ราคาทองวันนี้ ข่าวทองคำ

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 15 ก.ย.64 by GT, SCT, HGF, CAF, MTS, TDC, YLG

794

- Advertisement -

โดย : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

Fundamental

  • สหรัฐฯประกาศดัชนี CPI เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ต่ำกว่าคาดและต่ำกว่าเดือนก่อนหน้า เป็นสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อและการขยายตัวทางเศรษฐกิจอาจไม่ดีเท่าที่คาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้ และยังทำให้เกิดข้อสงสัยที่ว่า Fed จะสามารถตัดสินใจเริ่มต้นการปรับลดวงเงิน QE ลงในปีนี้ได้จริงหรือไม่
  • ราคาทองคำพุ่งขึ้นทันทีที่โอกาสปรับลด QE ลดต่ำลง
  • ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นหลังได้รับรายงานจาก API ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯในสัปดาห์ก่อนลดลงมากถึง5.4

Technical

  • ราคาทะยานขึ้นเหนือเส้น MAและยืนระยะเหนือระดับ 1,800 ได้สำเร็จ จึงมีแนวโน้มเป็นบวก
  • ภาพรวมยังดูเป็นการแกว่ง sideway ในช่วงกรอบจำกัดเดิม แต่การทะลุขึ้นไปอยู่เหนือ 1,800 ถือเป็นการเปลี่ยน sentiment ระยะสั้น จากเตรียมตัวลงมาเป็นมีโอกาสจะรีบาวด์ขึ้นได้ต่อ
  • ทิศทางวันนี้ยืน 1,800 รอแรงส่ง
  • จับจังหวะเล่นยังไง?ซื้อเก็งกำไรเมื่อราคาอ่อนตัว

Attention

- Advertisement -

  • สัปดาห์นี้  จับตาประกาศข้อมูลเศรษฐกิจจีน เพราะมีผลต่อราคาน้ำมันในฐานะอุปสงค์สำคัญท่ามกลางภาวะอุปทานที่ยังไม่ฟื้นจากพายุไอดาในสหรัฐฯ
  • เชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้ากำลังแพร่กระจายทั่วโลก และยังไม่มีวิธีหรือวัคซีนใดที่ป้องกันได้ผลชัดเจน
  • เชื้อโควิดสายพันธุ์มิวกำลังแพร่กระจายทั่วสหรัฐฯ

โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

แนวรับ 1800 / 1790/ 1780  แนวต้าน 1815|1825|1834
              Gold/silver           USD                       Baht        DOW (stock)
ระยะสั้น     SW UP             SW                       SW                SW

ระยะกลาง  SW/SW UP           SW                       SW                SW UP
ระยะยาว BULLISH              Neutral            NEUTRAL         BULLISH
คำแนะนำรายวัน SIDEWAY UP  1795-1820
จุดเข้า BUY 1790-1800
เป้าหมาย 1820-30
SL 1780รายสัปดาห์
คำแนะนำรายเดือน 1770-1890
จุดเข้า BUY 1780-90 เป้าหมาย 1830/ 1875
SL 1770   

บทวิเคราะห์ : เมื่อวานดัชนีเงินเฟ้อสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าที่คาด + ตัวเลขจ้างงานต่ำช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทำให้คาดว่าเฟดจะไม่ลดดอกเบี้ยและ QE ในการประชุม FOMC ในกลางสัปดาห์หน้า ทำให้เดือนนี้ทองอาจมีโอกาสเป็นขาขึ้น โดยทางเทคนิคจะต้องมี 2 เงื่อนไขคือ 1. ยืน $1800 ได้ตลอดนับจากนี้ 2. สะสมพลังเตรียมทะลุ $1834  คาดว่าตัวแปรคือเฟดจะผ่อนคลายนโยบายต่อไปชั่วคราว ทำให้ทอง น้ำมัน และตลาดหุ้นสหรัฐฯเป็นบวก แต่ทรงจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปหรือพุ่งแรงอันนี้ต้องลุ้นกันไป โดยจุด STOP ยังอยู่ที่ $1780/1770 อย่างเคร่งครัด คืนนี้มีชุดตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวน่าจะดีกับทองเล็กน้อย

