บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 30 ธ.ค.64 by GT, HGF
โดย : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด
Fundamental
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาไม่ค่อยดี แต่นักลงทุนบางส่วนกลับมาเก็บสินทรัพย์เสี่ยงที่อ่อนตัวลงมาคืนเข้าพอร์ต เพราะปรับมุมมองว่าโควิดโอมิครอนจะกระทบตลาดโลกไม่รุนแรงมากอย่างที่กลัวกันแต่แรก ประกอบกับภาวะตลาดกำลังอยู่ในช่วงที่ปริมาณการซื้อขายเบาบางกว่าปกติเพราะคนส่วนใหญ่หยุดเทรด จึงเกิดการเหวี่ยงแรง ๆ สั้น ๆ แบบเดาทิศทางไม่ได้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นแล้วอ่อนตัวกลับลงมา ขณะที่ราคาทองคำวิ่งสวนกัน
Technical
ราคาสวิงลงมาแถว 1,785 แล้วดีดขึ้นทันที โดยแรงเหวี่ยงขาลงยังไม่หมด จึงมีโอกาสที่ราคาจะย่อลงอีกครั้งมาแถว 1,780-1,790
ราคาแกว่งคาบระดับ 1,800 แต่ RSI ลงมาอยู่ที่oversold ก่อนรีบาวด์ แสดงว่ามีแรงขายมากกว่าที่ตลาดรับได้ ราคาจึงน่าจะปรับลงมาหา 1,790 อีกรอบ
Attention
ระวังภาวะตลาดซบเซาช่วงคริสต์มาสไปจนถึงปีใหม่ จะทำให้ราคาทองคำแกว่งแรงไร้ทิศทาง
รัฐบาลสหรัฐฯจะมีเงินใช้จ่ายไปถึง 18 ก.พ. ปีหน้า
ดอกเบี้ยโลกมีแนวโน้มจะปรับขึ้นเร็วกว่าคาดเพราะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการอัดฉีดสภาพคล่องทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งต้องรอดูความชัดเจนว่ารอบนี้นักลงทุนจะเลือกทองคำหรือเงินคริปโตเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมากกว่ากัน
โดย : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)
ทองปิดลบจากแรงกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ราคาทองคำ Spot คาดเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบจำกัด
- ราคาทองคำ Spot ปรับตัวลงเล็กน้อย โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นสู่ระดับ 1.55% เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนว่าจะไม่กระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากผลวิจัยหลายสถาบันชี้ว่าแม้ไวรัสโอมิครอนแพร่ระบาดได้ง่าย แต่ความเสี่ยงที่ผู้ติดเชื้อโอมิครอนจะเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมีน้อยกว่าผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ซื้อทองคำสุทธิ 2.03 ตันจากเมื่อวาน
- คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะทรงตัวที่ 205,000 รายเท่าสัปดาห์ที่ผ่านมา และดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือนธ.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 61.9 จาก 61.8 ในเดือนพ.ย.
- แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบจำกัด โดยมีแนวต้าน 1,820 ดอลลาร์ และ 1,830ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,790 ดอลลาร์ และ 1,780 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,804.40 | -1.6 | 1,790/1,780 | 1,820/1,830 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
28,650 | -150 | 28,500/28,350 | 28,800/28,950 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
28,690 | -10 | 28,620/28,540 | 29,070/29,180 |
แนะนำเข้าซื้อเมื่อราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,780 ดอลลาร์ (GF 28,540 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,770 ดอลลาร์ (GF 28,380 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,809.50 | +2.70 | 1,791/1,781 | 1,821/1,831 |
แนะนำเข้าซื้อเมื่อราคา GOH22 ปรับลงมาที่ 1,781 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,771 ดอลลาร์
ค่าเงิน
ทิศทางค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อย่างไรก็ตามปริมาณซื้อขายยังคงเบาบาง และยังคงอยู่ในกรอบที่จำกัด ซึ่งตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาเพิ่มเติม ในขณะที่แนวโน้มค่าเงินบาทคาดว่าเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบจำกัด สำหรับ USD Futures เดือนมี.ค.65 คาดจะมีแนวรับที่ 33.37 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 33.62 บาท/ดอลลาร์
News
“เฟาชี” หนุน CDC ลดเวลากักตัวโควิด ชี้ช่วยให้ประชาชนกลับไปทำงานได้เร็วขึ้น
นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว แสดงความคิดเห็นสนับสนุนคำแนะนำของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ที่ให้ลดระยะเวลาในการกักตัวผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ เหลือเพียง 5 วัน จากเดิม 10 วัน โดยนายแพทย์เฟาชีระบุว่า การลดระยะเวลากักตัวเหลือเพียงครึ่งหนึ่งจะช่วยให้ประชาชนสามารถกลับไปทำงานได้เร็วขึ้น “ผมคิดว่าการตัดสินใจของ CDC นั้นรอบคอบและเหมาะสมดีแล้ว” นายเฟาชีกล่าว นอกจากนี้ นายแพทย์เฟาชียังได้อธิบายถึงเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจดังกล่าวด้วย โดยระบุว่า “ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ของสหรัฐในตอนนี้ รวมถึงจำนวนผู้ติดเชื้อที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากสายพันธุ์โอมิครอน เราต้องป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ที่มีคนจำนวนมากต้องกักตัว แน่นอนว่าหากผู้ติดเชื้อแสดงอาการก็ควรจะกักตัว แต่หากไม่แสดงอาการ เราก็อยากให้คนกลุ่มนี้กลับมาทำงานต่อได้ โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานในตำแหน่งที่จำเป็นต่อการทำให้สังคมเดินหน้าต่อไป” “หากคุณติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ คุณก็สามารถกักตัว 5 วัน จากนั้นก็กลับมาใช้ชีวิตและทำงานตามปกติได้โดยสวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด แทนที่จะต้องถูกกันออกจากวงสังคมและการปฏิบัติหน้าที่ไปตลอด 10 วัน” นายแพทย์เฟาชีระบุ
CDC ประเมินชาวมะกันติดโอมิครอน 58.6% ของสายพันธุ์ที่ระบาดในสหรัฐ
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเปิดเผยว่า สัดส่วนของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในสหรัฐคาดว่าอยู่ที่ ประมาณ 58.6% ของสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่ระบาดในประเทศ ณ วันที่ 25 ธ.ค. โฆษกของ CDC ระบุว่า “เรามีข้อมูลเพิ่มเติมในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งสัดส่วนของการติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนนั้นลดลง” นายแพทย์สกอตต์ ก็อตต์ลีบ อดีตประธานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐทวีตข้อความว่า หากการคาดการณ์ครั้งใหม่ของ CDC เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโอมิครอนมีความแม่นยำ ก็บ่งชี้ได้ว่า อัตราผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลส่วนใหญ่อาจจะยังคงเกิดจากสายพันธุ์เดลตา ทั้งนี้ ไวรัสโอมิครอนถูกตรวจพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้และฮ่องกงเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนในสหรัฐพบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. โดยผู้ติดเชื้อคนดังกล่าวฉีดวัคซีนครบโดสแล้วและเคยเดินทางไปยังแอฟริกาใต้ หลังจากนั้นเป็นต้นมา สายพันธุ์โอมิครอนก็ได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปทั่วโลกและส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐพุ่งสูงขึ้น โดยทำให้มีการยกเลิกเที่ยวบินหลายพื้นที่ และทำลายความหวังที่ผู้คนจะได้กลับไปฉลองเทศกาลวันหยุดตามปกติ
โอมิครอนยึดตำแหน่งสายพันธุ์หลักในเนเธอร์แลนด์แล้ว แทนที่เดลตา
สถาบันสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมแห่งชาติของเนเธอร์แลนด์ (RIVM) เปิดเผยในวันนี้ว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในเนเธอร์แลนด์แล้ว โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมดในประเทศ โดยสามารถแทนที่สายพันธุ์เดลตา “การระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนจะทำให้ผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นในอนาคต ซึ่งจะทำให้จำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้าโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้น” RIVM ระบุ ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้ประกาศล็อกดาวน์ในวันที่ 19 ธ.ค.เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
ที่มา : gold.in.th ( 30 ธ.ค. 64 )
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.