ราคาทองวันนี้ ข่าวทองคำ

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 1 เม.ย.64 GT, Gcap, YLG, MTS

743

- Advertisement -

โดย  : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

Fundamental

  • ไบเดนเปิดแผนปรับโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมอเมริกันครั้งใหญ่ที่คาดว่าจะใช้งบประมาณเบื้องต้น2 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อก้าวขึ้นเป็นชาติชั้นนำในการลดโลกร้อนและใช้พลังงานสะอาด
  • ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบดิ่งลงทันทีจนหลุด 60 เหรียญ
  • ด้านราคาทองคำดีดแรงกลับขึ้นมาปิดเหนือ 1,700 ได้ทันสิ้นไตรมาสแรก แต่ภาพรวมยังคงเป็นขาลงที่เริ่มมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว จึงเป็นการปรับตัวลดลงติดกัน 3 ไตรมาส และทำสถิติเป็นไตรมาสแย่สุดในรอบ 4 ปี

Technical

- Advertisement -

  • รูปซ้ายการดีดขึ้นแรงด้วย technical rebound จากภาวะ oversold ของ RSI ไม่ใช่การเปลี่ยนทิศทางราคาที่ยั่งยืน แนวโน้มหลักยังเป็นขาลง ดังนั้น 1,700 จึงไม่ใช่แนวรับที่คาดหวังได้ว่าจะเอาอยู่
  • รูปขวาRSI ขึ้นจาก oversold ไป overbought แล้วดิ่งลงอย่างรวดเร็ว แต่เส้น MA รองเป็นแนวรับที่ 1,700 จึงคาดว่าจะยืนเหนือ 1,700 ก่อนจะทิ้งตัวลงอีกรอบ
  • ทิศทางวันนี้วัดพลัง 1,700
  • จับจังหวะเล่นยังไง?ปิดทำกำไรฝั่งซื้อทั้งหมด แล้วรอจังหวะfollow short เมื่อหลุด 1,700 เพื่อเล่นสั้น

Attention

  • แนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปจะฟื้นจากโควิดได้ช้ากว่าคาด เพราะวัคซีนขาดแคลน จึงยังเลิก lockdown ไม่ได้
  • ไบเดนเอาจริงเอาจังเรื่องลดโลกร้อนเท่าตอนหาเสียง เป็นปัจจัยลบต่อราคาน้ำมันที่กำลังถูกดันขึ้นด้วยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก และเป็นเรื่องดีต่อผู้ผลิตทองคำในแง่ต้นทุนการผลิตอาจไม่สูงกว่านี้ ถ้าทั่วโลกทยอยปรับมาใช้พลังงานสะอาด แต่อีกมุมก็เป็นการเปิดความเสี่ยงด้านราคาตลาดที่ยิ่งมีส่วนต่างห่างกว่าต้นทุนรวมทุกอย่างมากก็ยิ่งแสดงว่ามีการเก็งกำไรสูง

โดย: บริษัท จีแคป จำกัด

แนะแนวทางการลงทุน

แนวรับ 1,696-  1,691-  1,686

แนวต้าน  1,718-1,723 – 1,728

                ทองคำดีดตัวขึ้นโดยได้ปัจจัยบวกจากการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ  แต่อย่างไรก็ตามราคายังไม่สามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันได้ นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้น ๆ ออกมาด้วย  สถานะฝังซื้อแนะรอปิดทำกำไรที่กรอบแนวต้าน 

แนวโน้มช่วงเช้า

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ของสหรัฐ รวมทั้งการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประธานาธิบดีโจไบเดน

มุมมองทองคำภาคเช้า   ทองคำดีดตัว 29.60ดอลล์ได้ปัจจัยบวกจากการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ  อย่างไรก็ดี ราคาทองมีแนวโน้มทำสถิติดิ่งลงในไตรมาสนี้มากที่สุดในรอบกว่า 4 ปี โดยถูกกระทบจากการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และการแข็งค่าของดอลลาร์ 

ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งทะลุ 1.77% แตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนเมื่อวานนี้ โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้น รวมทั้งคาดการณ์การดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อ ท่ามกลางความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 และการที่รัฐบาลเตรียมประกาศแผนใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน

นอกจากนี้นักลงทุนยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ได้แก่  จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน  ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต  ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต ISM  ค่าใช้จ่ายด้านก่อสร้าง  การจ้างงานนอกภาคการเกษตร   อัตราการว่างงาน  รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงการทำงาน  เป็นต้น

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ของสหรัฐ รวมทั้งการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประธานาธิบดีโจไบเดน

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

หากราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1,699 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เสี่ยงเปิดสถานะขาย โดยตัดขาดทุนหากผ่านแนวต้านในโซน 1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับการปิดสถานะขายเพื่อทำกำไรอาจพิจารณาดูบริเวณ 1,676-1,659 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถยืนได้ให้ชะลอการเข้าซื้อคืนออกไป

แนวรับ : 1,676 1,659 1,643 แนวต้าน : 1,699 1,717 1,734

จจัยพื้นฐาน :

ราคาทองคำวานนี้ปิดพุ่งขึ้น  22.40  ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์  หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาแย่เกินคาด  อาทิ  การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐจาก ADP ที่เพิ่มขึ้น 517,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. แม้จะเป็นตัวเลขสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2020 แต่ก็ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 525,000 ตำแหน่ง  ส่วนดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ดิ่งลงเกินคาดถึง10.6% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน และปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน  ขณะที่วานนี้เป็นวันปิดไตรมาส 1/2021 ทำให้ผู้จัดการกองทุนบางส่วนอาจขายดอลลาร์สหรัฐออกเพื่อปรับสมดุลให้กับพอร์ตการลงทุนอีกด้วย  ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน อ่อนค่าลง -0.07% สู่ระดับ 93.203 เมื่อคืนนี้จนเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นทะลุ 1,700 ดอลลาร์ซึ่งถือเป็นแนวต้านจิตวิทยา  นั่นทำให้นักลงทุนบางส่วนที่ถือสถานะขายทำการซื้อคืน(Short Covering)เพื่อปิดสถานะในวันสิ้นไตรมาสจนดันราคาทองคำเพิ่ม  สถานการณ์ดังกล่าวหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,715.07  ดอลลาร์ต่อออนซ์  อย่างไรก็ดี  การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำยังถูกสกัดช่วงบวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ยังคงทรงตัวเหนือ 1.74% ขานรับแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ที่ประธานาธิบดีโจ  ไบเดนเปิดเผยวานนี้  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนี PMI ภาคการผลิต และข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง

ปัจจัยทางเทคนิค :

หากราคาทองย่อตัวลงมาแต่ยังทรงตัวได้เหนือระดับ 1,678-1,676 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้เห็นการดีดกลับไปทดสอบแนวต้าน 1,715-1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง และแต่หากไม่สามารถหากยืนบริเวณดังกล่าวได้ ราคาอาจขยับลงทดสอบแนวรับ หากยืนไม่อยู่จะมีแนวรับถัดไปโซน 1,655 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

แนะนำให้แบ่งขายทองคำออกขายเพื่อทำกำไร หากราคาทองคำขยับขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 1,715-1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไม่ได้ (ตัดขาดทุนสถานะขายหากราคาผ่านโซนบริเวณ 1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์) และอาจเข้าซื้อคืนเมื่อราคาทองคำย่อตัวลงมาบริเวณ 1,676-1,655 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยไม่ควรลงทุนมากเกินไป