กลยุทธ์ : ทองกลับมายืน $1800 ได้เน้นฝั่งซื้อ ปิดชอต แต่เป็นการรอซื้อจังหวะย่อตัว คาดว่าราคาทองอาจจะแกว่งไปมาให้เทรดสั้นๆเชิงบวกก่อน จนวันประชุม FOMC คืนวันพุธหน้าที่อาจขึ้นแรง ดังนั้นนักลงทุนระยะกลางทยอยซื้อเช่นเดิม / ส่วนค่าเงินบาทอ่อนมาเทส 34 บาท ถ้าไม่ผ่านก็จะแข็งค่าลงมาอีกรอบ ทำให้ราคาทองไทยดูจืดเล็กน้อย แต่ถือระยะกลางยังถือว่ามีกำไรพอควร

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองคำปรับขึ้นจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด

คืนนี้สหรัฐจะประกาศดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์กเดือนก.ย.

ราคาทองคำมีแนวต้าน 1,810-1,815 ดอลลาร์

  • ราคาทองคำSpot เมื่อวานปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่2เนื่องจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดโดยสหรัฐประกาศดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 0.3% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 0.4% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค. และเพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบรายปีใกล้เคียงกับตลาดคาด ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวาน
  • คืนนี้สหรัฐจะประกาศดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์กเดือนก.ย.ตลาดคาดจะลดลงเหลือ 18.1 จากที่เดือนส.ค.อยู่ที่ระดับ 18.3 การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 0.4%จากที่เดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 0.9%
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบโดยมีแนวต้าน 1,810-1,815 ดอลลาร์ ซึ่งคาดอาจจะยังไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ ถ้าผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,820ดอลลาร์และ 1,830ดอลลาร์ซึ่งทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,780 ดอลลาร์และ 1,770 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,804.10+10.801,780/1,7701,810/1,820

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
27,900+5027,750/27,60028,150/28,300

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,300+30027,880/27,75028,320/28,480

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำขายทำกำไรที่ราคาทอง Spot1,810ดอลลาร์ (GF 28,320บาท) การเปิดสถานะซื้อรอบใหม่รอให้ราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,780 ดอลลาร์  (GF 27,880 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,770 ดอลลาร์(GF 27,750บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,806.40+18.201,781/1,7711,811/1,821

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำขายทำกำไรที่ราคา GOU211,811ดอลลาร์ การเปิดสถานะซื้อรอบใหม่รอให้ราคา GOU21ปรับลงมาที่ 1,781 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,771 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งจะลดแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปรับลดวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)ซึ่งUSD Futures เดือนก.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 32.80 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน33บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลลาร์อ่อนค่าหลังสหรัฐเผยเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (14 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดการณ์ซึ่งจะลดแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.05% แตะที่ 92.6265 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดบวก $12.7 รับคาดการณ์เฟดชะลอขึ้นดบ.หลังเงินเฟ้อต่ำ

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (14 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12.7 ดอลลาร์หรือ 0.71% ปิดที่ 1,807.1 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.9 เซนต์หรือ 0.37% ปิดที่ 23.885 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดบวกเล็กน้อยหลังพุ่งทะลุ $71 รับข่าวพายุเฮอริเคน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนที่ผ่านมา (14 ก.ย.) โดยราคาน้ำมันแผ่วลงในช่วงท้ายหลังจากที่พุ่งขึ้นทะลุระดับ 71 ดอลลาร์/บาร์เรลในระหว่างวันเนื่องจากความกังวลที่ว่าพายุเฮอริเคนนิโคลัสจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันของรัฐเท็กซัสในสัปดาห์นี้สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ปิดที่ 70.46 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.ปีนี้สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 9 เซนต์หรือ 0.1% ปิดที่ 73.60 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.ปีนี้

