ราคาทองวันนี้ ข่าวทองคำ

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 26 ส.ค.64 by HGF, MTS, YLG, TDC, GCAP

793

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

แนะนำแบ่งทองคำออกขายหากมีการปรับตัวขึ้นมาไม่ผ่านแนวต้าน 1,802-1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาปรับตัวลงไม่หลุดแนวรับโซน 1,782-1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้ทยอยเข้าซื้อคืนเพื่อปิดสถานะขายทำกำไร

แนวรับ : 1,782 1,768 1,751  แนวต้าน : 1,810 1,833 1,849

จจัยพื้นฐาน :

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง11.68  ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากหลายปัจจัย  อาทิ  (1.) ช่วงต้นวันดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดบริเวณ 93.126ในระหว่างวัน  (2.) การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีกว่าที่คาด  ทั้งยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ ที่ลดลงเพียง0.1% ในเดือนก.ค. ซึ่งลดลงน้อยกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 0.5% ในเดือนก.ค. ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้นเกินคาดที่ระดับ0.7% ในเดือนก.ค. (3.) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.349% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเกือบ2สัปดาห์  โดยได้รับแรงหนุนส่วนหนึ่งจากปัจจัยทางเทคนิคหลังบอนด์ยีลด์ 10 ปีผ่านขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันบริเวณ 1.326% ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย (4.) กองทุน SPDR ที่ยังคงเดินหน้าลดการถือครองทองคำอีก -2.91 ตันเมื่อวานนี้  สู่ระดับ 1,001.72 ตันซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.ปี2020 ทำให้ในปี 2021 กองทุน SPDR ถือครองทองลดลงแล้ว -169.12 ตัน  สะท้อนกระแสเงินทุนที่ไหลออกจากกองทุน ETF ทองที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างต่อเนื่อง  ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,782.62 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ก่อนที่จะฟื้นตัวในช่วงปลายตลาดโดยได้รับแรงหนุนส่วนหนึ่งจากดัชนีดอลลาร์ที่ลดช่วงบวกลง  ขณะที่นักลงทุนเริ่มปรับสถานะและชะลอการซื้อขายก่อนที่นายพาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะกล่าวสุนทรพจน์ในวันศุกร์นี้  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยประมาณการครั้งที่ 2 จีดีพีช่วงไตรมาส 2/2021 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ของสหรัฐ

- Advertisement -

ปัจจัยทางเทคนิค :

หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,802-1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ส่งผลให้การฟื้นตัวขึ้นของราคายังคงจำกัด อาจทำให้เกิดการอ่อนตัวลงของราคาอีกครั้ง ประเมินแนวรับ 1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับต่ำสุดของวันก่อนหน้า) แต่หากไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวรับดังกล่าวได้ก็จะเห็นการอ่อนตัวลงต่อทดสอบแนวรับถัดไปโซน 1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

ดูบริเวณ 1,802-1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่ผ่านเปิดสถานะขายเก็งกำไรระยะสั้น (ลดพอร์ตการลงทุนหากราคาผ่าน 1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์)  แล้วเข้าซื้อคืนทำกำไรเมื่อราคาอ่อนตัวลงบริเวณแนวรับโซน 1,782-1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดปิดสถานะขายทำกำไร หากยืนไม่ได้ถือสถานะขายต่อ

