ราคาทองวันนี้ ข่าวทองคำ

วิเคราะห์ราคาทองคำ 10 มี.ค.64(ภาคเช้า) by SCT, YLG, Gcap, InterGold, GT

602

- Advertisement -

โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

คำแนะนำ : ทองฟื้นตัวเพราะยูโรแข็งค่า วันนี้จับตาเงินเฟ้อ USA และลงนามวงเงินของไบเดน แนะย่อซื้อขึ้นขาย
แนวรับ 1700/ 1690|1680แนวต้าน 1720|1730|1750
                       Gold/silver           USD           Baht        DOW (stock)
ระยะสั้น                 SW            SW DOWN      SW               SW
ระยะกลาง          SW UP             WEAK          SW             SW UP
ระยะยาว           NEUTRAL        BULLISH   NEUTRAL    BULLISH
คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS 1700-1725
จุดเข้า buy 1700-10
เป้าหมาย 1720-30
SL 1690

รายสัปดาห์
คำแนะนำรายเดือน 1650-1880
จุดเข้า BUY 1690-1705
เป้าหมาย 1800-1880
SL 1670

     ราคาทองฟื้นตัวตามคาดหลังตัวเลขเยอรมันออกมาดี นำพาค่าเงินยูโรแข็งค่า ดันค่าเงินสหรัฐฯอ่อนตัว โดยรวมราคาทองกลับมายืน $1700 พร้อมทรงบาทอ่อนถือว่าดีมาก และจากนี้ไปต้องยืนปิดเหนือ $1700 ให้ได้ทุกวันเพื่อรักษาภาพเชิงบวกต่อไป คืนนี้จับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯและการลงนามผ่านมาตรการเงินกระตุ้น 1.9 ล้านๆของปธน.ไบเดน ที่คาดว่าเงินมหาศาลลักษณะนี้จะดันเงินเฟ้อพุ่งและทำให้ทองทรงตัวบวก

     กลยุทธ์จึงแนะทางซื้อเพื่อเทรดสั้นหรือถือยาวระยะกลาง คาดว่าราคาหากยืน $1700 ได้น่าจะไปต่อเทสแนวต้าน $1725/1740 ต่อไป สั้นๆวันนี้น่าจะแกว่งไปมา ถัดจากวันนี้ไปให้จับตาคืนพฤหัสที่ทาง EU จะแถลงนโยบายการเงินและเฟดในคืนพุธหน้าที่ 18 คาดทองจะสวิงผันผวนอีกรอบ

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,695-1,684 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ และทยอยปิดสถานะทำกำไรหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,720-1,729 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,695 1,684 1,676 แนวต้าน : 1,729 1,741 1,753

จจัยพื้นฐาน :

ราคาทองคำวานนี้ทะยานขึ้นถึง 31.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากแรงซื้อ Buy the dip หลังจากราคาทองคำร่วงลงต่อจนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนบริเวณ 1,676.76 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันทำการก่อนหน้า  ก่อนที่ราคาทองคำจะทะยานขึ้นแข็งแกร่งในช่วงการซื้อขายของตลาดยุโรป  โดยได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัย  ได้แก่  (1.) การแข็งค่าของสกุลเงินยูโร  ขานรับการเปิดเผยยอดส่งออกของเยอรมนีในเดือนม.ค.ที่ดีดตัวขึ้น 1.4% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 1.2% ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์ให้อ่อนค่า (2.) การแข็งค่าของเงินปอนด์  จากความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนต้าน COVID-19 ที่รวดเร็วของอังกฤษ  รวมไปถึงความเห็นของนายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)ที่แสดงมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอังกฤษ  ซึ่งช่วยกดดันดอลลาร์ให้อ่อนค่าเพิ่ม  (3.) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ร่วงลงจากระดับ 1.6%ในวันก่อนหน้าสู่ระดับ 1.563% ก่อนที่กระทรวงการคลังสหรัฐจะออกประมูลพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 และ 30 ปีในวันพุธและพฤหัสตามเวลาสหรัฐ  และ (4.) การเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมของสหรัฐจาก NFIB ที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์  ซึ่งปัจจัยที่กล่าวมา  กดดันดัชนีดอลลาร์ให้อ่อนค่าลง 0.40% สู่ระดับ 91.97 จนเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำให้พุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 1,720 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมือคืนนี้   อย่างไรก็ดี  กองทุน SPDR ยังคงถือครองทองลดลงอีก -1.45 ตันจึงเป็นปัจจัยสกัดช่วงบวกราคาทองคำเอาไว้  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ  และจับตาความเคลื่อนไหวของดัชนีดอลลาร์และ.) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีเช่นเดิม

ปัจจัยทางเทคนิค :