ตลาดหุ้นต่างประเทศ : ดาวโจนส์ปิดร่วง 292.06 จุดวิตกสหรัฐจ่อขึ้นภาษีนิติบุคคล

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา (14 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐจะปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทจดทะเบียนโดยความกังวลดังกล่าวส่งผลให้เกิดแรงเทขายในหุ้นกลุ่มต่างๆเป็นวงกว้างแม้ว่าในช่วงแรกตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดก็ตามดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,577.57 จุดร่วงลง 292.06 จุดหรือ -0.84% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,443.05 จุดลดลง 25.68 จุดหรือ -0.57% ดัชนีNasdaqปิดที่ 15,037.76 จุดลดลง 67.82 จุดหรือ -0.45%

สื่อสหรัฐจับตาประชุมเฟด21-22ก.ย.นี้คาดส่งสัญญาณลดQE เดือนพ.ย.

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลคาดการณ์ว่าเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะพยายามหาทางบรรลุข้อตกลงในการเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนพ.ย. ในการประชุมซึ่งจะมีขึ้นในวันที่21-22ก.ย.นี้วอลล์สตรีทเจอร์นัลคาดการณ์ว่านายเจอโรมพาวเวลประธานเฟดอาจใช้โอกาสในการประชุมวันที่21-22ก.ย.นี้เพื่อส่งสัญญาณว่าคณะกรรมการเฟดจะเริ่มกระบวนการปรับลดวงเงินQE ในการประชุมนัดถัดไปในวันที่2-3พ.ย.นี้วอลล์สตรีทเจอร์นัลยังระบุด้วยว่าภายใต้แผนการที่เริ่มชัดเจนขึ้นคณะกรรมการเฟดอาจปรับลดวงเงินQE อย่างค่อยเป็นค่อยไปจนสามารถยุติการทำQE ได้ทั้งหมดภายในช่วงกลางปี2565 ที่ผ่านมานั้นเฟดได้ให้คำมั่นว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับใกล้0%และจะยังคงซื้อพันธบัตรตามมาตรการQE ต่อไปอย่างน้อยในระดับปัจจุบันที่1.2แสนล้านดอลลาร์/เดือนจนกว่าการจ้างงานและเงินเฟ้อจะขยายตัวอย่างยั่งยืนทางด้านคณะกรรมการเฟดหลายรายได้ให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆนี้ว่าเฟดอาจเริ่มปรับลดวงเงินQE ในปีนี้ซึ่งรวมถึงนางลอเรตตาเมสเตอร์ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ซึ่งสนับสนุนให้เฟดเริ่มปรับลดวงเงินQE ในปีนี้แม้สหรัฐมีการจ้างงานที่อ่อนแอในเดือนส.ค.ก็ตาม

เกาหลีเหนืออ้างประสบความสำเร็จทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลรุ่นใหม่

สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือรายงานในวันนี้ว่าเกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการทดสอบยิงขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล (long-range cruise missile) รุ่นใหม่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยขีปนาวุธรุ่นใหม่ซึ่งพัฒนาโดยสถาบันวิทยาศาสตร์ด้านกลาโหมของเกาหลีเหนือนั้นสามารถทำลายเป้าหมายที่อยู่ไกลประมาณ1,500กิโลเมตร (930ไมล์)

KCNA ระบุว่าเกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบยิงขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลรุ่นใหม่เมื่อวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโดยขีปนาวุธดังกล่าวได้รับการยืนยันในด้านประสิทธิภาพและความแม่นยำพร้อมระบุว่าเกาหลีเหนือมีความคืบหน้าอย่างมากในการพัฒนาขีปนาวุธในช่วง2ปีที่ผ่านมาการทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เกาหลีเหนือได้แสดงท่าทีไม่พอใจสหรัฐที่เดินหน้าซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้โดยเมื่อไม่นานมานี้นายคิมยงชอลเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือได้ออกมาเตือนว่าเกาหลีใต้และสหรัฐตอบแทนความหวังดีของเกาหลีเหนือด้วย “การกระทำอันเป็นปรปักษ์” และยังกล่าวด้วยว่าเกาหลีใต้เลือกที่จะพลาดโอกาสในการยกระดับความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น