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ดอลล์อ่อนเทียบยูโร ก่อนประชุมแจ็กสันโฮลเปิดฉากวันนี้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและปอนด์เทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนการที่ประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง จะเปิดฉากขึ้นในวันนี้  ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.07% แตะที่ 92.8255 เมื่อคืนนี้  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1771 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1754 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3761 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3730 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7279 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7256 ดอลลาร์สหรัฐดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.97 เยน จากระดับ 109.68 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์ ที่ระดับ 0.9135 ฟรังก์ จากระดับ 0.9126 ฟรังก์
  • (+) “สี จิ้นผิง” ต่อสายตรง “ปูติน” พร้อมกระชับความร่วมมือกรณีอัฟกานิสถานประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในวันนี้ โดยระบุว่า จีนพร้อมที่จะกระชับความร่วมมือกับรัสเซียและประชาคมโลกในกรณีอัฟกานิสถาน  ทั้งนี้ ปธน.สี จิ้นผิง เรียกร้องให้มีการสนับสนุนให้ฝ่ายต่างๆในอัฟกานิสถานร่วมกันสร้างระบบการเมืองที่เปิดกว้างสำหรับทุกฝ่าย ผ่านทางการเจรจาหารือ, การดำเนินนโยบายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศแบบสายกลางและมีความเหมาะสม โดยแยกตัวจากกลุ่มก่อการร้าย ขณะที่รักษาความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับนานาประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน  นอกจากนี้ ปธน.สี จิ้นผิงยังเรียกร้องให้ปธน.ปูตินเพิ่มความร่วมมือกับจีนในการต่อต้านการแทรกแซงจากภายนอก ในฐานะที่ทั้งสองประเทศเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์สำหรับยุคใหม่ และควรเป็นผู้ที่กำหนดอนาคตของประเทศด้วยมือตัวเอง 
  • (-) สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลง 0.1% ในเดือนก.ค.กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 0.1% ในเดือนก.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนมิ.ย.  นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลง 0.5% ในเดือนก.ค.ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนก.ค.ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงาน และการพุ่งขึ้นของราคาวัตถุดิบ  ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ ทรงตัวในเดือนก.ค. หรือเพิ่มขึ้น 0% หลังจากดีดตัวขึ้น 1.0% ในเดือนมิ.ย.
  • (-) สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสินเชื่อจำนองเพิ่มขึ้นสัปดาห์ที่แล้ว ขานรับดอกเบี้ยลดลงสมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองเพิ่มขึ้น 1.6% ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวลงของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง  จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์เพิ่มขึ้น 1% ในสัปดาห์ที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  • (-) J&J เผยผลทดลองชี้วัคซีนเข็ม 2สามารถกระตุ้นภูมิในร่างกายบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลการทดลองพบว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่ 2 ของ J&J สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย  ก่อนหน้านี้ J&J ระบุว่า วัคซีนของบริษัทสามารถป้องกันไวรัสโควิด-19 ในการฉีดเพียงโดสเดียว ซึ่งต่างจากวัคซีนของบริษัทอื่นที่ต้องฉีด 2 โดส  J&J เปิดเผยว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่ 2 สามารถเพิ่มระดับแอนติบอดีได้ถึง 9 เท่า เมื่อเทียบกับระยะเวลา 1 เดือนหลังจากฉีดเข็มแรก
  • (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 39.24 จุด รับแรงซื้อหุ้นแบงก์-จับตาประชุมแจ็กสันโฮลดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่4 เมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ยังคงปิดทำนิวไฮ โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มผู้ผลิตชิป ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด
  • (+/-) ทั่วโลกจับตาถ้อยแถลง “พาวเวล” ศุกร์นี้ 21.00 น. ส่งสัญญาณเฟดหั่น QE  ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.นี้ โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมดังกล่าว  สำหรับหัวข้อในการประชุมประจำปีนี้คือ “Monetary Policy Framework Review” และจะเป็นการเสวนาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นปีที่ 2 เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  ในการประชุมแจ็กสัน โฮลปีนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะกล่าวสุนทรพจน์ในประเด็น “แนวโน้มเศรษฐกิจ” โดยเขามีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงในวันที่ 27 ส.ค.เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

กองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำต่อเนื่องเป็นวันที่ 4

คืนนี้สหรัฐจะประกาศจีดีพีไตรมาส 2

ทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,770-1,800ดอลลาร์

  • ราคาทองคำ Spot เมื่อวานปรับลดลง เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับขึ้นติดต่อกันหลายวัน หลังจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคอย่างเต็มรูปแบบนอกจากนี้สหรัฐประกาศยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.ลดลง 0.1% ดีกว่าตลาดคาดจะลดลง 0.2% ซึ่งนักลงทุนรอดูการประชุมเฟดประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮลทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำต่อเนื่องเป็นวันที่ 4โดยเมื่อวานขายทองคำ 2.91ตัน
  • การประชุมเฟดประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮลเริ่มขึ้นในวันนี้ ซึ่งในวันศุกร์ที่ 27 ส.ค. ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะมีกำหนดการแถลงแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด ส่วนคืนนี้สหรัฐจะประกาศจีดีพีไตรมาส 2 ซึ่งเป็นประมาณการครั้งที่ 2 ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 6.7% สูงกว่าประมาณการครั้งก่อนที่เพิ่มขึ้น 6.5% จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ตลาดคาดจะลดลงอยู่ที่ระดับ 345,000 รายจากที่สัปดาห์ก่อนหน้านี้อยู่ที่ระดับ 348,000  ราย
  • แนวโน้มราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ1,770-1,800ดอลลาร์หลังจากปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,810 ดอลลาร์ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันแต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ ซึ่งถ้าผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวโน้มสดใสและจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,820 ดอลลาร์และแนวต้านสำคัญ1,833 ดอลลาร์ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,780 ดอลลาร์และ 1,770 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,789.92-11.681,780/1,7701,800/1,810

