปิดสายด่วนระหว่างเจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศ ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจากกรณีพิพาทเรื่องหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออก   นอกจากนี้ นายคิชิยังกล่าวด้วยว่า สันติภาพและเสถียรภาพบนช่องแคบไต้หวันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับความมั่นคงของญี่ปุ่น และญี่ปุ่นจะจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด   “เรายืนยันว่าการจัดตั้งสายด่วนระหว่างเจ้าหน้าที่กลาโหมของญี่ปุ่นกับจีนเป็นเรื่องสำคัญ” นายคิชิกล่าวพร้อมแสดง “ความกังวลอย่างร้ายแรง” เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของเรือยามชายฝั่งของจีนในน่านน้ำรอบหมู่เกาะเซ็งกากุ หรือที่จีนเรียกว่าหมู่เกาะเตียวหยู     สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า กระทรวงกลาโหมจีนได้อ้างคำพูดของนายเหว่ย ซึ่งได้กล่าวกับนายคิชิเกี่ยวกับประเด็นเรื่องหมู่เกาะเซ็งกากุว่า จีนจะ “ปกป้องอธิปไตยในอาณาเขตของตน รวมถึงสิทธิและผลประโยชน์บริเวณน่านน้ำของตนเองอย่างหนักแน่น”      นายเหว่ยกล่าวว่า จีนและญี่ปุ่นควรจะ “ร่วมมือกันจัดการและควบคุมความเสี่ยง” ขณะที่ให้ความสำคัญกับสถานการณ์โดยรวมของความสัมพันธ์ทวิภาคี และมุ่งมั่นรักษาเสถียรภาพในทะเลจีนตะวันออก

“ไบเดน” ชี้การแก้วิกฤตโควิดต้องเริ่มระดับรัฐ ลั่นรัฐบาลกลางพร้อมช่วยเหลือ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐให้คำมั่นว่าจะให้ความช่วยเหลือผู้ว่าการรัฐที่กำลังเผชิญการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ขณะเดียวกันก็แจ้งด้วยว่า รัฐต่าง ๆ จะต้องแสดงความเป็นผู้นำในการควบคุมสถานการณ์โรคระบาด       ปธน.ไบเดนกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีทางออกจากรัฐบาลกลางให้ เพราะต้องแก้ในระดับรัฐก่อน      การแสดงความเห็นดังกล่าวเป็นการยอมรับที่ชัดเจนมากที่สุดครั้งหนึ่งของรัฐบาลปธน.ไบเดนว่า รัฐบาลจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลท้องถิ่นและรัฐบาลประจำรัฐในการสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19   “สิ่งที่ผมต้องการย้ำกับผู้ว่าการรัฐไม่มีอะไรมาก หากต้องการอะไร ขอให้บอก อะไรที่ทำได้เราพร้อมยื่นมือช่วย”       นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนยังได้ตอบคำถามหลังการแถลงว่า เขาจะสนับสนุนคำแนะนำที่มีการแก้ไขใหม่เกี่ยวกับการร่นระยะเวลาการกักตัวผู้ติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ ปธน.ไบเดนกล่าวว่า “ผมต้องฟังความเห็น ขอคำแนะนำ และปฏิบัติตามทีมแพทย์”

โดย : บริษัท จีแคป จำกัด

แนวโน้มราคาทองคำช่วงเช้า

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ธ.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค.ปีหน้า

มุมมองทองคำภาคเช้า  ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกโดยได้รับแรงหนุนหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.465% เมื่อคืนนี้ ซึ่งการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

อย่างไรก็ดี บรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2565   นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยล่าสุดสถาบันสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมแห่งชาติของเนเธอร์แลนด์ (RIVM) เปิดเผยว่า ขณะนี้ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในเนเธอร์แลนด์แล้ว โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมดในประเทศ โดยสามารถแทนที่สายพันธุ์เดลตา 

นักลงทุนยังต้องคอยติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในรอบสัปดาห์ได้แก่  ดุลการค้า  ดัชนีสินค้านำเข้า  ดัชนีสินค้าส่งออก  ดัชนีสินค้าคงคลีงภาคค้าส่ง  ยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย  จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน  ดัชนีจัดซื้อจัดจ้าง ชิคาโก เป็นต้น

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

          ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ธ.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค.ปีหน้า