หากราคาทองคำไม่สามารถ break out ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,729 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ อาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นให้กลับลงมาตั้งฐานราคาด้านล่างอีกครั้ง เบื้องต้นประเมินว่าราคายังคงเคลื่อนไหวระหว่าง 1,684-1,729 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนราคาระดับ 1,695-1,684 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ จึงจะมีแรงดีดกลับไปทดสอบแนวต้านด้านบนอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน :

เปิดสถานะซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,695-1,684 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,684 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ อาจพิจารณาแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,720-1,729 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) สหรัฐเผยดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อมปรับตัวขึ้นในเดือนก.พ.  สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) แถลงในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมปรับตัวขึ้น 0.8 จุด สู่ระดับ 95.8 ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากร่วงลงติดต่อกัน 3 เดือน  ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมได้รับแรงหนุนจากการจ้างงานและรายได้ที่เพิ่มขึ้น  อย่างไรก็ดี ดัชนีความเชื่อมั่นยังคงต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 96.5
  • (+) ดอลล์อ่อนค่าตามทิศทางบอนด์ยีลด์ นลท.จับตาประชุมเฟด ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอ่อนตัวลง ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขานรับรายงานยอดส่งออกที่สดใสของเยอรมนี  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.39% สู่ระดับ 91.9548 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.46 เยน จากระดับ 108.86 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9280 ฟรังก์ จากระดับ 0.9351 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2632 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2655 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1900 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1858 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3897 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3837 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7717 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7662 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (-) อินเดียยันไม่มีการขาดแคลนวัคซีนโควิด-19 ในประเทศรัฐบาลอินเดียออกแถลงการณ์ ยืนยันว่าไม่มีการขาดแคลนวัคซีนโควิด-19 ในรัฐราชสถาน หรือในรัฐใดในประเทศ  กระทรวงสาธารณสุขอินเดียระบุว่า รัฐบาลได้จัดส่งวัคซีนไปรัฐต่างๆทั่วประเทศ โดยขึ้นอยู่กับความต้องการ และรูปแบบการบริโภคในรัฐต่างๆ  ทั้งนี้ อินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีการผลิตวัคซีนโควิด-19 รายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ทำการฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวน 23 ล้านโดสให้แก่ประชาชนจำนวนราว 17 ล้านคน
  • (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 30.30 จุด รับแรงซื้อหุ้นเทคโนฯ-แผนกระตุ้นศก.คืบหน้า  ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุด โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวลง รวมทั้งความหวังที่ว่า สภาคองเกรสสหรัฐจะเร่งอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศณษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ที่นำเสนอโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,832.74 จุด เพิ่มขึ้น 30.30 จุด หรือ +0.10% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,875.44 จุด เพิ่มขึ้น 54.09 จุด หรือ +1.42% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,073.82 จุด เพิ่มขึ้น 464.66 จุด หรือ +3.69%
  • (+/-) ยูโรสแตทเผยเศรษฐกิจยูโรโซนหดตัว 0.7% ในไตรมาส 4/63  สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของยูโรโซน หดตัวลง 0.7% ในไตรมาส 4/2563 เมื่อเทียบรายไตรมาส ซึ่งย่ำแย่กว่าตัวเลขประมาณการเบื้องตันที่ระบุว่าหดตัว 0.6%  เมื่อเทียบรายปี เศรษฐกิจยูโรโซนหดตัวลง 4.9% ในไตรมาส 4 ซึ่งดีกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องตันที่ระบุว่าหดตัว 5.0%
  • (+/-) สภาผู้แทนฯสหรัฐยืนยันเตรียมโหวตกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจพรุ่งนี้  สำนักงานของนายสเตนี โฮเยอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ออกแถลงการณ์ระบุว่า ทางสภาผู้แทนราษฎรได้รับร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์จากวุฒิสภาแล้ว ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรจะทำการพิจารณาและลงมติต่อร่างกฎหมายดังกล่าวในวันพรุ่งนี้  ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวระบุว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอาจลงมติต่อร่างกฎหมายดังกล่าวอย่างเร็วที่สุดในวันนี้  หากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐให้การอนุมัติร่างกฎหมายฉบับนี้ ก็จะส่งต่อไปยังประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายก่อนวันที่ 14 มี.ค. ซึ่งเป็นวันที่มาตรการช่วยเหลือผู้ว่างงานในปัจจุบันจะหมดอายุลง

โดย: บริษัท จีแคป จำกัด

แนะแนวทางการลงทุน
แนวรับ 1,693- 1,687- 1,681
แนวต้าน 1,731- 1,736 – 1,741
ทองคำปิดตลาดเหนือระดับ 1,700/Oz ได้อีกครั้ง ได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร และแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่ออนค่าลง ซึ่งรวมถึงการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร แต่มองว่าการดีดตัวอาจอยู่ในวงจำกัดเพราะราคาอยู่ในช่วงรีบาวน์ระยะสั้น ๆ หากไม่ผ่านต้านแนะเปิดขาย

