แนวโน้มช่วงเช้า
เงินปอนด์อังกฤษอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า อังกฤษอาจจะเผชิญกับการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit) หลังจากการเจรจาระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) ยังคงไม่มีความคืบหน้า
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในสหรัฐ รวมทั้งการใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในบางรัฐของสหรัฐ
มุมมองทองคำภาคเช้า ทองคำปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า สหรัฐจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 นอกจากนี้ การปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังเป็นปัจจัยดึงดูดแรงซื้อทองคำ ทองคำปิดบวกขานรับความหวังที่ว่า สภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการออกกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้ภายในวันที่ 11 ธ.ค.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐจะเผชิญภาวะชัตดาวน์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่ สินค้าคงคลังภาคค้าส่ง ดัชนีราคาผู้บริโภค จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน ดัชนีราคาผู้ผลิต ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.มิชิแกน เป็นต้น
สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา
เงินปอนด์อังกฤษอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า อังกฤษอาจจะเผชิญกับการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit) หลังจากการเจรจาระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) ยังคงไม่มีความคืบหน้า
แนะแนวทางการลงทุน
แนวรับ 1,852 – 1,843 – 1,835
แนวต้าน 1,874 – 1,882 – 1,889 ทองคำพุ่งขึ้นจากแรงหนุนสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า และความคาดหวังที่ว่าสภาคองเกรสสหรัฐจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาประชาชน อย่างไรก็ดี นักลงทุนอาจพิจารณาปิดสถานะทำกำไรตามกรอบแนวต้าน อาจมีการพักตัวระหว่างวันได้
อัพเดทข่าวเช้ากับ Gcap Gold วันที่ 09 ธันวาคม 2563
วานนี้เวลา 18.00 มีประกาศตัวเลขความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดเล็ก คาดการณ์ 102.5 ตัวเลขจริงแย่กว่าคาดการณ์ 101.4 ช่วงเวลาต่อมาเวลา 20.30 ผลผลิตนอกภาคเกษตร คาดการณ์ 4.9% ตัวเลขจริง 4.6% ทั้ง2ตัวเลขออกมาแย่กว่าคาดการณ์ทำให้ราคาทองปรับขึ้น 1872$/oz
FDAกล่าวว่าข้อมูลจากการทดลองวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาของไฟเซอร์“ สอดคล้อง” กับคำแนะนำของหน่วยงานเพื่อขออนุญาตใช้ในกรณีฉุกเฉินเจ้าหน้าที่ขององค์การอาหารและยายังกล่าวอีกว่าข้อมูลที่ส่งมานั้นแสดงให้เห็นว่าวัคซีนให้การป้องกันหลังจากรับประทานครั้งแรกนอกจากนี้ยังเสริมว่าวัคซีนสองขนาดมี “ประสิทธิภาพสูง” ในการป้องกันกรณีที่ได้รับการยืนยันของ Covid-19
เพื่อตรวจสอบวัคซีนของไฟเซอร์เจ้าหน้าที่ขององค์การอาหารและยายังกล่าวอีกว่าข้อมูลที่ส่งมาดูเหมือนว่าวัคซีนที่ให้การป้องกันหลังจากรับประทานครั้งแรก วัคซีนของไฟเซอร์ต้องใช้สองครั้งห่างกันประมาณสามสัปดาห์ หน่วยงานกล่าวเพิ่มเติมว่าวัคซีนสองปริมาณมี “ประสิทธิภาพสูง” ในการป้องกันผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันโควิด -19 อย่างน้อย 7 วันหลังจากได้รับครั้งที่สอง
การเริ่มฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาให้แก่ชาวอังกฤษ เมื่อวันอังคารที่ 8 ธันวาคม เกิดขึ้นภายหลังรัฐบาลอังกฤษตัดสินใจเมื่อสัปดาห์ที่แล้วอนุมัติการใช้อย่างเร่งด่วนวัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทค วัคซีน 800,000 โดสแรกของอังกฤษถูกส่งจากโรงงานของไฟเซอร์ในเบลเยียมเมื่อสุดสัปดาห์ โดยอังกฤษกำหนดว่า ผู้ที่อยู่ในเกณฑ์ได้รับวัคซีนก่อนคือ คนชราอายุ 80 ปีขึ้นไป, เจ้าหน้าที่ดูแลคนชรา และผู้ปฏิบัติการสาธารณสุขด่านหน้าของสำนักบริการสุขภาพแห่งชาติที่มีความเสี่ยงสูง
ขอขอบคุณ : บริษัท จีแคป จำกัด