อดีตทูตสหรัฐคาดจีนจะรักษาสัมพันธ์กับกลุ่มตาลีบันอย่างระมัดระวัง อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงปักกิ่งคาดการณ์ว่าจีนจะรักษาความสัมพันธ์กับอัฟกานิสถานอย่างระมัดระวังและเป้าหมายหลักของจีนคือการร่วมมือกับกลุ่มตาลีบันในการรักษาความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนนายแม็กซ์เบาคัสอดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศจีนให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า “จีนจะไม่พยายามเข้ายึดครองอัฟกานิสถานเหมือนที่ประเทศอื่นๆรวมถึงสหรัฐเคยทำ” พร้อมเสริมว่าจีนกังวลเกี่ยวกับการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่อาจใช้อัฟกานิสถานเป็นฐานที่มั่นความกังวลหลักของจีนคือเตอร์กิสถานตะวันออกซึ่งรัฐบาลจีนจะร่วมมือกับกลุ่มตาลีบันเพื่อสร้างหลักประกันว่าอัตราการก่อการร้ายในอัฟกานิสถานจะอยู่ในระดับที่ต่ำมากโดยเขากล่าวถึงกลุ่มหัวรุนแรงอุยกูร์ภายใต้ชื่อขบวนการอิสลามเตอร์กิสถานตะวันออก (East Turkestan Islamic Movement)อดีตเอกอัครราชทูตกล่าวเสริมว่าพัฒนาการในอัฟกานิสถานจะเป็นบททดสอบของสหรัฐในขณะที่อิทธิพลทางการทหารและการเมืองของสหรัฐลดลงในเวทีโลกหลังจากที่ถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานส่งผลให้ประเทศอื่นๆเช่นจีนเข้ามาเติมเต็มช่องว่างดังกล่าว    “นี่จะเป็นการทดสอบสหรัฐ” นายเบาคัสกล่าว “เรายังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนสำหรับจีนและการถอนตัวครั้งนี้จะทำให้การพัฒนานโยบายเชิงกลยุทธ์ที่มีต่อจีนมีความซับซ้อนมากขึ้น”  

โดย : บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด (CAF)

Reasons มีโอกาสปรับขึ้น

  • ค่าเงินดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่า เนื่องจากมาตรการของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ
    ออกมาประกาศใช้มาตรการคุมโควิด-19 โดยการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯลด QE
  • กองทุน SPDR เข้าขายทองคำเพิ่ม 2.04 ตัน

Day Trade
GOU21 Long 1,790-1,800 เป้า 1,820-1,830 จุด Stop 1,786
GF10V21 Hold Long เป้า 28,300-28,600 จุด stop 27,940

Trend Trade ใช้ราคาปิดสิ้นวัน
GOU21 Open Long 1,790 จุด Stop 1,786
GF10V21 Hold Long จุด Stop 27,940

โดย  : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวานนี้เกือบ 1% โดยขึ้นไปทะลุ 1,800 เหรียญอีกครั้ง หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ได้แก่ CPI ออกมาต่ำกว่าคาด บ่งบอกถึงสภาวะเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดี ภาพรวมเงินเฟ้อรายปีอยู่ที่ 5.3% ขณะที่อัตราการขยายตัวของเงินเฟ้อเดือนต่อเดือนลดลง ทางด้าน Core CPI รายเดือนลดลงแตะ 0.1% ในส่วนของดัชนีดอลลาร์ค่อนข้างทรงตัวบริเวณ 92.60 จุด ส่วนของเงินบาทเองอยู่ในทิศทางอ่อนค่า จากระดับ 32.85 บาท/ดอลลาร์ มาที่ 32.95 บาท/ดอลลาร์ในเช้านี้ จึงอาจอ่อนค่าแตะ 33.00 บาท/ดอลลาร์ได้ ขณะเดียวกันภาพรวมตลาดทองคำคลายความกังวลเล็กน้อยเรื่อง Tapering QE ของเฟด และเชื่อว่าตลาดจะรอผลประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า (21-22 ก.ย.) ในส่วนของ SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม สำหรับคืนนี้ต้องติดตามข้อมูลภาคการผลิตสหรัฐฯ ได้แก่ Empire Sate Manufacturing Indexและ Industrial Production ที่คาดจะออกมาแย่ลงเล็กน้อย