แนวโน้มช่วงเช้า
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอ่อนตัวลง ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขานรับรายงานยอดส่งออกที่สดใสของเยอรมนี ดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลง เมื่อคืนนี้ โดยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีถือเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง

มุมมองทองคำภาคเช้า ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1,700 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.)
โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการชะลอตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ นอกจากนี้สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 16-17 มี.ค.นี้ เพื่อดูท่าทีของเฟดเกี่ยวกับแนวโน้มการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อที่เป็นผลมาจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ นอกจากนี้นักลงทุนยังต้องคอยติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในรอบสัปดาห์นี้ด้วย ดัชนีราคาผู้บริโภคจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.มิชิแกน เป็นต้น

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอ่อนตัวลง ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขานรับรายงานยอดส่งออกที่สดใสของเยอรมนี

โดย : บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด

กลยุทธ์ : สัญญาณกลับตัว รอย่อซื้อ
แนวต้าน : 1720 หรือ 25,000 บาท
แนวรับ : 1690 หรือ 24,700 บาท

ราคาทองวันนี้ดีดตัวขึ้นทะลุ 1700 และขึ้นสูงสุดในวันที่บริเวณ 1720 ถือเป็นการดีดตัวขึ้นและปิดบวกสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ จากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทน 10 ปีของพันธบัตรสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีที่ราคาสามารถกลับมาอยู่เหนือโซน 1700 ได้อีกครั้ง และในคืนนี้จะมีตัวเลข CPI ซึ่งเป็นตัวเลขสำคัญที่บอกถึงเงินเฟ้อ และถูกใช้ในการตัดสินใจสำคัญของเฟด ในเรื่องดอกเบี้ย และนโยบายการเงินต่างๆ มีโอกาสที่ราคาทองจะมีความผันผวนในช่วงเวลาดังกล่าว ในทาง Technical ราคาทองมีสัญญาณกลับตัว Engulfing pattern ในระดับรายวันประกอบกับ RSI อยู่โซน Oversold อยู่แล้วมีโอกาสที่ราคาทองคำจะเริ่มรีบาวได้ กลยุทธ์คือรอทยอยซื้อสะสมเมื่อราคาย่อมาระดับ 1690-1700 สามารถขายเก็งกำไรได้ที่เหนือ 1720 ขึ้นไป

โดย  : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

Fundamental

  • คืนนี้ สส.สหรัฐฯจะโหวตรับรองร่างกฎหมายอัดเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ คาดว่าจะผ่านฉลุยแน่นอนด้วยเสียงข้างมากของพรรคเดโมแครต
  • เศรษฐกิจยูโรโซนหดตัวลง -0.7% ในไตรมาส 4 ผิดกับไตรมาส 3 ที่ขยายตัว +12.4% ทำให้ทั้งปีหดตัว -4.9%
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี ดิ่งแรงจากระดับ 1.60% ลงมาอยู่แถว1.52%พร้อมกับการอ่อนลงของดัชนีสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯตลอดวานนี้ ส่งให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นมายืนที่1,715

Technical

  • รูปซ้ายราคารีบาวด์ขึ้นแรงเกินคาดด้วยแรงส่งจากการกลับเข้ามาซื้อเก็งกำไรเพราะดอกเบี้ยพันธบัตรดิ่งลงอย่างรวดเร็ว แต่แรงส่งจากbullish divergence หมดแล้ว ถ้าดอกเบี้ยพันธบัตรไม่ลงต่ำกว่า 1.5% ควรระวังการอ่อนตัวลงมาอีกรอบ และอาจต่ำกว่า 1,700
  • รูปขวาราคาพักตัว RSI ลดลงจาก overbought เช้านี้น่าจะขึ้นต่อ แต่ช่วงบ่ายเป็นต้นไปให้ระวังอ่อนตัว
  • ทิศทางวันนี้ขึ้นน้อย ลงมาก
  • จับจังหวะเล่นยังไง?ถ้าขึ้นน้อย ให้รอย่อหลุด 1,715

Attention

  • ติดตามเดโมแครตพยายามผลักดันร่างรายจ่าย 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ให้มีผลบังคับใช้ทันภายใน 15 มี.ค. ล่าสุด รอให้ ประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดน เซ็นรับรอง
  • 16-17 มี.ค.  ประชุม FOMC คาดว่าจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยและจะเน้นย้ำว่าคงนโยบายการเงินเดิมไปอีกพักใหญ่ แต่ให้จับตาความเห็นของกรรมการ Fed แต่ละคนว่า มีมุมมองต่อภาวะเงินเฟ้อที่กำลังจะเพิ่มขึ้นอย่างไร
  • แนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปจะฟื้นจากโควิดได้ช้ากว่าคาด เพราะวัคซีนขาดแคลน จึงยังเลิก lockdown ไม่ได้

ที่มา : golo.in.th (10 มี.ค.64)

- Advertisement -

Leave a Reply