ราคาทองวันนี้ ข่าวทองคำ

วิเคราะห์ราคาทองคำ 1 ธ.ค.63(ภาคเช้า) by YLG

569

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

แนะนำซื้อขายทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัวของราคา หลังจากราคาปรับตัวลงต่อเนื่องอาจมีแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาบ้าง ซึ่งเมื่อราคาอ่อนตัวลงหากมีแรงซื้อหนาแน่นมากพอ ยังมีโอกาสที่ราคาจะพยายามทรงตัวเพื่อสร้างฐานราคาหรือฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้น

แนวรับ : 1,765 1,755 1,740  แนวต้าน : 1,805 1,813 1,821

จจัยพื้นฐาน :

- Advertisement -

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 10.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยราคาทองคำปรับตัวลดลงในระหว่างการซื้อขายของตลาดเอเชียจนกระทั่งแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนบรเวณ 1,764.53  ดอลลาร์ต่อออนซ์  ท่ามกลางแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำจากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  ก่อนที่ราคาทองคำจะฟื้นตัวขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลง 271.73 จุดเมื่อคืนนี้  เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้า  นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแย่เกินคาด  ทั้งดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ที่ลดลง 1.1% ในเดือนต.ค. และดัชนี PMI เขตชิคาโกที่ออกแย่เกินคาดเช่นกัน  สถานการณ์ดังกล่าวหนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุด  อย่างไรก็ดี  การฟื้นตัวขึ้นของราคาทองคำยังอยู่ในกรอบจำกัด  เพราะราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากข่าวดีเกี่ยวกับวัคซีนต้าน COVID-19  หลัง Moderna เผยว่าจะขออนุมัติการใช้วัคซีนต้าน COVID-19 เป็นกรณีฉุกเฉิน ต่อ FDA สหรัฐในวันจันทร์  หลังจากข้อมูลใหม่ยืนยันว่าวัคซีนดังกล่าวมีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ 94.1% ส่วนดัชนีดอลลาร์ฟื้นจากระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีที่ 91.517 จากแรงซื้อสกุลเงินปลอดภัย หลังตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงจึงเป็นอีกปัจจัยที่สกัดช่วงบวกราคาทองคำเอาไว้  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้ติดตามการแถลงของนายเจอโรม  พาวเวลล์  ประธานเฟดและนายสตีเวน  มนูชิน  รัฐมนตรีคลังสหรัฐต่อหน้าคณะกรรมการการธนาคารประจำวุฒิสภา(the Senate Banking Committee) รวมถึงการเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐ

จจัยทางเทคนิค :

ราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในทิศทางขาลง หากระยะสั้นมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะพยายามสร้างฐานและปรับยกตัวขึ้น โดยหากวันนี้ราคาทองคำสามารถยืนเหนือ 1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้(ระดับต่ำสุดวานนี้) อาจจะเกิดแรงซื้อเก็งกำไร ทำให้มีโอกาสดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,790-1,805 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