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
27,850-30027,600/27,50027,850/28,000

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
27,930+6027,750/27,62027,970/28,120

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำขายทำกำไรที่ราคาทอง Spot1,800 ดอลลาร์ (GF27,970บาท) และ 1,810 ดอลลาร์ (GF28,120บาท)

การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำที่ราคาทองคำ Spot1,780ดอลลาร์ (GF27,750บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,770 ดอลลาร์(GF27,620บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,791.40-3.801,782/1,7721,802/1,812

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำขายทำกำไรที่ราคาGOU211,802ดอลลาร์และ 1,812ดอลลาร์การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำที่ราคา GOU211,782ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,772 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ในประเทศดีขึ้นและมีเม็ดเงินจากต่างประเทศไหลเข้ามาในตลาดหุ้นทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยนักลงทุนรอดูการประชุมเฟดประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮลสำหรับ USD Futures เดือนก.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 32.70บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน32.85บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนเทียบยูโรก่อนประชุมแจ็กสันโฮลเปิดฉากวันนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและปอนด์เทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนการที่ประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสันโฮลรัฐไวโอมิ่งจะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.07% แตะที่ 92.8255 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดลบ $17.5 นลท.ขายสินทรัพย์ปลอดภัยหลังตลาดหุ้นพุ่ง

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (25 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวันขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสันโฮลรัฐไวโอมิงในวันที่ 26-28 ส.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของเฟดทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 17.5 ดอลลาร์หรือ 0.97% ปิดที่ 1,791 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 11.9 เซนต์หรือ 0.5% ปิดที่ 23.775 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดบวก 82 เซนต์ขานรับสต็อกน้ำมันดิบลดลงต่อเนื่อง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (25 ส.ค.) ขานรับตัวเลขชสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 82 เซนต์หรือ 1.2% ปิดที่ 68.36 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.2564    สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์หรือ 1.7% ปิดที่ 72.25 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.2564

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดบวก 39.24 จุดรับแรงซื้อหุ้นแบงก์-จับตาประชุมแจ็กสันโฮล

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนที่ผ่านมา (25 ส.ค.) ขณะที่ดัชนีS&P500 และNasdaqยังคงปิดทำนิวไฮโดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มผู้ผลิตชิปขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันนี้เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟดดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,405.50 จุดเพิ่มขึ้น 39.24 จุดหรือ +0.11% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,496.19 จุดเพิ่มขึ้น 9.96 จุดหรือ +0.22% ดัชนีNasdaqปิดที่ 15,041.86 จุดเพิ่มขึ้น 22.06 จุดหรือ +0.15%

ผู้เชี่ยวชาญชี้ชาวมะกัน85-90%ต้องฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่สกัดโควิด

ดร.ปีเตอร์โฮเตซผู้อำนวยการร่วมของศูนย์พัฒนาวัคซีนที่โรงพยาบาลเด็กเท็กซัสได้กล่าวเตือนว่าหากต้องการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19สายพันธุ์เดลตาชาวอเมริกันจำนวนมากจะต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่นายโฮเตซระบุว่า  “จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าวเราต้องฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้ได้85%หรืออาจจะ90%ของประเทศตามที่นายแพทย์แอนโทนีเฟาชีกล่าว”  พร้อมย้ำว่าตัวเลข85%-90%ไม่ได้หมายถึงแค่การฉีดวัคซีนให้กับประชากรผู้ใหญ่เท่านั้นแต่หมายรวมถึงคนทั้งประเทศนายแพทย์เฟาชีซึ่งเป็นหัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ประจำทำเนียบขาวคาดการณ์ว่าสหรัฐจะสามารถควบคุมโควิดได้ภายในฤดูใบไม้ผลิปี2565หากผู้คนจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับวัคซีนมีโอกาสได้ฉีดวัคซีนโดยยอดผู้เสียชีวิตจากโควิดในสหรัฐขณะนี้ดีดตัวสูงขึ้นเท่ากับในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาหรือที่ระดับมากกว่า1,000รายต่อวันเจ้าหน้าที่ของสหรัฐยืนยันว่าการฉีดวัคซีนเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการต่อสู้กับจำนวนยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นโดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (22ส.ค.) มีประชากรราว51%ของสหรัฐได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครบโดสแล้ว