แนะแนวทางการลงทุน

แนวรับ 1,796-  1,791- 1,785

แนวต้าน  1,816–1,821– 1,826

      ราคาทองคำทรงตัวในแนวโน้มขาขึ้น  กลับมายืนที่เหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์โดยได้รับแรงหนุนหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ร่วงลง นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน  แนะรอซื้อ

อย่างไรก็ดี บรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2565   นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยล่าสุดสถาบันสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมแห่งชาติของเนเธอร์แลนด์ (RIVM) เปิดเผยว่า ขณะนี้ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในเนเธอร์แลนด์แล้ว โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมดในประเทศ โดยสามารถแทนที่สายพันธุ์เดลตา 

นักลงทุนยังต้องคอยติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในรอบสัปดาห์ได้แก่  ดุลการค้า  ดัชนีสินค้านำเข้า  ดัชนีสินค้าส่งออก  ดัชนีสินค้าคงคลีงภาคค้าส่ง  ยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย  จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน  ดัชนีจัดซื้อจัดจ้าง ชิคาโก เป็นต้น

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

          ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ธ.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค.ปีหน้า

แนะแนวทางการลงทุน

แนวรับ 1,796-  1,791- 1,785

แนวต้าน  1,816–1,821– 1,826

      ราคาทองคำทรงตัวในแนวโน้มขาขึ้น  กลับมายืนที่เหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์โดยได้รับแรงหนุนหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ร่วงลง นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน  แนะรอซื้อ

โดย : บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด (CAF)

Reasons  ปัจจัยกระทบทองคำ

-นักลงทุนกำลังรอดูสถานการณ์โควิด-19 โดยแนวโน้มการระบาดโควิด-19 มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจโลก แต่ไวรัสโอมิครอนมีความรุนแรงน้อยกว่าเดลตา จากการวิจัยของมหาวิทยาลัยเอดินบะระและอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน ทำให้นักลงทุนได้รับข้อมูลที่ยังไม่ชัดเจน

Day Trade

GOH22  Hold Long เป้า 1,825-1,830จุด Stop 1,801

GF10G22 Hold Long เป้า 28,850-28,950 จุด Stop สิ้นวัน 28,700

Trend Trade ใช้ราคาปิดสิ้นวัน

GOH22 Hold Long จุด Stop 1,801

GF10G22 Hold Long จุด Stop 28,700

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

เมื่อราคาทดสอบแนวต้าน 1,820-1,834ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านได้ให้แบ่งขายทำกำไร โดยประเมินแนวรับที่ 1,797-1,789ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,798 1,772 1,753  แนวต้าน : 1,834 1,849 1,863

จจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 5.10ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ในระหว่างวันราคาทองคำจะทะยานขึ้นทดสอบระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือนบริเวณ 1,820.06  ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์  และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1.455% ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย  อย่างไรก็ดี  ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้  โดยได้รับแรงกดดันจากหลายปัจจัย  ได้แก่ (1.) แรงขายทำกำไร และแรงขายทางเทคนิค  หลังจากเกิดสัญญาณเชิงลบที่บ่งชี้ว่าโมเมนตัมที่ผลักดันให้ราคาทะยานขึ้นเริ่มชะลอตัวลง  (2.) ดัชนีดอลลาร์ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในระหว่างวัน  ขานรับการเปิดเผย ดัชนีภาคการผลิตจากเฟดริชมอนด์ ที่ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 16 ในเดือนธ.ค. ซึ่งสูงกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 12 ในเดือนธ.ค.  นอกจากนี้  ดัชนีดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค.ปีหน้า  เห็นได้จากสัญญา Fed fund futures ซึ่งสะท้อนการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดได้ปรับตัวรับโอกาส 50% สำหรับการขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ภายในเดือนมี.ค.ปีหน้า ซึ่งเป็นระดับที่ “ไม่เคยเห็นมาก่อนเมื่อ2สัปดาห์ก่อนหน้านี้”  และ (3.) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีลดช่วงติดลบ  ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาทองคำร่วงลง 15 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับสูงสุดสู่ระดับต่ำสุดบริเวณ 1,804.10ดอลลาร์ต่อออนซ์ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มขึ้น +2.03 ตัน  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่ง และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายของสหรัฐ

ปัจจัยทางเทคนิค :

หากราคาปรับตัวลงเข้าใกล้โซนแนวรับ 1,797ดอลลาร์ต่อออนซ์หากยืนได้อาจมีแรงดีดกลับสั้นๆ โดยประเมินแนวต้านที่ 1,820-1,834ดอลลาร์ต่อออนซ์แต่หากไม่ผ่านแนวต้านดังกล่าวได้  อาจต้องระวังแรงขายกลับลงมาอีกครั้ง โดยประเมินแนวรับโซน1,789-1,772ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

