วิเคราะห์ราคาทองคำ 4 มี.ค.64(ภาคเช้า) by HGF, GT, YLG, SCT, MTS, Gcap

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองคำลดลงจากBond yield เพิ่มขึ้นและเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

คืนนี้สหรัฐจะประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ทองคำมีแนวรับสำคัญที่ 1,700 ดอลลาร์

  • ราคาทองคำเมื่อวานกลับมาลดลงเข้าใกล้ 1,700 ดอลลาร์ ทำจุดต่ำสุดในรอบ 10 เดือน เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นและเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นความคืบหน้าเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ อย่างไรก็ดีสหรัฐประกาศการจ้างงานภาคเอกชน ADPเดือนก.พ.เพิ่มขึ้นเพียง 117,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 203,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 195,000 ตำแหน่ง ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.พ. โดย ISM ลดลงสู่ระดับ 55.3 ต่ำกว่าตลาดคาดจะทรงตัวที่ระดับ58.7 ทำให้เริ่มมีแรงซื้อทองคำกลับเข้ามา ส่วนกองทุน SPDRGold Trust กลับมาขายทองคำ 4.74 ตัน
  • คืนนี้สหรัฐจะประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดจะอยู่ที่ระดับ 758,000 ราย ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนม.ค.ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น  2.2%  ดีขึ้นจากเดือนธ.ค.ที่เพิ่มขึ้น 1.1%
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,700-1,740 ดอลลาร์ทองคำมีแนวรับสำคัญที่ 1,700 ดอลลาร์ ซึ่งราคาทองคำเคยเคลื่อนไหวอยู่บริเวณที่ 1,700 ดอลลาร์มาหลายเดือนในช่วงเดือนเม.ย.-เดือนมิ.ย.2563ถ้าหลุดแนวรับสำคัญ1,700 ดอลลาร์ จะมีแนวรับถัดไปที่ 1,676ดอลลาร์ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,740 ดอลลาร์และมีแนวต้านสำคัญที่ 1,760 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,708.90-29.11,700/1,6761,740/1,760

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
24,850+5024,450/24,20025,000/25,250

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
24,820-15024,580/24,30025,110/25,370

แนะนำเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวที่ราคาทอง Spot1,700ดอลลาร์  (GF 24,580 บาท)  โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,690 ดอลลาร์(GF 24,470 บาท) รวมทั้งแนะนำเปิดสถานะขายเมื่อราคาทอง Spot ปรับขึ้นมาที่บริเวณ 1,740 ดอลลาร์ (GF 25,110 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,760 ดอลลาร์(GF 25,370บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,717.80-12.901,702/1,6781,742/1,762

แนะนำเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวที่ราคาGOH21 1,702ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,692 ดอลลาร์รวมทั้งแนะนำเปิดสถานะขายเมื่อราคาGOH21 ปรับขึ้นมาที่บริเวณ 1,742 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,762 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะอ่อนค่าลงโดยเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจาก

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้นขณะที่นักลงทุนขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ

สำหรับ USD Futures เดือนมี.ค.64 คาดจะมีแนวรับที่ 30.20 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 30.40 บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ:ดอลล์แข็งค่ารับบอนด์ยีลด์พุ่งจับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (3 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐรวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.19% แตะที่ 90.9464 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดร่วง $17.8 บอนด์ยีลด์พุ่ง-ดอลล์แข็งกดดันตลาด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 9 เดือนเมื่อคืนที่ผ่านมา (3 มี.ค.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำนอกจากนี้นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังมีรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 17.8 ดอลลาร์หรือ 1.03% ปิดที่ 1,715.8 ดอลลาร์/ออนซ์ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย. 2563  สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 49.2 เซนต์หรือ 1.83% ปิดที่ 26.387 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันWTI ปิดพุ่ง $1.53 รับคาดการณ์โอเปกพลัสไม่เพิ่มผลิต-สต็อกเบนซินร่วง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา (3 มี.ค) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสจะไม่มีมติเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมวันนี้นอกจากนี้สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากรายงานสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้วสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 1.53 ดอลลาร์หรือ 2.6% ปิดที่ 61.28 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 1.37 ดอลลาร์หรือ 2.2% ปิดที่ 64.07 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ:ดาวโจนส์ปิดลบ 121.43 จุดนลท.ขายหุ้นเทคโนฯ-วิตกบอนด์ยีลด์พุ่ง

