สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (14 เม.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ขณะที่ตลาดแทบไม่ได้รับผลกระทบจากความเห็นล่าสุดของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เกี่ยวกับนโยบายการเงินและแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 11.3 ดอลลาร์ หรือ 0.65% ปิดที่ 1,736.3 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 9.8 เซนต์ หรือ 0.39% ปิดที่ 25.524 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 20.3 ดอลลาร์ หรือ 1.75% ปิดที่ 1,177.4 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 17.50 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 2,679.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ทั้งนี้ สัญญาทองคำปรับตัวลง หลังเฟดเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวปานกลาง
นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นทำนิวไฮของราคาบิตคอยน์กดดันสัญญาทองคำด้วย โดยนักวิเคราะห์ระบุว่าบิตคอยน์เป็นคู่แข่งกับทองคำ โดยราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นขานรับหุ้น IPO ของบริษัทคอยน์เบส โกลบอลเข้าเทรดเป็นวันแรกในตลาด Nasdaq
การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นักวิเคราะห์ระบุว่า การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะดึงดูดให้นักลงทุนหันเข้าซื้อพันธบัตร ขณะที่เทขายทองในการปรับพอร์ตการลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์ปลอดภัย
สัญญาทองคำแทบไม่ได้รับผลกระทบจากการที่นายพาวเวลกล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งวอชิงตันเมื่อคืนนี้ว่า เฟดจะลดการซื้อสินทรัพย์ลงอย่างมากก่อนที่จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเฟดไม่ได้กำหนดวันเวลาที่จะทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินแต่อย่างใด