บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 14 ม.ค.65 by HGF, GT, SCT

- Advertisement -

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองปิดลบจากความกังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.

คืนนี้สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.

ราคาทองคำคาดเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบแคบลง

• ราคาทองคำ Spot เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ โดยได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังจากนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดได้ออกมาแสดงความเห็นในการสนับสนุนว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. เพื่อสกัดเงินเฟ้อ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนก็สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นนายชาร์ลส์ 70.6 ในเดือนธ.ค.
• แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบแคบลง โดยมีแนวต้าน 1,830 ดอลลาร์ และ 1,840 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,810 ดอลลาร์ และ 1,800 ดอลลาร์
• อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย และนางแมรี ดาลี ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ถือครองทองคำเท่าเมื่อวาน
• คืนนี้สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนธ.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.0%  หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.3%        ในเดือนพ.ย. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากที่เพิ่มขึ้น  0.5% ในเดือนพ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.ของม.มิชิแกน ตลาดคาดว่าลดลงสู่ระดับ 70.0 จาก

ราคาทองตลาดโลก

- Advertisement -

ราคาทองแท่ง 96.5%

โกลด์ฟิวเจอร์ส

แนะนำเข้าซื้อเมื่อราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,800 ดอลลาร์ (GF 28,580 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,790 ดอลลาร์ (GF 28,400 บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

แนะนำเข้าซื้อเมื่อราคา GOH22 ปรับลงมาที่ 1,802 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,792 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางค่าเงินบาทเมื่อวานนี้แข็งค่าต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าในระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ในขณะที่แนวโน้มค่าเงินบาทระยะสั้นคาดแข็งค่าต่อเนื่อง สำหรับ USD Futures เดือนมี.ค.65 คาดจะมีแนวรับที่ 33.15 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 33.48 บาท/ดอลลาร์

News

IMF คาดเงินเฟ้อของสหรัฐมีแนวโน้มปรับลดลงใน Q2/2565

          นางคริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยในวันพุธ (12 ม.ค.) ว่า เงินเฟ้อในสหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวลดลงในไตรมาส 2/2565   “นี่คือประเด็นที่เราต้องจัดการกับปัญหาติดขัดด้านห่วงโซ่อุปทาน แต่เรามองเห็นสัญญาณความคืบหน้าในประเด็นดังกล่าวบ้างแล้ว” นางจอร์เจียวากล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี    ในวันเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐพุ่งขึ้น 7.0% ในปี 2564 ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบรายปีมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปี 2525   ส่วนทางด้านจีนนั้น นางจอร์เจียวาได้กล่าวว่าได้มีการยกเลิกนโยบายต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจก่อนเวลาอันควรเล็กน้อย โดยการบริโภคในจีนไม่ได้ปรับตัวขึ้นอย่างที่ควรจะเป็นเพื่อชดเชยภาวะชะงักงันในเศรษฐกิจ อันเกิดจากผลพวงของโรคโควิด-19    อย่างไรก็ดี นางจอร์เจียวาระบุว่า จีนสามารถใช้นโยบายทางการคลังในการกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ถึง 5%    “ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ดำเนินการในทิศทางดังกล่าวบ้างแล้ว และดิฉันคาดการณ์ว่าจะมีการออกนโยบายเพิ่มเติมในอนาคต”   ก่อนหน้านี้ นางจอร์เจียวาได้ออกมาเตือนว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อจะยิ่งเพิ่มความอันตราย และตอกย้ำความเหลื่อมล้ำในการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างชาติที่พัฒนาแล้วและชาติที่กำลังพัฒนา     “ธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางแห่งอื่น ๆ ต่างก็รู้ดีว่าจะจัดการกับเงินเฟ้ออย่างไร แต่สิ่งนี้จะต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อตลาดเกิดใหม่ และเพิ่มความเสี่ยงจากความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ”

WHO เตือนโอมิครอนยังคงเป็นอันตรายต่อคนไม่ฉีดวัคซีน แม้รุนแรงน้อยกว่าเดลตา

นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ (12 ม.ค.) ว่า โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนก่อให้เกิดโรคร้ายแรงได้น้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา แต่ยังคงเป็น “ไวรัสอันตราย” โดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน   นายแพทย์ทีโดรสกล่าวว่า มีมากกว่า 90 ประเทศที่ยังฉีดวัคซีนให้ประชากรในประเทศได้ไม่ถึง 40% และคนในทวีปแอฟริกามากกว่า 85% ยังไม่ได้แม้แต่เข็มแรก   “เราต้องไม่ยอมยกธงขาวหรือปล่อยให้ไวรัสตัวนี้ลอยนวล โดยเฉพาะเมื่อยังมีคนทั่วโลกอีกมากที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน” นายแพทย์ทีโดรสกล่าว    สำนักข่าวรอยเตอร์นำเสนอรายงานทางระบาดวิทยาของ WHO “ยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นนี้เกิดจากสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งเข้ามาแทนที่เดลตาอย่างรวดเร็วในเกือบทุกประเทศ” นายแพทย์ทีโดรสกล่าว      ทั้งนี้ นายแพทย์ทีโดรสเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกส่วนใหญ่ที่ต้องเข้าโรงพยาบาลนั้นเป็นผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน และหากโอมิครอนไม่ได้รับการควบคุม ก็มีความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะเกิดโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่อาจระบาดง่ายและร้ายแรงยิ่งกว่าโอมิครอน

“ไบเดน” คว่ำบาตรเกาหลีเหนือครั้งแรก หลังทดสอบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง

          คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรก หลังจากเกาหลีเหนือเดินหน้าทดสอบอาวุธ ซึ่งรวมถึงการทดสอบยิงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง (Hypersonic Missile) จำนวน 1 ลูกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และยิงทดสอบจำนวน 2 ลูกในสัปดาห์ที่แล้ว    สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คณะบริหารของปธน.ไบเดนได้ทำการคว่ำบาตรชาวเกาหลีเหนือ 6 ราย, ชาวรัสเซีย 1 ราย และบริษัทรัสเซียอีก 1 ราย ซึ่งสหรัฐเชื่อว่าเป็นผู้จัดหาสินค้าจากรัสเซียและจีนเพื่อสนับสนุนโครงการขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ   กระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะขัดขวางความคืบหน้าของโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และเพื่อสกัดกั้นความพยายามต่าง ๆ ที่จะแพร่กระจายเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับการผลิตอาวุธ

โดย : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

Fundamental

• กรรมการ Fed หลายคนทยอยออกสื่อให้สัมภาษณ์ย้ำเรื่องโอกาสขึ้นดอกเบี้ยเร็วและมากเพื่อต้านเงินเฟ้อ
• สหรัฐฯเผยดัชนี PPI เดือนธ.ค. พุ่งขึ้น+9.7% ต่ำกว่าที่คาดไว้เล็กน้อยแต่ยังสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลมานานกว่า11 ปี
• จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางการคาดการณ์ และขึ้นมาแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือน แต่จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการการว่างงานต่อเนื่องปรับลดลงเหลือแค่ 1.56 ล้านราย ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 50 ปี

Technical

• ราคาย่อลงแค่ช่วงสั้น ๆ แล้วรีบาวด์ขึ้นทันทีในลักษณะพยายามยืนระยะเพื่อรอปัจจัยบวกมาดันให้ผ่าน 1,830 แต่RSI ยังดู 50/50 ว่าราคาจะเอายังไง
• RSI ลงมาล้างสัญญาณ bearish divergence ราคาเด้งขึ้นโดยไม่หลุดเส้น MA ในช่วง1,810-1,815ถือว่ายังลุ้นได้ต่อกับการยืนระยะตรงแนวรับเดิมนี้
• ทิศทางวันนี้แกว่งสะสม
• จับจังหวะเล่นยังไง?trading ในกรอบจำกัด ถ้าหลุด 1,810 ก็น่า follow short สั้น ๆ หรือถ้าผ่าน1,830 ก็น่า follow buy สั้น ๆ เช่นกัน

Attention

• รัฐบาลสหรัฐฯจะมีเงินใช้จ่ายไปถึง 18 ก.พ.
• ดอกเบี้ยโลกมีแนวโน้มจะปรับขึ้นเร็วกว่าคาดเพราะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการอัดฉีดสภาพคล่องทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งต้องรอดูความชัดเจนว่ารอบนี้นักลงทุนจะเลือกทองคำหรือเงินคริปโตเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมากกว่ากัน

โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

คำแนะนำ : ทองขายทำกำไร พักสั้นๆ รอซื้อช่วงย่อตัวเช่นเดิม คืนนี้ตัวเลขค้าปลีก
  
แนวรับ 1813/ 1805  / 1790  แนวต้าน 1830 |1840|1850
              Gold/silver           USD                       Baht        DOW (stock)
ระยะสั้น     SW                   SW DOWN           positive        SW /SW up   
ระยะกลาง  SW UP               SW DOWN           SW               SW UP
ระยะยาว BULLISH              Neutral              WEAK          BULLISH
คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS 1805-35
จุดเข้า BUY 1800-13
เป้าหมาย 1830-50
SL 1790รายสัปดาห์
คำแนะนำรายเดือน 1750-1900
จุดเข้า BUY 1765-80 เป้าหมาย 1870-1900
SL 1750   

บทวิเคราะห์ :  ทองไม่ผ่าน $1830 โดนขายทำกำไรระยะสั้น พักลงมาตั้งฐานใหม่เพื่อทดสอบ $1830 ใหม่รอบหน้าหลังราคาขึ้นมาติดๆกันหลายวัน โดยรวมทองทรงดูดี พยายามจะขึ้น เพราะค่าเงินสหรัฐฯอ่อนค่าหนัก แต่ลักษณะการขึ้นอาจค่อยเป็นค่อยไปเพราะยังถูกกดดันเรื่องการลดวงเงินอัดฉีดและขึ้นดอกเบี้ยเป็นระยะๆ วันนี้ราคาทองอาจแกว่งออกข้างพักลงมา รอตัวเลขค้าปลีกสหรัฐฯที่คาดว่าจะลดลงเล็กน้อย
กลยุทธ์ : ระยะสั้นทรงทองพักเพื่อรีบาวด์ต่อ โดยมีต้าน $1830 เป็นสำคัญ ผ่านได้จะถือเป็นขาขึ้น ส่วนแนวรับจิตวิทยา $1800 คือจุดเปลี่ยนเช่นกัน ทองต้องเลี้ยงตัวไม่ต่ำกว่า $1810/1805 เพื่อรักษาภาพขาขึ้น คาดว่าวันนี้ราคาน่าจะพักไปก่อน เหมาะในการเทรดเล่นสั้นตามการสวิงแต่แนะนำการซื้อช่วงย่อตัวแรงๆ ไม่ไล่ราคา เพราะบาทเข้าโหมดแข็งค่าเช่นกัน นักลงทุนระยะกลางซื้อสะสมตามระเบียบ

ที่มา : gold.in.th ( 14 ม.ค. 65)

- Advertisement -