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (3 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโดยเฉพาะหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงในกลุ่มFAANG (เฟซบุ๊กแอปเปิลแอมะซอนเน็ตฟลิกซ์และอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล) รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐรวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 31,270.09 จุดลดลง 121.43 จุดหรือ -0.39% ขณะที่ดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,819.72 จุดลดลง 50.57 จุดหรือ -1.31% ส่วนดัชนีNasdaq ปิดที่ 12,997.75 จุดลดลง 361.04 จุดหรือ -2.70%

โดย  : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

Fundamental

  • Beige Book เผยเศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวแค่เล็กน้อยในช่วงปีใหม่ถึงกลางเดือน ก.พ. ขณะที่นักลงทุนมองในแง่ดีกว่า Fed มากว่าเงินเฟ้อกำลังเร่งตัวขึ้นรวดเร็ว
  • Markit เผยดัชนี PMI ภาคบริการสหรัฐฯในเดือน ก.พ. พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 6 ปี แต่ดัชนี PMI ภาคบริการที่สำรวจโดย ISM กลับปรับตัวลดลงสวนทางกัน
  • ราคาน้ำมันดิบดีดกลับขึ้นมายืนเหนือ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากการคาดการณ์ว่า OPEC จะไม่เพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมวันนี้ เพราะต้องการรักษาสมดุลอุปทานน้ำมันกับสหรัฐฯที่ยอดสต็อกพุ่งสูงขึ้น

Technical

  • รูปซ้ายดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี จ่อทะลุ 1.5% อีกหน กดราคาทองลงทดสอบ1,700 แต่bullish divergence ให้น้ำหนักสิ้นสุดขาลง จึงคงคาดการณ์ว่า ราคาจะตั้งหลักในกรอบ1,700-1,760สักพัก
  • รูปขวาราคาย่อไม่หลุด 1,700 ถ้าวันนี้ปรับขึ้นผ่านช่วง 1,720-1,725จะเป็นสัญญาณแรกถึงรอบรีบาวด์
  • ทิศทางวันนี้ลองดีดขึ้นจากฐาน
  • จับจังหวะเล่นยังไง?swing trade ในช่วง 1,700-1,760วันนี้เน้นซื้อเก็งกำไร แต่ถ้าหลุด 1,700 ให้ stop loss

Attention

  • 4 มี.ค.ประธาน Fed และคณะกรรมการหลายท่านเข้าร่วมงานสัมมนาเศรษฐกิจของ Wall Street Journal จับตา ความเห็นเรื่องแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจากแต่ละท่าน เพราะตลาดเชื่อไปแล้วว่า รีบปรับขึ้นแน่นอน
  • 4 มี.ค.  ประชุมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ จับตา โอกาสปรับเพิ่มยอดผลิตตามภาวะเศรษฐกิจ
  • ติดตามเดโมแครตพยายามผลักดันร่างรายจ่าย 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ให้มีผลบังคับใช้ทันภายใน 15 มี.ค. ล่าสุด รอวุฒิสภาโหวตผ่านและให้ ปธน.เซ็นรับรอง

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

หากราคาทองคำยังไม่สามารถฝ่าแนวต้านบริเวณ 1,727-1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับย่อลงมาบริเวณแนวรับ 1,702-1,695 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,695 1,678 1,695  แนวต้าน : 1,728 1,745 1,760

จจัยพื้นฐาน :