“ไบเดน” ยืนยันถอนทหารจากอัฟกานิสถาน31ส.ค. หวั่นภัยคุกคามในสนามบิน

ประธานาธิบดีโจไบเดนของสหรัฐกล่าวต่อผู้นำกลุ่มG7ในระหว่างการประชุมทางออนไลน์ว่าเขาจะดำเนินการถอนทหารสหรัฐทั้งหมดออกจากอัฟกานิสถานภายใน31ส.ค. ตามกำหนดเดิมโดยสหรัฐกำลังเตรียมแผนสำรองฉุกเฉินหากจำเป็นต้องขยายเวลาดังกล่าวปธน.ไบเดนแถลงต่อสื่อมวลชนณทำเนียบขาวว่า “ขณะนี้เรากำลังเร่งดำเนินการอพยพให้แล้วเสร็จภายในวันที่31ส.ค.” ซึ่งเป็นการแถลงข่าวครั้งที่3นับตั้งแต่กลุ่มตาลีบันเข้ายึดครองอัฟกานิสถานปธน.ไบเดนเสริมว่า “นอกจากนี้ผมได้ขอให้กระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศเตรียมแผนฉุกเฉินเพื่อขยายระยะเวลาหากจำเป็นเช่นกัน”  รายงานระบุว่าปธน.ไบเดนเผชิญแรงกดดันทางการเมืองจากชาติพันธมิตรในยุโรปเช่นอังกฤษรวมถึงสมาชิกพรรคเดโมแครตให้ขยายเส้นตายการถอนทหารออกจากพื้นที่ดังกล่าวอย่างไรก็ตามปธน.ไบเดนระบุว่าเขาเชื่อมั่นว่ายิ่งสหรัฐสามารถดำเนินการอพยพให้เสร็จสิ้นได้เร็วเท่าไรก็ยิ่งเป็นผลดีเท่านั้นปธน.ไบเดนเตือนว่าการอยู่ในอัฟกานิสถานนานขึ้นอาจสร้างความเสี่ยงร้ายแรงต่อกองกำลังพันธมิตรและประชาชนโดยกลุ่มISIS-K ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธย่อยในอัฟกานิสถานอาจสร้างภัยคุกคามต่อสนามบินนานาชาติฮามิดคาร์ไซ

คะแนนนิยมไบเดนร่วงต่ำสุดเหตุยอดโควิดพุ่ง-ความล้มเหลวในอัฟกานิสถาน

สำนักข่าวเอ็นบีซีเปิดเผยว่าคะแนนนิยมของประธานาธิบดีโจไบเดนร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐมาเป็นเวลา7เดือนหลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19ในสหรัฐพุ่งขึ้นและเกิดความวุ่นวายจากการสั่งถอนทหารสหรัฐออกจากอัฟกานิสถานผลสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นระหว่างวันที่14-17ส.ค. และเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาซึ่งผู้ตอบแบบสำรวจ49%พอใจกับประสิทธิภาพการทำงานของปธน.ไบเดนซึ่งเป็นครั้งแรกที่ลดต่ำกว่า50%ขณะที่ผู้ตอบแบบสำรวจ48%ไม่พอใจกับการทำงานของไบเดนสำหรับคะแนนนิยมเรื่องการรับมือกับโรคโควิด-19นั้นผลสำรวจของเอ็นบีซีในช่วงกลางเดือนส.ค.ระบุว่าชาวอเมริกัน53%พอใจกับผลงานของไบเดนซึ่งลดลง16จุดจากผลสำรวจในเดือนเม.ย.     อย่างไรก็ตามมีผู้ตอบแบบสำรวจในเดือนนี้เพียง25%ที่ระบุว่าพอใจกับการจัดการของปธน.ไบเดนเรื่องการถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานซึ่งทำให้กลุ่มตาลีบันเข้ายึดครองอัฟกานิสถานได้อย่างรวดเร็วนอกจากนี้คะแนนนิยมในเรื่องการจัดการกับภาวะเศรษฐกิจของปธน.ไบเดนก็ลดลงเช่นกันโดยลดลงสู่ระดับ47%จากเดิมที่52%ในเดือนเม.ย.

