สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 เม.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงมุมมองบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 12.1 ดอลลาร์ หรือ 0.69% ปิดที่ 1,732.7 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 45.8 เซนต์ หรือ 1.81% ปิดที่ 24.867 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 34.5 ดอลลาร์ หรือ 2.85% ปิดที่ 1,174.8 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 35.90 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 2,671.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1.68% เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) ในการถือครองทองคำ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจะดึงดูดให้นักลงทุนหันเข้าซื้อพันธบัตร แต่จะเทขายทอง ในการปรับพอร์ตการลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์ปลอดภัย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ “60 Minutes” ของสถานีโทรทัศน์ CBS เมื่อวันอาทิตย์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงานมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และการที่รัฐบาลสหรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนนั้น จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวเร็วขึ้น
อย่างไรก็ดี นายพาวเวลเตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจเผชิญกับความเสี่ยงหากมีการเปิดเศรษฐกิจรวดเร็วเกินไป
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค.ของสหรัฐในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย โดยดัชนี CPI ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ และเป็นปัจจัยที่มีผลต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