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นแกว่งตัวแถวเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลาง 1,804 เหรียญ จึงทำให้ภาพของทองคำยังไม่ชัดเจน และระยะสั้นๆมีการปรับขึ้น แต่โดยรวมจะยังเคลื่อนไหว Sideways โดยทองคำจะมีแนวรับ 1,790 เหรียญ และแนวต้าน 1,815 เหรียญ ทางด้าน Gold Comex และ Gold Online Futures คาดจะมีแนวรับ 1,792 เหรียญ และแนวต้าน 1,817 เหรียญ สำหรับทองคำไทยคาดอาจปรับขึ้นได้ 200 บาท/บาททองค

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แนะนำเล่นสั้นในกรอบ ลงซื้อขึ้นขาย เข้าออกเร็วในวันตามการแกว่งตัว รอความชัดเจนของทิศทาง

– นักลงทุนที่ถือ Long Position 

เล่นสั้น ลงซื้อขึ้นขาย เข้าออกเร็วในวัน ควรมี Stop Loss หากต่ำกว่าแนวรับ

– นักลงทุนที่ถือ Short Position

แนะนำทำกำไรระยะสั้น ขายก่อนซื้อทีหลัง เล่นสั้นในวัน และต้องมี Stop Loss เสมอหากสูงกว่าแนวต้าน

Gold Futures 10V21 จะมีแนวรับที่ระดับ 28,150 บาท และแนวต้านที่ระดับ 28,450  บาท

โดย : บริษัท ที.ดี.ซี. โกลด์ จำกัด

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขยายตัว 5.3% YoY (0.3% MOM) น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่5.5% YoYตัวเลขที่ออกมาน้อยนั้นช่วยให้ตลาดคลายความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่จะปรับตัวสูงขึ้นแรงจน FED ต้องรีบขึ้นดอกเบี้ยได้ระดับหนึ่ง ส่งผลให้ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นออกจากแนวรับ$1780 และกลับขึ้นมายืนเหนือ $1800 อีกครั้งหนึ่งและจากที่ราคาสามารถปรับตัวสูงขึ้นเกินกว่า $1800 จึงปรับคำแนะนำเป็นNEUTRALแต่ยังคงมุมมองเช่นเดิมคือ การขึ้นมาต้องลดสถานะซื้อลง

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

เก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว หากราคาไม่สามารถทะลุแนวต้านด้านบนโซน 1,809-1,816 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เปิดสถานะขายทำกำไร และปิดสถานะขายทำกำไรหากราคายืนเหนือโซน 1,789-1,775 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,789 1,775 1,757  แนวต้าน : 1,816 1,833 1,849

จจัยพื้นฐาน :

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์  แม้ในช่วงต้นวัน  ราคาทองคำจะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ซึ่งส่งผลให้ราคาร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,782.00  ดอลลาร์ต่อออนซ์  แต่ราคาทองคำฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในเวลาต่อมา  หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้นเพียง0.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4% เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 5.3% ในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.4% ส่วนดัชนีCPI พื้นฐานปรับตัวขึ้นเพียง0.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%  เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 4.0% ในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.2%  ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนว่า  “อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอาจผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว”  ซึ่งนั่น “บั่นทอน” แนวโน้มที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะเร่งปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)  ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ลดช่วงบวกจากระดับสูงสุดในระหว่างวัน  ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.2634% ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.จนเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำทะยานขึ้นกว่า 26 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับต่ำสุดสู่ระดับสูงสุดบริเวณ 1,808.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม(Empire State Index), การผลิตภาคอุตสาหกรรม และอัตราการใช้กำลังการผลิตของสหรัฐ

ปัจจัยทางเทคนิค :

ระยะสั้นราคาทองคำยังมีลุ้นดีดขึ้นทดสอบแนวต้าน หากราคาสามารถรักษาระดับได้แต่เมื่อราคาปรับตัวขึ้นอาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาเพิ่มขึ้น ซึ่งหากไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 1,809-1,816 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้โดยราคาอาจปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ 1,789-1,775 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อสร้างฐานราคา