โดย  : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวลดลงท่ามกลางความผันผวนที่กลับเข้ามาของค่าเงินดอลลาร์ อันจะเห็นได้จากค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 92.80 – 93.18 ขณะที่มีแรงเทขายทำกำไรในทองคำจนราคาหลุด 1,800 เหรียญลงมาอีกครั้งหนึ่ง จึงส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนอย่างมากในเรื่องของราคา และ SPDR ยังเป็นผู้ขายต่อเนื่องอีก 2.91 ตัน ปัจจุบันลดการถือครองลงมาสู่ระดับ 1,001.72 ตัน ในส่วนของตัวเลขเศรษฐกิจ ได้แก่ Durable Goods Orders ปรับตัวลดลงบ้างเล็กน้อยหรือไม่ดีนัก แต่ Core Durable Goods Orders ออกมาดีขึ้นจากเดิมเล็กน้อย ในส่วนของค่าเงินบาทแข็งค่าต่อหลุดระดับ 32.80 บาท/ดอลลาร์ และเช้านี้ทรงตัวแถว 32.78 บาท/ดอลลาร์ จากการส่งออกที่มากขึ้นของไทย สำหรับคืนนี้ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Prelim GDP คาดจะออกมาดีขึ้น และ Unemployment Claims คาดจะยังเห็นคนขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงต่อ

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำเคลื่อนไหวในทิศทาง Sideways และมีการแกว่งตัวอย่างมาก กลับมาหลุด 1,800 เหรียญอีกครั้ง คาดวันนี้จะแกว่งตัวในกรอบ 1,785 เหรียญ ซึ่งถือเป็นแนวรับระยะสั้นๆ และแนวรับสำคัญ 1,780 เหรียญ ขณะที่แนวต้านวันนี้อยู่ที่ระดับ 1,805 เหรียญ ในส่วนของ Gold Online Futures และ Comex Gold คาดจะมีแนวรับ 1,781 เหรียญ และแนวต้าน 1,806 เหรียญ อย่างไรก็ดี ทองคำไทยคาดว่าจะปรับตัวลดลง 50 บาท/บาททองค

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

ทำกำไร Sideways ระยะสั้นๆในกรอบ ลงซื้อขึ้นขาย แนะบริหารพอร์ตสมดุลรอความชัดเจนของประธานเฟดในการประชุม Jackson Hole คืนพรุ่งนี้

– นักลงทุนที่ถือ Long Position 

ลงซื้อขึ้นขายทำกำไรระยะสั้นในกรอบ เน้นลดสถานะเพื่อปรับพอร์ตรอประชุม Jackson Hole

– นักลงทุนที่ถือ Short Position

หาจังหวะซื้อปิดทำกำไรเพื่อลดสถานะ ควรบริหารพอร์ตรอความชัดเจนของประธานเฟดในการประชุมคืนพรุ่งนี้

Gold Futures 10Q21 จะมีแนวรับที่ระดับ 27,800 บาท และแนวต้านที่ระดับ 28,100  บาท

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

แนะนำแบ่งทองคำออกขายหากมีการปรับตัวขึ้นมาไม่ผ่านแนวต้าน 1,802-1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาปรับตัวลงไม่หลุดแนวรับโซน 1,782-1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้ทยอยเข้าซื้อคืนเพื่อปิดสถานะขายทำกำไร

แนวรับ : 1,782 1,768 1,751  แนวต้าน : 1,810 1,833 1,849

จจัยพื้นฐาน :