ราคาทองคำวานนี้ปิดดิ่งลง 29.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ขณะที่ในระหว่างวันราคาขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,740.29 ดอลลาร์ต่อออนซ์  แต่ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐจาก ADP และ  ดัชนีภาคบริการจาก ISM จะออกมาแย่กว่าคาดก็ตาม  พร้อมกับร่วงลงแรงโดยได้รับแรงกดดันหลักมาจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์  ทั้งนี้  ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์หลังจากที่นายริชิ ซูแนค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอังกฤษ กล่าวว่า  รัฐบาลอังกฤษจะกู้ยืมเงินมากขึ้นอย่างมากในปีงบประมาณที่จะมาถึงนี้  และมากกว่าที่ประมาณการไว้เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาที่ระดับ  2.34 แสนล้านปอนด์หรือ 10.3% ของ GDP เมื่อเทียบกับประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 1.642 แสนล้านปอนด์หรือ 7.4% ของ GDP  นอกจากนี้  ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะ 1.4963% ในระหว่างการซื้อขายของวานนี้  ท่ามกลางการคาดการณ์เกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐและการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ  หลังรัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังใหม่  และการคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)อาจใกล้ปรับนโยบายการเงินให้เป็นปกติ(Monetary policy normalization) เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้  สถานการณ์ดังกล่าวกดดันทองคำให้ร่วงลงแรงจนทดสอบระดับต่ำสุดของปีนี้ครั้งใหม่บริเวณ 1,702.01 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองลดลง -4.74 ตัน  สำหรับวันนี้จับตานายเจอโรม พาวเวลล์  ประธานเฟดมีกำหนดจะแถลงเกี่ยวกับเศรษฐกิจในงานออนไลน์ที่จัดโดย Wall Street Journal  รวมถึงการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ

ปัจจัยทางเทคนิค :

หากราคาทองย่อตัวลงมาพยายามทรงตัวเหนือระดับ 1,702-1,695 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคามีโอกาสฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้น แต่หากไม่สามารถฝ่าแนวต้านบริเวณ 1,727 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ แสดงให้เห็นว่าราคายังมีการดีดในระดับจำกัดและแนวโน้มยังคงเป็นขาลง ราคาอาจขยับลงต่อซึ่งหากทำระดับต่ำสุดใหม่จากวันก่อนหน้า ราคามีโอกาสทดสอบแนวรับถัดไปโซน 1,678 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

แนะนำให้เปิดสถานะขายเพื่อทำกำไร หากราคาทองคำขยับขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 1,727-1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาผ่าน 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ทั้งนี้ หากราคาอ่อนตัวลงสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,702-1,695 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจปิดสถานะขายออกมาทำกำไรบางส่วน