กลยุทธ์การลงทุน :

เน้นทำกำไรระยะสั้นโดยเปิดสถานะขายหากราคาไม่สามารถผ่านโซน 1,809-1,816 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาผ่าน1,816 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ทั้งนี้อาจทยอยเข้าซื้อคืนหากราคาอ่อนตัวลงไม่หลุดแนวรับ 1,789-1,775 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ทูตจีนประจำสหรัฐวอนรัฐบาลมะกันพยายามสานสัมพันธ์กับจีนอย่างจริงจังนายฉิน กัง  เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐให้มีการดำเนินการต่างๆ ที่ชัดเจน เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า และเปรียบว่าสิ่งนี้เป็นเสมือน “อับเฉาและใบจักรเรือ” ที่จะขับเคลื่อนความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ  “หากเปรียบความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐเป็นเรือลำใหญ่ยักษ์ ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าก็เปรียบดั่งอับเฉาและใบจักรของเรือ เมื่อขณะนี้เรือต้องเผชิญกับคลื่นลมที่รุนแรง เราก็จำเป็นต้องเสริมความแข็งแกร่งให้กับสองชิ้นส่วนนี้” นายฉินกล่าวในที่ประชุมกับคณะผู้บริหารสภาธุรกิจสหรัฐ-จีน (USCBC) ซึ่งมีประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทสหรัฐรายใหญ่หลายแห่งเป็นสมาชิก
  • (+) สหรัฐเผยดัชนี CPI +0.3% ในเดือนส.ค. ต่ำกว่าคาดการณ์กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยระบุว่า ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค.  เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 5.3% ในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.4% หลังจากพุ่งขึ้น 5.4% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551นอกจากนี้ หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค.เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 4.0% ในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.2% หลังจากพุ่งขึ้น 4.3% ในเดือนก.ค.
  • (+) สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ร่วมโต๊ะหารือประเด็นนิวเคลียร์เกาหลีเหนือคณะผู้แทนพิเศษจากสหรัฐฯ และเกาหลีใต้เดินทางเข้าร่วมประชุมกับตัวแทนจากญี่ปุ่น ที่กรุงโตเกียว ในวันอังคาร เพื่อหารือกรณีโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ หลังรัฐบาลกรุงเปียงยางทำการทดสอบยิงขีปนาวุธไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา  รายงานข่าวระบุว่า ซัง คิม ผู้แทนพิเศษสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเกาหลีเหนือ และ โนห์ คยู-ดุค ผู้แทนพิเศษจากเกาหลีใต้ ฝ่ายกิจการด้านความมั่นคงและสันติภาพคาบสมุทรเกาหลี เข้าร่วมประชุมกับ ทาเคฮิโร ฟูนาโคชิ อธิบดีกรมกิจการด้านเอเชียและโอเชียเนียของญี่ปุ่น เผื่อถกหนทางจัดกับการสถานการณ์ล่าสุดในเกาหลีเหนือ
  • (+) ดาวโจนส์ปิดร่วง 292.06 จุด วิตกสหรัฐจ่อขึ้นภาษีนิติบุคคลดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐจะปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทจดทะเบียน โดยความกังวลดังกล่าวส่งผลให้เกิดแรงเทขายในหุ้นกลุ่มต่างๆเป็นวงกว้าง แม้ว่าในช่วงแรกตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดก็ตาม  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,577.57 จุด ร่วงลง 292.06 จุด หรือ -0.84% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,443.05 จุด ลดลง 25.68 จุด หรือ -0.57% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,037.76 จุด ลดลง 67.82 จุด หรือ -0.45%
  • (+) ดอลลาร์อ่อนค่า หลังสหรัฐเผยเงินเฟ้อต่ำกว่าคาดดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งจะลดแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)  ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.05% แตะที่ 92.6265 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.61 เยน จากระดับ 110.00 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9193 ฟรังก์ จากระดับ 0.9228 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2686 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2667 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1807 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1803 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3814 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3831 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7318 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7360 ดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : gold.in.th ( 15 ก.ย. ุ64 )

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.