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง11.68  ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากหลายปัจจัย  อาทิ  (1.) ช่วงต้นวันดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดบริเวณ 93.126ในระหว่างวัน  (2.) การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีกว่าที่คาด  ทั้งยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ ที่ลดลงเพียง0.1% ในเดือนก.ค. ซึ่งลดลงน้อยกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 0.5% ในเดือนก.ค. ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้นเกินคาดที่ระดับ0.7% ในเดือนก.ค. (3.) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.349% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเกือบ2สัปดาห์  โดยได้รับแรงหนุนส่วนหนึ่งจากปัจจัยทางเทคนิคหลังบอนด์ยีลด์ 10 ปีผ่านขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันบริเวณ 1.326% ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย (4.) กองทุน SPDR ที่ยังคงเดินหน้าลดการถือครองทองคำอีก -2.91 ตันเมื่อวานนี้  สู่ระดับ 1,001.72 ตันซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.ปี2020 ทำให้ในปี 2021 กองทุน SPDR ถือครองทองลดลงแล้ว -169.12 ตัน  สะท้อนกระแสเงินทุนที่ไหลออกจากกองทุน ETF ทองที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างต่อเนื่อง  ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,782.62 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ก่อนที่จะฟื้นตัวในช่วงปลายตลาดโดยได้รับแรงหนุนส่วนหนึ่งจากดัชนีดอลลาร์ที่ลดช่วงบวกลง  ขณะที่นักลงทุนเริ่มปรับสถานะและชะลอการซื้อขายก่อนที่นายพาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะกล่าวสุนทรพจน์ในวันศุกร์นี้  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยประมาณการครั้งที่ 2 จีดีพีช่วงไตรมาส 2/2021 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ของสหรัฐ

ปัจจัยทางเทคนิค :

หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,802-1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ส่งผลให้การฟื้นตัวขึ้นของราคายังคงจำกัด อาจทำให้เกิดการอ่อนตัวลงของราคาอีกครั้ง ประเมินแนวรับ 1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับต่ำสุดของวันก่อนหน้า) แต่หากไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวรับดังกล่าวได้ก็จะเห็นการอ่อนตัวลงต่อทดสอบแนวรับถัดไปโซน 1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

ดูบริเวณ 1,802-1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่ผ่านเปิดสถานะขายเก็งกำไรระยะสั้น (ลดพอร์ตการลงทุนหากราคาผ่าน 1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์)  แล้วเข้าซื้อคืนทำกำไรเมื่อราคาอ่อนตัวลงบริเวณแนวรับโซน 1,782-1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดปิดสถานะขายทำกำไร หากยืนไม่ได้ถือสถานะขายต่อ

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ดอลล์อ่อนเทียบยูโร ก่อนประชุมแจ็กสันโฮลเปิดฉากวันนี้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและปอนด์เทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนการที่ประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง จะเปิดฉากขึ้นในวันนี้  ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.07% แตะที่ 92.8255 เมื่อคืนนี้  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1771 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1754 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3761 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3730 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7279 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7256 ดอลลาร์สหรัฐดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.97 เยน จากระดับ 109.68 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์ ที่ระดับ 0.9135 ฟรังก์ จากระดับ 0.9126 ฟรังก์
  • (+) “สี จิ้นผิง” ต่อสายตรง “ปูติน” พร้อมกระชับความร่วมมือกรณีอัฟกานิสถานประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในวันนี้ โดยระบุว่า จีนพร้อมที่จะกระชับความร่วมมือกับรัสเซียและประชาคมโลกในกรณีอัฟกานิสถาน  ทั้งนี้ ปธน.สี จิ้นผิง เรียกร้องให้มีการสนับสนุนให้ฝ่ายต่างๆในอัฟกานิสถานร่วมกันสร้างระบบการเมืองที่เปิดกว้างสำหรับทุกฝ่าย ผ่านทางการเจรจาหารือ, การดำเนินนโยบายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศแบบสายกลางและมีความเหมาะสม โดยแยกตัวจากกลุ่มก่อการร้าย ขณะที่รักษาความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับนานาประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน  นอกจากนี้ ปธน.สี จิ้นผิงยังเรียกร้องให้ปธน.ปูตินเพิ่มความร่วมมือกับจีนในการต่อต้านการแทรกแซงจากภายนอก ในฐานะที่ทั้งสองประเทศเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์สำหรับยุคใหม่ และควรเป็นผู้ที่กำหนดอนาคตของประเทศด้วยมือตัวเอง 
  • (-) สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลง 0.1% ในเดือนก.ค.กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 0.1% ในเดือนก.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนมิ.ย.  นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลง 0.5% ในเดือนก.ค.ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนก.ค.ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงาน และการพุ่งขึ้นของราคาวัตถุดิบ  ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ ทรงตัวในเดือนก.ค. หรือเพิ่มขึ้น 0% หลังจากดีดตัวขึ้น 1.0% ในเดือนมิ.ย.
  • (-) สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสินเชื่อจำนองเพิ่มขึ้นสัปดาห์ที่แล้ว ขานรับดอกเบี้ยลดลงสมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองเพิ่มขึ้น 1.6% ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวลงของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง  จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์เพิ่มขึ้น 1% ในสัปดาห์ที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  • (-) J&J เผยผลทดลองชี้วัคซีนเข็ม 2สามารถกระตุ้นภูมิในร่างกายบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลการทดลองพบว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่ 2 ของ J&J สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย  ก่อนหน้านี้ J&J ระบุว่า วัคซีนของบริษัทสามารถป้องกันไวรัสโควิด-19 ในการฉีดเพียงโดสเดียว ซึ่งต่างจากวัคซีนของบริษัทอื่นที่ต้องฉีด 2 โดส  J&J เปิดเผยว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่ 2 สามารถเพิ่มระดับแอนติบอดีได้ถึง 9 เท่า เมื่อเทียบกับระยะเวลา 1 เดือนหลังจากฉีดเข็มแรก
  • (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 39.24 จุด รับแรงซื้อหุ้นแบงก์-จับตาประชุมแจ็กสันโฮลดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่4 เมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ยังคงปิดทำนิวไฮ โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มผู้ผลิตชิป ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด
  • (+/-) ทั่วโลกจับตาถ้อยแถลง “พาวเวล” ศุกร์นี้ 21.00 น. ส่งสัญญาณเฟดหั่น QE  ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.นี้ โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมดังกล่าว  สำหรับหัวข้อในการประชุมประจำปีนี้คือ “Monetary Policy Framework Review” และจะเป็นการเสวนาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นปีที่ 2 เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  ในการประชุมแจ็กสัน โฮลปีนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะกล่าวสุนทรพจน์ในประเด็น “แนวโน้มเศรษฐกิจ” โดยเขามีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงในวันที่ 27 ส.ค.เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย

