ราคาทองวันนี้ ข่าวทองคำ

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 3 ส.ค.64 by HGF, MTS, Gcap, YLG, GT

709

- Advertisement -

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

กองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำ 1.75 ตัน

คืนนี้สหรัฐจะประกาศยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิ.ย.

ราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,800-1,820 ดอลลาร์

  • ราคาทองคำ Spot เมื่อวานในช่วงกลางวันปรับลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 จากแรงเทขายทำกำไรและตลาดหุ้นที่ปรับขึ้น อย่างไรก็ดีเริ่มมีแรงซื้อทองคำกลับเข้ามาในช่วงกลางคืนเนื่องจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีลดลงสู่ระดับ 1.18% เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเนื่องจากดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนก.ค.ลดลงสู่ระดับ 59.5 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 60.8 ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำ 1.75 ตันเมื่อวาน หลังจากซื้อทองคำ 4.08 ตันในสัปดาห์ผ่านมา
  • คืนนี้สหรัฐจะประกาศยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิ.ย.ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 1.0% หลังจากที่เดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 1.7% สำหรับคืนพรุ่งนี้ติดตามการจ้างงานภาคเอกชน ADP ของสหรัฐเดือนก.ค.
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,800-1,820 ดอลลาร์ ทั้งนี้ทองคำมีแนวรับ 1,800 ดอลลาร์ และแนวรับสำคัญ 1,790 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,820 ดอลลาร์และแนวต้านสำคัญ 1,833 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

- Advertisement -

Closechg.SupportResistance
1,811.70-2.451,800/1,7901,820/1,833

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,250-15028,050/27,90028,450/28,550

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,440+9028,230/28,10028,540/28,660

การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำที่ราคาทองคำ Spot1,800ดอลลาร์ (GF28,230 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,790ดอลลาร์ (GF 28,100 บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,817.50-13.301,803/1,7931,823/1,836

การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำที่ราคาGOU211,803ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,793ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดทรงตัวโดยเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆเนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐสหรัฐประกาศดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนก.ค.ลดลงสู่ระดับ 59.5 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 60.8ขณะที่เงินบาทมีปัจจัยกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ในประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในระดับที่สูง สำหรับ USD Futures เดือนก.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 32.85 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 33บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนหลังบอนด์ยีลด์ร่วง-ภาคการผลิตสหรัฐชะลอตัว

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐรวมทั้งดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่ปรับตัวลงในเดือนก.ค. ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.14% แตะที่ 92.0441 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดบวก 5 ดอลลาร์ขานรับดอลล์อ่อน-บอนด์ยีลด์ร่วง

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ส.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5 ดอลลาร์หรือ 0.28% ปิดที่ 1,822.2 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2.8 เซนต์หรือ 0.11% ปิดที่ 25.575 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดร่วง $2.69  วิตกภาคการผลิตสหรัฐ-จีนชะลอตัว

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3% เมื่อคืนนี้ (2 ส.ค.) หลังจากสหรัฐและจีนเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแรงลงในเดือนก.ค. นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือนสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 2.69 ดอลลาร์หรือ 3.6% ปิดที่ 71.26 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 2.52 ดอลลาร์หรือ 3.3% ปิดที่ 72.89 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดลบ 97.31 จุดกังวลไวรัสเดลตา-ศก.สหรัฐชะลอตัว

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาและการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งความกังวลดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากข่าวความคืบหน้าในการผลักดันร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,838.16 จุดลดลง 97.31 จุดหรือ -0.28% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,387.16 จุดลดลง 8.10 จุดหรือ -0.18% ดัชนีNasdaqปิดที่ 14,681.07 จุดเพิ่มขึ้น 8.39 จุดหรือ + 0.06%

โดย  : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แต่ก็สามารถปิดตลาดโลกได้บริเวณ 1,816 เหรียญ และเช้านี้ออกมาทรงตัวบริเวณ 1,813 เหรียญ จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่า ขณะที่ทองคำวานนี้บางช่วงดีดกลับไปทดสอบ 1,820 เหรียญ ในส่วนของดัชนีดอลลาร์ ยังทรงตัวแถว 92 จุด ขณะที่เงินบาททรงตัวบริเวณ 32.93 บาท/ดอลลาร์ ยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่า สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในคืนนี้ ได้แก่ Factory Orders คาดการณ์ว่าจะออกมาแย่ลง ภาพรวมคาดตลาดรอข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในคืนวันศุกร์นี้ ได้แก่ Non-Farm Payrolls ขณะที่กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้เทขายทองคำออก 1.75 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,029.71 ตัน

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำยังแกว่งตัวในกรอบ Sideway Down โดยราคาเริ่มหลุดเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลางลงมาแล้ว และยังเคลื่อนไหวแถว 1,810 เหรียญ คาดจะมีแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,805 เหรียญ และมีแนวต้านที่ระดับ 1,820 เหรียญ ในส่วนของ  Gold Online Futures คาดจะมีแนวรับ 1,807 เหรียญ และแนวต้าน 1,823 เหรียญ อย่างไรก็ดี ทองคำไทยคาดว่าจะปรับขึ้นได้ราว 50 บาท/บาททองคำ