แนะนำซื้อขายทำกำไรระยะสั้น โดยเปิดสถานะขายหากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,820-1,834ดอลลาร์ต่อออนซ์  เพื่อรอทยอยปิดสถานะขายทำกำไรหากราคาอ่อนตัวลงไม่หลุดแนวรับ1,797-1,789ดอลลาร์ต่อออนซ์  สถานะขายตัดขาดทุนหากราคาผ่านแนวต้าน1,834ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) “เอสแอนด์พี” เผยราคาบ้านสหรัฐพุ่ง 19.1% ในเดือนต.ค.ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ บ่งชี้ว่า ดัชนีราคาบ้านในสหรัฐยังคงดีดตัวขึ้นในเดือนต.ค.  ทั้งนี้ ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 19.1% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี แต่ต่ำกว่าระดับ 19.7% ในเดือนก.ย.  ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 18.4% ในเดือนต.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 19.1% ในเดือนก.ย. 
  • (+) นักวิเคราะห์คาดเงินเฟ้อตุรกีพุ่งทะลุ 30% ในเดือนธ.ค. สูงสุดรอบ 18ปีผลการสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่า อัตราเงินเฟ้อของตุรกีจะพุ่งแตะระดับ 30.6% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี  หากอัตราเงินเฟ้อดังกล่าวเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ก็จะเป็นครั้งแรกที่เงินเฟ้อของตุรกีพุ่งทะลุระดับ 30% นับตั้งแต่ปี 2546 โดยแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2546
  • (-) ดอลล์แข็งค่า รับข้อมูลศก.สดใส-คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ธ.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค.ปีหน้า  ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.12% แตะที่ 96.2028 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2816 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2796 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 114.81 เยน จากระดับ 114.90 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9175 ฟรังก์ จากระดับ 0.9176 ฟรังก์  ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1302 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1325 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3423 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3440 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7229 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7239 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (-) ผลการศึกษาล่าสุดชี้ การติดเชื้อ ‘โอมิครอน’ สามารถเสริมภูมิคุ้มกันต้าน ‘เดลตา’นักวิจัยในแอฟริกาใต้ค้นพบว่า ผู้ที่เคยติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนจะพัฒนาภูมิคุ้มกันต้านไวรัสสายพันธุ์เดลตาได้มากยิ่งขึ้น  การศึกษาโดยสถาบันวิจัยสุขภาพแอฟริกาเป็นผลสรุปของข้อมูลจากผู้ที่ฉีดวัคซีนและไม่ฉีดวัคซีน 33 คน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์พบว่า ภูมิต่อต้านโอมิครอนหลังการติดเชื้อครั้งแรกจะพุ่งขึ้น 14 เท่าภายในช่วง 2 สัปดาห์ ขณะที่ภูมิต้านเชื้อเดลตาเพิ่มขึ้น 4.4 เท่า  นักวิทยาศาสตร์ยังกล่าวด้วยว่า ภูมิคุ้มกันที่ว่านี้จะพุ่งสูงเป็นพิเศษในกลุ่มผู้ติดเชื้อที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้ว  อเล็ก ซิกัล ผู้ร่วมจัดทำรายงานดังกล่าว ทวีตข้อความออกเมื่อวันจันทร์ว่า หากเชื้อโอมิครอน “ไม่ก่อให้เกิดโรคได้ง่าย” อย่างที่เห็นกัน “(เชื้อโอมิครอน)ก็จะทำการต่อต้านเชื้อเดลตาออกไป” ซึ่งหมายความว่า “ความยุ่งยากในชีวิตจากการระบาดของโควิด-19 ดังที่เกิดขึ้นมานั้นก็จะรุนแรงน้อยลงไปด้วย” 
  • (-) โอมิครอนยึดตำแหน่งสายพันธุ์หลักในเนเธอร์แลนด์แล้ว แทนที่เดลตาสถาบันสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมแห่งชาติของเนเธอร์แลนด์ (RIVM) เปิดเผยในวันนี้ว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในเนเธอร์แลนด์แล้ว โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมดในประเทศ โดยสามารถแทนที่สายพันธุ์เดลตา  “การระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนจะทำให้ผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นในอนาคต ซึ่งจะทำให้จำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้าโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้น”

ที่มา : gold.in.th (29 ธ.ค. 64 )

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.