สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์ได้สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ ขณะที่นักลงทุนจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ โดยคาดว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดนอาจจะต้องปรับลดวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้สามารถผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 0.05% ปิดที่ 1,855.2 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 7.2 เซนต์ หรือ 0.28% ปิดที่ 25.484 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 6.9 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่ 1,104.7 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 18.30 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 2,346.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปรับตัวลงหลังจากดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.17% แตะที่ 90.3900 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้น และมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นๆ
นักลงทุนจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ โดยคาดว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดนอาจจะต้องปรับลดวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้สามารถผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส หลังจากสมาชิกสภาคองเกรสหลายรายทั้งจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ และตั้งข้อสงสัยถึงความจำเป็นของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของปธน.ไบเดน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 26-27 ม.ค. โดยนักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% ขณะที่ตลาดจับตาดูว่าเฟดจะยังคงซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวงเงิน 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือนหรือไม่ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