ราคาทองวันนี้ ข่าวทองคำ

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 8 ต.ค.64 by SCT, GT, HGF, TDC, YLG, MTS

742

- Advertisement -

โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

คำแนะนำ :  คืนนี้รอตัวเลข NFP ที่คาดว่าจะดีมาก มองทองยังผันผวนต่อ แนะย่อซื้อขึ้นขาย

แนวรับ 1748/ 1740 / 1730  แนวต้าน 1770|1780|1790
              Gold/silver           USD                       Baht        DOW (stock)
ระยะสั้น     SW/SW UP         SW DOWN         SW                    SW 

ระยะกลาง  SW/SW UP           SW                       SW                SW UP
ระยะยาว BULLISH              Neutral            NEUTRAL         BULLISH
คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS  1745-75
จุดเข้า BUY 1740-50
เป้าหมาย 1775-1800
SL 1719รายสัปดาห์
คำแนะนำรายเดือน 1720-1835
จุดเข้า BUY 1730-40 เป้าหมาย 1830/ 1850
SL 1719   

บทวิเคราะห์ : คืนนี้จับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) ที่คาดกันว่าจะออกมาดีมาก แต่จะกดดันทองมากแค่ไหนต้องรอรายละเอียดของตัวเลข แต่โดยรวมทองมีทรงทางบวก เหมือนสะสมพลังรับข่าว QE และเฟดมาเยอะแล้ว ประกอบกับค่าเงินสหรัฐฯก็ยังดูไม่แข็งแกร่งเพราะรอผลการขยายเพดานหนี้ จึงมองทองอาจจะได้เปรียบนิดๆ ในทางเทคนิคถ้าทองจะเป็นขาขึ้นจะต้องห้ามปิดต่ำกว่า $1740 และรีบทะยานข้าม $1770 ให้เร็วที่สุดเพื่อรักษาภาพเชิงบวกในเดือนนี้ และเข้าเทศกาลทองขึ้นใกล้ปลายปี 

กลยุทธ์ : รอซื้อช่วงย่อตัวในวันนี้แถว $1740-50  โดย STOP ที่ $ 1719 / ไล่ตามถ้าราคาทองปิดเหนือ $1770 ได้ สัปดาห์หน้าจะมีประกาศดัชนีเงินเฟ้อและยอดขายปลีกสหรัฐฯซึ่งสำคัญ ดังนั้นระวังความผันผวนของทองและค่าเงินบาทในเดือนนี้

โดย : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

- Advertisement -

Fundamental

  • สหรัฐฯเผย เตรียมจัดการประชุมผ่านออนไลน์กับจีนระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน กับ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงภายในสิ้นปีนี้
  • ราคาน้ำมันดิบยังคงพุ่งขึ้นต่อ แม้สหรัฐฯเพิ่งประกาศจะปล่อยน้ำมันในคลังสำรองออกสู่ตลาดเพื่อคลายแรงกดดันด้านอุปทาน แต่ตลาดเชื่อว่าปริมาณที่เพิ่มเข้ามาจะไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก
  • ด้านรัสเซียเตรียมเพิ่มปริมาณส่งออกก๊าซไปยุโรป เพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนพลังงาน

Technical

  • ราคาแกว่งแคบไร้ทิศทางใต้เส้น MA แม้ยังไม่พร้อมขึ้นต่อ แต่ควรจับตาเพื่อประเมินสัปดาห์หน้า
  • ราคาแกว่งข้ามเส้น MA ไปมา ระยะสั้นจึงยังกำหนดทิศทางไม่ได้ และน่าจะต้องรอดูกลางสัปดาห์หน้าว่าราคาจะเลือกทางขึ้นหรือลง
  • ทิศทางวันนี้sideway 1,745-1,770
  • จับจังหวะเล่นยังไง?เล่นสั้นในกรอบ 1,745-1,770เล่นรอบรอซื้ออ่อนตัวและ stop loss เมื่อหลุด 1,745

Attention

ทั่วโลกยังคงจับตาเอเวอร์แกรนด์ต่อ ว่ารัฐบาลจีนจะเข้ามาพยุงฐานะหรือจะช่วยจัดการปรับโครงสร้างหนี้หรือไม่ หลังบริษัทขอขยายเวลาชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ออกไป 1 เดือน และยังมีดอกเบี้ยหุ้นกู้ชุดอื่นที่ทยอยครบกำหนดชำระอีกเรื่อย ๆ

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองคำลดลงผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐลดลงเกินคาด

คืนนี้ 1 ทุ่มครึ่งติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ

ทองคำคาดผันผวนตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ

  • ราคาทองคำSpot เมื่อวานปรับลดลงนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากสหรัฐประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 38,000 ราย สู่ระดับ 326,000 รายลดลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือน และดีกว่าตลาดคาดจะลดลงสู่ระดับ 350,000 รายรวมทั้งนักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้สหรัฐ โดยแกนนำของพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันสามารถบรรลุข้อตกลงในการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐจนถึงต้นเดือนธ.ค. ทำให้สหรัฐหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวานติดต่อกันเป็นวันที่ 4
  • คืนนี้ 1 ทุ่มครึ่งติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนก.ย.ซึ่งตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 490,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เดือนส.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้ในกรณีที่ตัวเลขการจ้างงานออกมาดีกว่าหรือแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้จะกระทบต่อราคาทองคำ และมีผลต่อการคาดการณ์แนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด ถ้าการจ้างงานออกมาดีกว่าตลาดคาด ราคาทองคำจะลดลง แต่ถ้าออกมาแย่กว่าตลาดคาด ราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นส่วนอัตราการว่างงานเดือนก.ย. ตลาดคาดจะลดลงเป็น 5.1% จากระดับ 5.2% ในเดือนส.ค.
  • แนวโน้มราคาทองคำคาดผันผวนตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ ระยะสั้นทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,745 ดอลลาร์และ 1,737 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน1,765-1,770 ดอลลาร์ซึ่งคาดว่ายังไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้แต่ถ้าผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้าน 1,780 ดอลลาร์ และ 1,787 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,755.90-6.61,745/1,7371,770/1,780