เปิดสถานะขายบริเวณ1,790-1,805 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากผ่าน 1,813 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หากราคาอ่อนตัวลงสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้เข้าซื้อคืนทำกำไร แต่หากยืนไม่ได้ชะลอการเข้าซื้อคืนไปที่บริเวณแนวรับถัดไปที่ 1,755 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ดาวโจนส์ปิดร่วง 271.73 จุด จากแรงขายทำกำไร,ข้อมูลศก.ซบเซา    ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความอ่อนแอของข้อมูลตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐ อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาตลอดเดือนพ.ย.พบว่า ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติรายเดือนที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2530  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,638.64 จุด ลดลง 271.73 จุด หรือ -0.91% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,621.63 จุด ลดลง 16.72 จุด หรือ -0.46% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,198.74 จุด ลดลง 7.11 จุด หรือ -0.06%
  • (+) สหรัฐเผยดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายลดลง สวนทางคาดการณ์ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 1.1% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าดัชนีจะดีดตัวขึ้น 1.0%
  • (-) บิตคอยน์ร้อนแรงทุบนิวไฮเหนือ 19,800 ดอลลาร์วันนี้ หลังร่วงสัปดาห์ที่แล้ว  บิตคอยน์พุ่งทะลุระดับ 19,800 ดอลลาร์ในวันนี้ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากดิ่งลงใกล้หลุด 16,000 ดอลลาร์ในช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้าในสัปดาห์ที่แล้ว  ณ เวลา 22.42 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์พุ่งขึ้น 1,134.75 ดอลลาร์ หรือ 6.17% สู่ระดับ 19,520 ดอลลาร์ ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์มของ CoinDesk หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับ 19,843 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ สูงกว่าสถิติสูงสุดเดิมที่ระดับ 19,783 ดอลลาร์  ทั้งนี้ บิตคอยน์นับเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ทำราคาดีที่สุดในปีนี้ โดยพุ่งขึ้นถึง 186% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ขณะที่ในเดือนนี้ ราคาของบิตคอยน์ได้พุ่งขึ้นมากกว่า 40%  ขณะนี้ บิตคอยน์มีมูลค่าตลาดมากกว่า 3.65 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าระดับ 3.318 แสนล้านดอลลาร์ที่ทำไว้ในเดือนธ.ค.2560 ซึ่งขณะนั้นบิตคอยน์ทะยานทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 19,783 ดอลลาร์ ก่อนที่จะทรุดตัวลงสู่ระดับ 3,122 ดอลลาร์ในปีต่อมา
  • (-) “ไบเดน” เสนอชื่อ “เยลเลน” รับตำแหน่งรัฐมนตรีคลังสหรัฐตามคาด  นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ แถลงในวันนี้ว่า เขาได้เสนอชื่อนางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังสหรัฐ  หากได้รับการยืนยันจากวุฒิสภา นางเยลเลนจะเป็นสตรีคนแรกที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังสหรัฐในรอบ 231 ปี
  • (-) โมเดอร์นาเตรียมยื่น FDA ขออนุมัติใช้วัคซีนฉุกเฉิน หลังเผยประสิทธิภาพ 94.1%  โมเดอร์นา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ แถลงในวันนี้ว่า ทางบริษัทเตรียมยื่นเรื่องต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในวันนี้ เพื่อขออนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีฉุกเฉิน หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลใหม่ยืนยันว่าวัคซีนดังกล่าวมีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ 94.1% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19  ทั้งนี้ โมเดอร์นานับเป็นบริษัทยาแห่งที่ 2 ที่ยื่นขออนุมัติการใช้วัคซีนโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉิน หลังจากที่ไฟเซอร์ได้ยื่นเรื่องก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 พ.ย.  การยื่นขออนุมัติดังกล่าว จะทำให้ชาวอเมริกันได้รับวัคซีนของโมเดอร์นาในเวลาอีกเพียงไม่กี่สัปดาห์
  • (-) ทรัมป์ถอดใจยื้อศึกเลือกตั้ง ส่งสัญญาณไม่สู้ถึงขั้นฎีกา  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งสัญญาณยอมรับว่าเขามีความหวังเพียงริบหรี่ที่จะได้รับชัยชนะจากการยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อที่จะกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย  “ปัญหาคือ มันเป็นเรื่องยากที่จะผลักดันเรื่องนี้ให้ไปถึงศาลฎีกา ผมมีทนายความที่ดีที่สุดที่จะสู้ถึงศาลฎีกา ถ้าคดีนี้ไปถึงศาลดังกล่าว แต่พวกเขาก็กล่าวว่า ‘มันเป็นเรื่องยากมากที่จะทำการยื่นฎีกา’” ปธน.ทรัมป์กล่าววานนี้ในรายการ “Sunday Morning Futures” ของสถานีฟ็อกซ์ ซึ่งเป็นการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกของปธน.ทรัมป์ นับตั้งแต่ที่เขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งต่อนายโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต
  • (-) ดอลล์แข็งค่า เหตุวิตกโควิดหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนพากันซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.08% แตะที่ 91.8760 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 104.33 เยน จากระดับ 104.03 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9065 ฟรังก์ จากระดับ 0.9045 ฟรังก์ แต่เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2962 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2984 ดอลลาร์สหรัฐ  ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1947 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1957 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3343 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3304 ดอลลาร์

- Advertisement -

Leave a Reply