โดย : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)
ราคาทองคำปรับลดลงหลุดแนวรับสำคัญ 1,800 ดอลลาร์
สัปดาห์นี้ติดตามการจ้างงานของสหรัฐเดือนต.ค.
แนวโน้มราคาทองคำทางด้านเทคนิคเป็นขาลง
- ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ Spotลดลงหลุดแนวรับสำคัญ1,850ดอลลาร์ ทำให้เกิดแรงเทขายอย่างหนักเนื่องจากความคืบหน้าของวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง และกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 โดยขายทองคำ 25.39 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา และในวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาทองคำปรับลดลงหลุดแนวรับสำคัญ 1,800 ดอลลาร์ ถึงแม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกยังเพิ่มขึ้น แต่ความคืบหน้าของวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19ทำให้มีแรงเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและลงทุนในตลาดหุ้น
- ประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) การจ้างงานของสหรัฐเดือนพ.ย. ซึ่งตลาดคาดทั้งการจ้างงานภาคเอกชน ADPและการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.จะเพิ่มขึ้น 500,000 ตำแหน่งนอกจากนี้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และการประชุมกลุ่มโอเปค
- แนวโน้มราคาทองคำทางด้านเทคนิคเป็นขาลง หลังจากราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญทางเทคนิคทั้ง1,850ดอลลาร์ และ 1,800 ดอลลาร์ซึ่งเป็นแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ซึ่งราคาทองคำจะยังถูกกดดันจากความคืบหน้าของวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยมีแนวรับที่ 1,775 ดอลลาร์ และ 1,750 ดอลลาร์ ตามลำดับขณะที่มีแนวต้านที่ 1,800 ดอลลาร์ และ 1,820 ดอลลาร์ตามลำดับ
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,787.50 | -20.62 | 1,775/1,750 | 1,800/1,820 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
25,700 | -250 | 25,450/25,100 | 25,800/26,050 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
25,690 | -380 | 25,590/25,250 | 25,920/26,200 |
แนะนำเปิดสถานะขายเมื่อราคาทอง Spot ปรับขึ้นมาที่ 1,800 ดอลลาร์ (GF 25,920บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,810 ดอลลาร์(GF 26,050บาท)
การลงทุนในทองแท่งเน้นลงทุนในระยะยาวและควรแบ่งเงินลงทุนในการทยอยซื้อสะสม แนะนำทยอยซื้อสะสมที่ราคาทองคำ Spot 1,750 ดอลลาร์
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,786.50 | -23.40 | 1,777/1,752 | 1,802/1,822 |
แนะนำเปิดสถานะขายเมื่อราคาGOZ20ปรับขึ้นมาที่ 1,802 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,812 ดอลลาร์
เงินบาท
ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะแข็งค่าขึ้น ซึ่งเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอ่อนค่าลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักๆเนื่องจากนักลงทุนขายดอลลาร์ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของจีนที่แข็งแกร่ง โดยกำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมของจีนเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 28.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี สำหรับUSD Futures เดือนธ.ค.63 คาดจะมีแนวรับที่ 30.20 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่30.35 บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ:ดอลล์อ่อนเทียบสกุลเงินหลักนลท.ขายหลังคลายกังวลภาวะเศรษฐกิจ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายดอลลาร์ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากที่การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนได้หนุนแรงซื้อสกุลเงินของประเทศที่ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์และนักลงทุนยังขายดอลลาร์เพื่อเข้าลงทุนในตลาดหุ้นที่ยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.22% แตะที่ 91.8047 เมื่อคืนนี้
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดร่วง $23.1 ข่าวคืบหน้าวัคซีนโควิดกระตุ้นแรงขาย
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 พ.ย.) เนื่องจากข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 กระตุ้นให้นักลงทุนขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยออกมาเพื่อไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอาทิตลาดหุ้นสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 23.1 ดอลลาร์หรือ 1.28% ปิดที่ 1,788.1 ดอลลาร์/ออนซ์และในรอบสัปดาห์นี้สัญญาทองคำร่วงลง 4.5% ซึ่งเป็นการร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ก.ย.
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันWTI ปิดลบ 18 เซนต์นลท.ขายลดเสี่ยงก่อนประชุมโอเปกพลัส
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายสัญญาน้ำมันดิบเพื่อลดความเสี่ยงก่อนการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสในสัปดาห์หน้า สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 18 เซนต์หรือ 0.8% ปิดที่ 45.53 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 38 เซนต์หรือ 0.8% ปิดที่ 48.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดหุ้นต่างประเทศ: ดาวโจนส์ปิดบวก 37.9 จุดหุ้นค้าปลีก-เทคโนโลยีหนุนตลาด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อวันศุกรที่ผ่านมา (27 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มค้าปลีกเนื่องจากผู้บริโภคสหรัฐเริ่มทำการช้อปปิ้งออนไลน์ในช่วงเริ่มต้นเทศกาลวันหยุดปลายปีท่ามกลางภาวะที่มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ในโรงพยาบาลต่างๆของสหรัฐดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,910.37 จุดเพิ่มขึ้น 37.9 จุดหรือ +0.13%, ดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,638.35 จุดเพิ่มขึ้น 8.7 จุดหรือ +0.24% และดัชนีNasdaq ปิดที่ 12,205.85 จุดเพิ่มขึ้น 111.44 จุดหรือ +0.92%