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

ยังแนะนำเก็งกำไรในกรอบระยะสั้นเป็นลักษณะ Sideway Down

– นักลงทุนที่ถือ Long Position 

แนะนำให้บริหารพอร์ตสมดุล ไม่แนะนำให้ถือครองเวลานี้

– นักลงทุนที่ถือ Short Position

หาจังหวะเปิดขายก่อนตามการรีบาวน์ และรอซื้อปิดทำกำไรตามแนวรับ มี Stop Loss เสมอหากสูงกว่า 1,820 เหรียญ

Gold Futures 10Q21 จะมีแนวรับที่ระดับ 28,300 บาท และแนวต้านที่ระดับ 28,550  บาท

โดย : บริษัท จีแคป จำกัด

แนะแนวทางการลงทุน
แนวรับ 1,799- 1,796 – 1,791
แนวต้าน 1,823– 1,828– 1,833
ราคาทองคำปิดบวกโดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามการดีดตัวยุงอยู่ในวงจำกัด มองแครีบาวน์ระยะสั้น ๆ แนะเก็งกำไรระยะสั้น

แนวโน้มราคาทองคำช่วงเช้า
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐรวมทั้งดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่ปรับตัวลงในเดือนก.ค.

มุมมองทองคำภาคเช้า ทองคำดีดตัวขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.162% เมื่อคืนนี้ นอกจากนี้การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 59.5 ในเดือนก.ค.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 60.9 หลังจากแตะระดับ 60.6 ในเดือนมิ.ย. ขณะเดียวกันนักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ รวมทั้งจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.นี้ โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้นักลงทุนยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในรอบสัปดาห์นี้ซึ่งได้แก่ คำสั่งซื้อโรงงาน การจ้างงานนอกภาคการเกษตร ADP ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ ดัชนีจ้างงานนอกภาคการผลิตจากสถาบัน ISM ดัชนีจ้างงานนอกภาคการบริการจากสถาบัน ISM ดัชนีสินค้าส่งออก จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน ดุลการค้า รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงการทำงาน การจ้างงานนอกภาคการเกษตร อัตราการว่างงาน เป็นต้น
สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ส.ค.)โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ รวมทั้งดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่ปรับตัวลงในเดือนก.ค.

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

ลงทุนระยะสั้น ซื้อขายทำกำไรจากการแกว่งตัว หากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำเข้าซื้อ เพื่อทำกำไรระยะสั้น แล้วทยอยขายทำกำไรหากราคาไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,828-1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,803 1,790 1,776  แนวต้าน : 1,833 1,845 1,856

จจัยพื้นฐาน :

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 2.45  ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยระหว่างวันราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์  ส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,805.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ก่อนที่ราคาทองคำจะฟื้นตัวขึ้นแข็งแกร่ง  หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 59.5 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 60.9ซึ่งสะท้อนว่าภาคการผลิตของสหรัฐเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน  สถานการณ์ดังกล่าวกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีให้ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 1.147% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 20 ก.ค. จนเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ย  นั่นทำให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,819.48  ดอลลาร์ต่อออนซ์อย่างไรก็ดี  ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้  โดยได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไร  และความเห็นในเชิง Hawkish ของนายคริสโตเฟอร์วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่กล่าวกับ CNBC เมื่อคืนนี้ว่า เฟดอาจ “ประกาศ” ในเดือนก.ย.ว่าจะเริ่มต้นลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการQE ในเดือนต.ค. หากการจ้างงานของสหรัฐในช่วง2 เดือนต่อจากนี้มีการจ้างงานแต่ละครั้งเพิ่มขึ้น  800,000-1 ล้านตำแหน่ง  ถ้อยแถลงดังกล่าวหนุนให้บอนด์ยีลด์ฟื้นตัวขึ้นจนกดดันราคาทองคำให้ร่วงลงในช่วงปลายตลาด  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -1.75 ตันสำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐ

ปัจจัยทางเทคนิค :

ราคากลับมาเคลื่อนไหวในกรอบ หากราคาสามารถยืนแนวรับบริเวณ 1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้แข็งแกร่ง ยังคงมีโอกาสราคาทองคำขึ้นไปทดสอบแนวต้านในโซน  1,828-1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านได้จะขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปโซน 1,845 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านแนวต้านแรกไม่ได้ อาจเกิดแรงขายกดดันมาให้ราคาอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน :

ราคาทองคำมีจุดเสี่ยงเปิดสถานะซื้อระยะสั้นในบริเวณ 1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์  (ตัดขาดทุนหากไม่สามารถยืนเหนือ1,803ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้) แต่หากราคาปรับตัวขึ้นให้พิจารณาบริเวณ 1,828-1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดปิดสถานะซื้อทำกำไร แต่หากผ่านโซนดังกล่าวแนะนำให้ชะลอการขายออกไป

