ราคาทองวันนี้ ข่าวทองคำ

วิเคราะห์ราคาทองคำ 8 ม.ค.64(ภาคเช้า) by YLG

524

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

เน้นการเก็งกำไรระยะสั้น การเข้าซื้ออาจต้องรอจังหวะการอ่อนตัวลงของราคาค่อยเข้าซื้อโซน 1,904 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,930-1,933 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไรบางส่วน แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป

แนวรับ : 1,904 1,889 1,873  แนวต้าน : 1,933 1,950 1,966

จจัยพื้นฐาน :

- Advertisement -

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลงต่ออีก 4.8  ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยได้รับแรงกดดันหลักมาจากการฟื้นตัวของดอลลาร์  ทั้งนี้  ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น +0.41%  หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาด  อาทิ  ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 787,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว จากระดับ 790,000 รายที่มีการรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยเป็นการปรับตัวลง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้  และดัชนีภาคบริการของสหรัฐจาก ISM ดีดตัวสู่ระดับ 57.2 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 55.9 ในเดือนพ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 54.6 เช่นกัน  นอกจากนี้  การคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวภายใต้การนำของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐ  หลังจากพรรคเดโมแครตสามารถครองอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งในทำเนียบขาว วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร  ซึ่งจะเอื้อต่อการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่  และการคาดการณ์ดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงจนบั่นทอนความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย  ส่งผลให้ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลงและทำระดับต่ำสุดบริเวณ 1,906.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง  -4.67  ตัน  สำหรับวันนี้  จับตาการเปิดเผยตัวเลขอัตราการว่างงาน,  การจ้างงานนอกภาคการเกษตร  และรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงประจำเดือนธ.ค. และจับตาความเคลื่อนไหวทางการเมืองของสหรัฐหลังจาก CNBC รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า  นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐและนายไมค์ ปอมเปโอรัฐมนตรีต่างประเทศ เป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรีที่หารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการใช้บทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ 25 เพื่อถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ออกจากตำแหน่ง

จจัยทางเทคนิค :

หากราคาทองย่อตัวลงมาพยายามทรงตัวเหนือระดับ 1,904 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาเริ่มมีการดีดตัวกลับทุกครั้งเมื่อราคาอ่อนตัวลง แต่หากการดีดตัวกลับราคายังไม่สามารถดีดตัวกลับไปทดสอบหรือยืนเหนือโซนแนวต้าน 1,930-1,933 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นอาจเกิดแรงขายจะกดดันให้ราคาปรับตัวลงทดสอบแนวรับอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน :

แนะนำลงทุนในกรอบจากการแกว่งตัว โดยเข้าเสี่ยงซื้อเมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงและสามารถยืนเหนือโซน 1,904 ดอลลาร์ต่อออนซ์อย่างแข็งแกร่ง ตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,901 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,930-1,933 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) แกนนำเดโมแครตเรียกร้องปลดทรัมป์ หลังปลุกม็อบบุกคองเกรส  นายชัค ชูเมอร์ แกนนำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาสหรัฐ เรียกร้องให้มีการปลดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่งโดยทันที หลังจากที่เขาได้ยุยงปลุกปั่นให้กลุ่มผู้สนับสนุนของเขาบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเมื่อวานนี้ เพื่อขัดขวางกระบวนการประกาศรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของนายโจ ไบเดน  “สิ่งที่เกิดขึ้นในรัฐสภาเมื่อวานนี้ถือเป็นการก่อกบฏต่อสหรัฐ โดยได้รับการยุยงปลุกปั่นจากท่านประธานาธิบดี ซึ่งประธานาธิบดีคนนี้ไม่ควรอยู่ในตำแหน่งนานกว่านี้แม้แต่วันเดียว เขาควรถูกปลดโดยเร็วที่สุด และด้วยวิธีที่ได้ผลมากที่สุด โดยควรจะเกิดขึ้นในวันนี้” นายชูเมอร์กล่าว
  • (-) ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 211.73 จุด ขานรับคองเกรสรับรองชัยชนะไบเดน  ดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (7 ม.ค.) หลังจากสภาคองเกรสสหรัฐประกาศรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโจ ไบเดนอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะช่วยให้คณะบริหารของพรรคเดโมแครตสามารถผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากดัชนีภาคบริการของสหรัฐที่ขยายตัวแข็งแกร่งกว่าตัวเลขคาดการณ์  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,041.13 จุด เพิ่มขึ้น 211.73 จุด หรือ + 0.69% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,803.79 จุด เพิ่มขึ้น 55.65 จุด หรือ +1.48% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,067.48 จุด เพิ่มขึ้น 326.69 จุด หรือ +2.56%
  • (-) บิตคอยน์หยุดไม่อยู่ พุ่งนิวไฮทะลุ 40,000 ดอลลาร์ สูงกว่า 1,200,000 บาทวันนี้  บิตคอยน์พุ่งทะลุระดับ 40,000 ดอลลาร์ หรือสูงกว่า 1,200,000 บาทในวันนี้ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ณ เวลา 01.27 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์พุ่งขึ้น 2,334.37 ดอลลาร์ หรือ 6.29% สู่ระดับ 39,447.62 ดอลลาร์ ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์มของ Coin Metrics หลังพุ่งแตะระดับ 40,188 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้  บิตคอยน์เพิ่งทำสถิติทะลุแนว 35,000 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ ขณะที่พุ่งขึ้นมากกว่า 30% จากต้นปีนี้ หลังจากที่ทะยานขึ้น 400% ในปีที่แล้ว
  • (-) ISM เผยดัชนีภาคบริการสหรัฐดีดตัวมากกว่าคาดในเดือนธ.ค.  สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 57.2 ในเดือนธ.ค. หลังจากปรับตัวลง 2 เดือนติดต่อกัน จากระดับ 55.9 ในเดือนพ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 54.6  ดัชนีปรับตัวขึ้นใกล้แตะระดับ 57.3 ที่ทำไว้ในเดือนก.พ. ก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
  • (-) สหรัฐเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานลดลงสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางคาดการณ์  กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 787,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว จากระดับ 790,000 รายที่มีการรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยเป็นการปรับตัวลง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน  นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 815,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
  • (-) “โมเดอร์นา” ยันวัคซีนโควิดของบริษัทสร้างภูมิต้านทานนานถึง 2-3 ปี  นายสเตเฟน แบนเซล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ เปิดเผยว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของทางบริษัทสามารถสร้างภูมิต้านทานไวรัสได้นานถึง 2-3 ปี  “ผมคิดว่ารายงานที่ปรากฎในสื่อซึ่งระบุว่าวัคซีนให้การป้องกันเพียง 1-2 เดือนนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยเราเชื่อว่าวัคซีนของเราจะให้การปกป้องนานถึง 2-3 ปี” นายแบนเซลกล่าว  นอกจากนี้ นายแบนเซลกล่าวว่า โมเดอร์นากำลังพิสูจน์ว่าวัคซีนของบริษัทมีประสิทธิภาพในการปกป้องไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษและแอฟริกาใต้เช่นกัน  ทางด้านคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ให้การอนุมัติอย่างเป็นทางการวานนี้สำหรับการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นาในสหภาพยุโรป (EU)

(-) ดอลล์แข็งค่า รับข้อมูลศก.สดใส-คาดเดโมแครตกระตุ้นศก.  ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ม.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมทั้งความหวังที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวในยุคที่คณะบริหารของนายโจ ไบเดน ปกครองประเทศ  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.34% แตะ 89.8300 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 103.86 เยน จากระดับ 103.13 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8849 ฟรังก์ จากระดับ 0.8797 ฟรังก์ แต่เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2685 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2693 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2268 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2307 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3570 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3598 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7759 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7788 ดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : gold.in.th( 8 ม.ค.64 )

- Advertisement -

Leave a Reply