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ดาวโจนส์ปิดลบ 121.43 จุด นลท.ขายหุ้นเทคโนฯ-วิตกบอนด์ยีลด์พุ่ง  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงในกลุ่ม FAANG (เฟซบุ๊ก แอปเปิล แอมะซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล) รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 31,270.09 จุด ลดลง 121.43 จุด หรือ -0.39% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,819.72 จุด ลดลง 50.57 จุด หรือ -1.31% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,997.75 จุด ลดลง 361.04 จุด หรือ -2.70%
  • (+) ISM เผยดัชนีภาคบริการสหรัฐต่ำกว่าคาดในเดือนก.พ.  สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 55.3 ในเดือนก.พ. จากระดับ 58.7 ในเดือนม.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 58.7
  • (+) ADP เผยการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐต่ำกว่าคาดในเดือนก.พ.  ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 117,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 225,000 ตำแหน่ง
  • (-) ดัชนี PMI ภาคบริการสหรัฐพุ่งสูงสุดรอบกว่า 6 ปีในเดือนก.พ.  ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 59.8 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2557 จากระดับ 58.3 ในเดือนม.ค.
  • (-) คาดศุกร์นี้สหรัฐรายงานตัวเลขจ้างงานเพิ่ม 210,000 ตำแหน่ง หลังวูบในเดือนม.ค.นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในวันศุกร์นี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 210,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ.  เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 49,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 50,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 6.3% ในเดือนม.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 6.7%
  • (-) ดอลล์แข็งค่ารับบอนด์ยีลด์พุ่ง จับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐ  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.19% แตะที่ 90.9464 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 106.96 เยน จากระดับ 106.73 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9196 ฟรังก์ จากระดับ 0.9140 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2636 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2614 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2065 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2085 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3955 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3965 ดอลลาร์
  • (-) ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อย นลท.กลับมากังวัลบอนด์ยีลด์พุ่ง  ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้นอีกครั้งได้ส่งผลกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนกังวลว่า อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นในปีนี้  ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 413.42 จุด เพิ่มขึ้น 0.19 จุด หรือ +0.05%  ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 5,830.06 จุด เพิ่มขึ้น 20.33 จุด หรือ +0.35%, ดัชนี DAX ปิดที่ 14,080.03 จุด เพิ่มขึ้น 40.23 จุด หรือ +0.29% และดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,675.47 จุด เพิ่มขึ้น 61.72 จุด หรือ +0.93%  ตลาดหุ้นยุโรปปิดแทบไม่ขยับหลังเปิดตลาดพุ่งขึ้น โดยนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคออกมา เนื่องจากหุ้นกลุ่มนี้ถูกมองว่าเป็นตัวแทนของพันธบัตร และมักถูกเทขายเมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น  อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยุโรปปรับตัวขึ้นในวันพุธ ขณะที่การคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาวในยูโรโซนเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2562   อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนบางส่วนจากผลสำรวจของไอเอชเอส มาร์กิตที่บ่งชี้ว่า ความหวังที่ว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จะกระตุ้นให้เศรษฐกิจกลับคืนสู่ภาวะปกตินั้นได้หนุนความเชื่อมั่นเกี่ยวกับกิจกรรมทางธุรกิจในยูโรโซนสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี

โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

แนวรับ 1710/1700|1690 แนวต้าน 1740|1750|1760
                        Gold/silver         USD          Baht       DOW (stock)
ระยะสั้น                 SW                SW            SW               SW
ระยะกลาง              SW             SW UP       WEAK            SW
ระยะยาว            NEUTRAL     BULLISH   NEUTRAL    BULLISH
คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS 1700-1740
จุดเข้า buy 1700-10
เป้าหมาย 1730-50
SL 1690

รายสัปดาห์
คำแนะนำรายเดือน 1700-1900
จุดเข้า BUY 1700
เป้าหมาย 1850-1900
SL 1670

ทองลงมาเทสแถว $1700 แล้วหลังค่าเงินสหรัฐฯปิดบวก ตลาดหุ้นปิดลบ แม้เมื่อคืนนี้ตัวเลขการจ้างงาน ADP จะย่ำแย่และรายงานเศรษฐกิจจากเฟดก็ยังบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นจริง ภาพรวมทองแม้เมื่อคืนจะมีข่าวดีกับทองแต่ก็ยังฉุดอารมณ์ตลาดให้เป็นบวกไม่ได้ โดยนักลงทุนยังเทใจไปกับ BOND YIELD สูงๆของพันธบัตรสหรัฐฯ ยิ่งราคาทองยังทำ NEW LOW รายวันแบบนี้ยังถือว่าน่าเป็นห่วง ยังดีที่เข้าโซน OVERSOLD หรือขายเยอะ สังเกตได้ว่าจะมีแรงซื้อสวนเข้ามาไม่ให้หลุด $1700 อย่างไรก็ตามคืนนี้และพรุ่งนี้จะมีปธ.เฟดแถลง (น่าจะบวก)และประกาศตัวเลขจ้างงาน NFP (น่าจะลบ) ที่จะเป็นตัวชี้เป็นชี้ตายต่อไป