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ISM เผยดัชนีภาคการผลิตสหรัฐต่ำกว่าคาดในเดือนก.ค.  สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 59.5 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 60.9 หลังจากแตะระดับ 60.6 ในเดือนมิ.ย.
  • (+) ดอลล์อ่อน หลังบอนด์ยีลด์ร่วง-ภาคการผลิตสหรัฐชะลอตัว  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ รวมทั้งดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่ปรับตัวลงในเดือนก.ค.  ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.14% แตะที่ 92.0441 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.24 เยน จากระดับ 109.75 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9048 ฟรังก์ จากระดับ 0.9061 ฟรังก์ แต่เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2507 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2478 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1874 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1857 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3894 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3891 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7365 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7335 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (+) ดาวโจนส์ปิดลบ 97.31 จุด กังวลไวรัสเดลตา-ศก.สหรัฐชะลอตัว  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาและการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งความกังวลดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากข่าวความคืบหน้าในการผลักดันร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐ  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,838.16 จุด ลดลง 97.31 จุด หรือ -0.28% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,387.16 จุด ลดลง 8.10 จุด หรือ -0.18% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,681.07 จุด เพิ่มขึ้น 8.39 จุด หรือ + 0.06%
  • (+) สหรัฐประกาศขับนักการทูตรัสเซีย 24 คนออกจากประเทศ  นายอนาโตลี แอนโตนอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐได้แจ้งให้นักการทูตของรัสเซียจำนวน 24 คนเดินทางออกจากประเทศภายในวันที่ 3 ก.ย. หลังจากที่วีซ่าของพวกเขาหมดอายุลง  นายแอนโตนอฟไม่ได้กล่าวว่า การที่สหรัฐประกาศขับนักการทูตรัสเซียในครั้งนี้เกิดจากปัญหาความขัดแย้งใดเป็นพิเศษ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐยังไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ
  • (-) สหรัฐบรรลุเป้าฉีดวัคซีนโควิดให้ประชากร 70% แต่ช้ากว่ากำหนด 1 เดือน  ทำเนียบขาวแถลงในวันนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐสามารถบรรลุเป้าหมายในการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 อย่างน้อย 1 โดสให้แก่ชาวอเมริกันซึ่งเป็นผู้ใหญ่จำนวน 70% ของประชากรทั้งประเทศ  อย่างไรก็ดี การฉีดวัคซีนดังกล่าวล่าช้ากว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนกำหนดไว้ถึง 1 เดือน   ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนกล่าวในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาว่า เขาต้องการให้ชาวอเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่จำนวน 70% ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ภายในวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐ   ทางด้านนายแพทย์พอล ออฟฟิต สมาชิกของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) กล่าวว่า “เราจำเป็นที่จะต้องให้ชาวอเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่จำนวน 80% ได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ เนื่องจากไวรัสสายพันธุ์เดลตาเป็นสายพันธุ์ที่สามารถติดต่อได้ง่าย”  ขณะเดียวกัน ค่าเฉลี่ยล่าสุดของอัตราการฉีดวัคซีนในสหรัฐอยู่ที่ระดับ 660,000 รายต่อวัน ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับมากกว่า 3 ล้านรายต่อวันที่ทำไว้ในช่วงกลางเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
  • (-) ดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐพุ่งนิวไฮในเดือนก.ค.  ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 63.4 ในเดือนก.ค. จากระดับ 62.1 ในเดือนมิ.ย. ดัชนี PMI ดีดตัวขึ้นในเดือนก.ค.แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนพ.ค.2550 และดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะขยายตัวของภาคการผลิตของสหรัฐ

โดย  : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

Fundamental

  • โควิดเดลต้ากำลังระบาดทั่วสหรัฐฯ ด้านทำเนียบขาวยืนกรานว่าจะไม่มีการล็อกดาวน์อีก
  • โควิดเดลต้ากำลังระบาดหนักในพื้นที่บางส่วนของจีน และยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้
  • ดัชนี PMI ในสหรัฐฯและยุโรปยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ถือเป็นสัญญาณบวกต่อการฟื้นคืนของเศรษฐกิจและภาวะเงินเฟ้อในปีหน้า

Technical

  • ราคาพยายามยืนระยะบนเส้น MA เพื่อรอให้มีโอกาสปรับขึ้นไปทดสอบเส้นขาลงที่ 1,835-1,840
  • ราคากำลังแกว่งสร้างกรอบบริเวณเส้น MA ระยะสั้นยังไม่มีสัญญาณเลือกทาง
  • ทิศทางวันนี้แกว่งแคบลง
  • จับจังหวะเล่นยังไง?ซื้อสะสมเพื่อรอขายในจังหวะที่ราคาบวกขึ้นไปอีกครั้ง stop loss เมื่อหลุด 1,806

Attention

  • บาทอ่อนพยุงราคาทอง
  • เชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้ากำลังแพร่กระจายทั่วโลก และยังไม่มีวิธีหรือวัคซีนใดที่ป้องกันได้ผลชัดเจน

ที่มา : gold.in.th( 3 ส.ค. 64 )

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.