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ดอลล์อ่อนค่า จับตาตัวเลขจ้างงาน-ไบเดนแถลงแผนลงทุน  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ของสหรัฐ รวมทั้งการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.09% สู่ระดับ 93.2202 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2569 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2633 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 110.73 เยน จากระดับ 110.34 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9455 ฟรังก์ จากระดับ 0.9421 ฟรังก์  ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1726 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1716 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3779 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3723 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7601 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7589 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (+) ดาวโจนส์ปิดลบ 85.41 จุด จับตาไบเดนเผยแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวกเนื่องจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนรอดูการเปิดเผยแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,981.55 จุด ลดลง 85.41 จุด หรือ -0.26% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,972.89 จุด เพิ่มขึ้น 14.34 จุด หรือ +0.36% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,246.87 จุด เพิ่มขึ้น 201.48 จุด หรือ +1.54%
  • (+) สหรัฐเผยดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายลดลงเป็นเดือนที่ 6  สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ดิ่งลง 10.6% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน
  • (+) ADP เผยจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐพุ่ง 517,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค.  ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 517,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2563 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 525,000 ตำแหน่ง  นอกจากนี้ ADP ยังได้ปรับตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนก.พ.เป็นเพิ่มขึ้น 176,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานเพิ่มขึ้น 117,000 ตำแหน่ง
  • (+) โควิดคร่าชีวิตชาวอเมริกันสูงเป็นอันดับ 3 ในปีที่แล้ว รองจากโรคหัวใจ,มะเร็ง  ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) เปิดเผยว่า โรคโควิด-19 คร่าชีวิตชาวอเมริกันสูงเป็นอันดับ 3 ในปีที่แล้ว รองจากโรคหัวใจและมะเร็ง  ทั้งนี้ ผลการศึกษาของ CDC พบว่า ชาวอเมริกันเสียชีวิตรวมมากกว่า 3.3 ล้านรายในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 16% จากปี 2562 โดยชาวอเมริกันตายด้วยโรคโควิด-19 จำนวน 345,323 ราย โดยมีจำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่าโรคอัลไซเมอร์ เบาหวาน ไข้หวัดใหญ่ และโรคไต
  • (-) “ไฟเซอร์” เผยวัคซีนมีประสิทธิภาพ 100% ป้องกันโควิดสำหรับวัยรุ่น 12-15 ปี บริษัทไฟเซอร์ อิงค์เปิดเผยว่า ผลการทดลองวัคซีนโควิด-19 ในระยะที่ 3 พบว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพ 100% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สำหรับวัยรุ่นที่มีอายุ 12-15 ปี  นพ.อัลเบิร์ต เบอร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไฟเซอร์ กล่าวว่า ทางบริษัทจะยื่นข้อมูลใหม่ดังกล่าวให้แก่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในไม่ช้า เพื่อให้เด็กที่อยู่ในวัยดังกล่าวสามารถได้รับวัคซีนก่อนเปิดภาคการศึกษาใหม่  ทั้งนี้ ไฟเซอร์ได้ทำการทดลองวัคซีนดังกล่าวโดยใช้อาสาสมัครจำนวน 2,260 รายในสหรัฐ โดยพบว่าในกลุ่มที่ใช้วัคซีนหลอก มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 18 ราย แต่ในกลุ่มที่ได้รับวัคซีนจริง ไม่มีผู้ติดเชื้อแม้แต่รายเดียว จึงเป็นการแสดงให้เห็นว่าวัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพ 100% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19  ขณะนี้ FDA ให้การอนุมัติสำหรับการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ในเด็กที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 16 ปี
  • (-) ประธานเฟดดัลลัสหนุนแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของไบเดน  นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส กล่าวว่า เขาสนับสนุนแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงินมากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน  นายแคปแลนกล่าวว่า แผนการลงทุนดังกล่าวจะเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

โดย  : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นหลังจากไปทำต่ำสุดบริเวณ 1,677 เหรียญ โดยที่ตลาดสามารถกลับมายืนอยู่เหนือ 1,700 เหรียญได้อีกครั้ง และเช้านี้เคลื่อนไหวแถว 1,707 เหรียญโดยประมาณ ซึ่งภาพรวมตลาดได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของค่าเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์จากแถว 93.44 จุด กลับลงมาที่ระดับ 93.20 จุดในเช้าวันนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ทรงตัวที่ 1.74% ท่ามกลางมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯชุดใหม่ในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ดูจะห่างไกลความเป็นจริงอยู่ สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อันได้แก่ ADP Non-Farm Payrolls ออกมาดีขึ้นกว่าเดิม โดยมีการจ้างงานสูงขึ้นถึง 517,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่ 176,000 ตำแหน่ง สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ ได้แก่ Unemployment Claims และ ISM Manufacturing PMI ที่คาดว่าจะออกมาดีขึ้น

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำมี Technical Rebound อีกครั้ง และสามารถกลับมายืนได้เหนือ 1,700 เหรียญ ท่ามกลางสภาวะความผันผวนค่อนข้างมาก และในระยะสั้นคาดว่าราคาทอง่คำจะมีกรอบแนวรับ 1,700 เหรียญ และแนวต้าน1,725 เหรียญ ขณะที่ Gold Online Futures และ Gold Comex จะมีกรอบระหว่าง 1,700 – 1,725 เหรียญเช่นกัน ในส่วนของทองคำไทยได้รับอานิสงส์จากบาทอ่อนค่า จึงคาดอาจเห็นราคาเปิดปรับขึ้น 300 บาท/บาททองคำได

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แนะนำกลยุทธ์ Sideway Up เน้นเล่นสั้นตามการแกว่งตัวของราคา หากต่ำกว่า 1,700 เหรียญควรทำ Stop Loss 

– นักลงทุนที่ถือ Long Position 

ลงซื้อขึ้นขาย เก็งกำไรระยะสั้นๆตามการแกว่งตัวของราคา

– นักลงทุนที่ถือ Short Position

หากไม่ผ่าน 1,730 เหรียญ แนะรอ Follow Short ระยะสั้นเพื่อเก็บทำกำไรในจังหวะราคาอ่อนตัว ควร “บริหารพอร์ต” ให้สมดุลกับการแกว่งระยะสั้นๆ

Gold Futures 10J21 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,200 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,500  บาท

ที่มา : gold.in.th (1 เม.ย. 64)

- Advertisement -

Leave a Reply