กลยุทธ์ : ต้องเข้าใจว่าทองยังเป็นขาลงเพราะ USD เป็นดาวเด่น แต่ราคาทองที่ลงมาลึก เศรษฐกิจยังฝากไข้ไม่ได้ และการผ่านเงินกระตุ้น 1.9 ล้านๆในเร็วๆนี้คือตัวแปรที่จะพาทองขึ้นหรือ STRONG REBOUND จึงให้กัดฟันเลือกทางซื้อสะสมช่วงย่อตัวดีกว่าเล่นชอต 

โดย  : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)

ทิศทางราคาทองคำ

ทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องอีกครั้งหนึ่ง โดยเมื่อวานทำต่ำสุดลงไปที่บริเวณ 1,701 เหรียญ ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาและเช้านี้อยู่ที่ 1,715 เหรียญ ภาพรวม SPDR ขายออกต่อเนื่อง แม้ในวันก่อนจะซื้อเข้ามาบ้างเล็กน้อย โดยเมื่อวานนี้ยังคงเทขายทองคำออกอีก 4.74 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,082.38 ตัน ด้านดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น โดยเมื่อวานยืนเหนือ 91 จุดอีกครั้ง เช้านี้อยู่ที่ 91.02 จุด ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี ของสหรัฐฯปรับขึ้นมาเช้านี้อยู่ที่ 1.48% สำหรับ ADP Non-Farm Payrolls ของสหรัฐฯออกมาแย่ลง ทางด้านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯอยู่ระหว่างพิจารณาในสภาสูง

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำยังทำต่ำสุดใหม่ที่ 1,701 เหรียญ โดยแนวโน้มยังเป็นขาลงตามที่ได้วิเคราะห์ไว้ โดยทองคำจะมีแนวรับสำคัญทางจิตวิทยา 1,700 เหรียญ แนะนำใช้กลยุทธ์ทิศทางขาลงและต้องป้องกันความเสี่ยงให้ดี และคาดว่าวันนี้ราคาทองคำ Gold Spot, Gold Online Futures และ Gold Comex จะเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,700 เหรียญ และแนวต้าน 1,740 เหรียญ  สำหรับทองคำไทยคาดเช้านี้น่าจะปรับลงมาประมาณ 200 บาท/บาททองคำ

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

ยังแนะนำเก็งกำไรกรอบขาลง โดยมี Stop Loss หากสูงกว่าแนวต้าน 1,740 เหรียญขึ้นไป

– นักลงทุนที่ถือ Long Position 

ไม่แนะนำซื้อเฉลี่ย หรือเล่นฝั่ง Long เวลานี้ จากภาพหลักที่เป็นขาลง

– นักลงทุนที่ถือ Short Position

รอเปิดสถานะขายตามการรีบาวน์ และหาจังหวะซื้อปิดทำกำไรเมื่อราคาอ่อนตัว มีจุด Stop Loss เสมอ หากสูงกว่าจุดที่เปิดสถานะขาย หรือบริเวณแนวต้าน

Gold Futures 10J21 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,700 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,000  บาท

โดย: บริษัท จีแคป จำกัด

แนะแนวทางการลงทุน
แนวรับ 1,693- 1,682- 1,672
แนวต้าน 1,731- 1,736 – 1,743
ทองคำร่วงลงอีกครั้ง
เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังมีรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19ในสหรัฐ และคาดหวังกับการฟื้นตัวทรงเศรษฐกิจ

แนวโน้มช่วงเช้า
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้

มุมมองทองคำภาคเช้า ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 9 เดือนเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังมีรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ นอกจากนี้นักลงทุนยังต้องคอยติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในรอบสัปดาห์นี้ด้วย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน ผลผลิตนอกภาคการเกษตร ต้นทุนค่าจ้างแรงงานต่อหน่วย คำสั่งซื้อสินค้าโรงงาน การจ้างงานนอกภาคการเกษตร อัตราการว่างงาน รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงการทำงาน ดุลการค้า เป็นต้น

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้

ที่มา : gold.in.th(4 มี.ค.64)

Comments (0)
Add Comment