โดย : บริษัท ที.ดี.ซี. โกลด์ จำกัด

ทองคำปิดลบเกิน $10 เป็นวันแรกในรอบ 10 วันทำการ แสดงให้เห็นถึงแรงขายระยะสั้นที่เริ่มเข้ามาบ้าง ปัจจัยหลักมาจาก Bond yield ที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งอายุ 10 ปีแตะระดับ 1.35% ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัว คาดว่านักลงทุนกำลัง

ติดตามการประชุม Jackson Holes ถึงทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต แต่คาดว่าในการประชุมรอบนี้จะยังไม่ส่งสัญญาณ แต่จะไปส่งสัญญาณในการประชุมเดือนก.ย. แทน ค่าเงินบาทแข็งค่ามากสุดในรอบ 1 เดือน ประเมิน 32.50

โดย : บริษัท จีแคป จำกัด

แนะแนวทางการลงทุน
แนวรับ 1,776 – 1,771 – 1,767
แนวต้าน 1,795 – 1,800 – 1,805
ราคาทองคำปิดลบเมื่อคืนนี้เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวัน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟด เนื่องจากแรงซื้อยังมีค่อนข้างน้อย การดีดตัวอาจทำได้ในวงจำกัด หากราคาดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านอาจพิจารณาเก็งกำไรขาลง

แนวโน้มราคาทองคำช่วงเช้า
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและปอนด์เทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนการที่ประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง
จะเปิดฉากขึ้นในวันนี้หัวข้อการประชุมปีนี้คือ “Monetary Policy Framework Review” และจะเป็นการเสวนาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นปีที่ 2 เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และในการประชุมปีนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะกล่าวสุนทรพจน์ในประเด็น “แนวโน้มเศรษฐกิจ” ในวันที่ 27 ส.ค.เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย

มุมมองทองคำภาคเช้า ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวัน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของเฟด ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2564 (ประมาณการครั้งที่ 2),รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนก.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ค.
และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เป็นต้น

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและปอนด์เทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนการที่ประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง
จะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในวันที่ 26-28 ส.ค.นี้ โดยหัวข้อการประชุมปีนี้คือ
“Monetary Policy Framework Review” และจะเป็นการเสวนาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นปีที่ 2 เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในการประชุมแจ็กสัน โฮลปีนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะกล่าวสุนทรพจน์ในประเด็น “แนวโน้มเศรษฐกิจ” ในวันที่ 27 ส.ค.เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย

ที่มา : gold.in.th ( 26 ส.ค. 64 )

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.