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,150+5028,000/27,85028,300/28,450

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,230-7028,140/28,00028,460/28,620

แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรที่ราคาทองคำ Spot1,745ดอลลาร์ (GF28,140บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,737 ดอลลาร์ (GF28,000บาท) และขายทำกำไรที่ราคาทอง Spot1,765-1,770 ดอลลาร์(GF28,400-28,460 บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,759.00-4.401,748/1,7401,773/1,783

แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรที่ราคา GOZ211,748ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,740ดอลลาร์และขายทำกำไรที่ราคา GOZ211,773ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดทรงตัว ทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากนักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้สหรัฐ โดยแกนนำของพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐจนถึงต้นเดือนธ.ค. ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้โดยUSD Futures เดือนธ.ค.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 33.70 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน33.90และ34บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนค่าเล็กน้อยก่อนสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงาน

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.05% แตะที่ 94.2216 เมื่อคืนนี้

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ต.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือนซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้ในการพิจารณาการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.6 ดอลลาร์หรือ 0.15% ปิดที่ 1,759.2 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12.6 เซนต์หรือ 0.56% ปิดที่ 22.658 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดบวก 87 เซนต์หลังสหรัฐยันไม่มีแผนระบายน้ำมันจากคลังSPR

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ต.ค.) หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐยืนยันว่ารัฐบาลสหรัฐไม่มีแผนที่จะระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 87 เซนต์หรือ 1.1% ปิดที่ 78.30 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 87 เซนต์หรือ 1.1% ปิดที่ 81.95 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 337.95 จุดขานรับคองเกรสบรรลุดีลเพิ่มเพดานหนี้

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ต.ค.) ขานรับข่าววุฒิสภาสหรัฐบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ลดลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือนโดยปัจจัยบวกดังกล่าวช่วยหนุนแรงซื้อหุ้นเป็นวงกว้างขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐในวันนี้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,754.94 จุดเพิ่มขึ้น 337.95 จุดหรือ +0.98% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,399.76 จุดเพิ่มขึ้น 36.21 จุดหรือ +0.83% ดัชนีNasdaqปิดที่ 14,654.02 จุดเพิ่มขึ้น 152.10 จุดหรือ +1.05%

“ไบเดน-สี” เล็งประชุมออนไลน์ก่อนสิ้นปีขณะสัมพันธ์สหรัฐ-จีนตึงเครียด

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐเปิดเผยว่าสหรัฐและจีนได้บรรลุข้อตกลงในหลักการที่จะจัดการประชุมทางออนไลน์ระหว่างประธานาธิบดีโจไบเดนของสหรัฐและประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนภายในสิ้นปีนี้การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากการพบปะกันระหว่างนายเจคซัลลิแวนที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐและนายหยางเจียฉือนักการทูตระดับสูงของจีนที่สวิตเซอร์แลนด์ขณะที่สหรัฐพยายามจัดการกับการแข่งขันและความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างกันทำเนียบขาวระบุว่าในระหว่างการประชุมที่ซูริคนั้นนายซัลลิแวนได้หยิบยกประเด็นความกังวลของสหรัฐเช่นการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์ในมณฑลซินเจียงทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน, การปราบปรามผู้สนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกงรวมถึงสถานการณ์ในทะเลจีนใต้และไต้หวันซึ่งจีนก็ได้รุกแผ่อิทธิพลเพิ่มมากขึ้นนอกจากนี้นายซัลลิแวนยังได้หยิบยกประเด็นที่ทั้งสองประเทศมีความสนใจที่จะทำงานร่วมกันเพื่อจัดการกับความท้าทายข้ามชาติที่สำคัญรวมถึงแนวทางในการจัดการความเสี่ยงในความสัมพันธ์ระหว่างกัน

แกนนำรีพับลิกันยอมขยายเพดานหนี้ถึงเดือนธ.ค. ช่วยสหรัฐเลี่ยงผิดนัดชำระหนี้

นายมิตช์แมคคอนเนลล์ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาสหรัฐจากพรรครีพับลิกันกล่าวว่าพรรครีพับลิกันจะสนับสนุนการขยายเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐออกไปจนถึงเดือนธ.ค. เพื่อช่วยให้สหรัฐหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้และวิกฤตเศรษฐกิจไปจนกว่าพรรคเดโมแครตจะสามารถผ่านร่างกฎหมายที่จะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ได้ก่อนสิ้นปีนี้คำกล่าวของนายแมคคอนเนลล์เป็นปัจจัยหนุนดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า400จุดในช่วงแรกอันเนื่องมาจากความขัดแย้งในสภาคองเกรสเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐนายแมคคอนเนลล์กล่าวว่า “เพื่อเป็นการปกป้องชาวอเมริกันจากวิกฤตการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในระยะใกล้นี้เราจะเปิดทางให้พรรคเดโมแครตใช้กระบวนการตามปกติเพื่อผ่านร่างกฎหมายการขยายเพดานหนี้ฉุกเฉินในวงเงินที่กำหนดเพื่อให้ครอบคลุมระดับการใช้จ่ายในปัจจุบันไปจนถึงเดือนธ.ค. ผมเชื่อว่าการทำเช่นนี้จะช่วยให้รัฐบาลพรรคเดโมแครตมีเวลาเพียงพอในการผลักดันร่างกฎหมายเพดานหนี้ผ่านการเจรจาที่ประนีประนอมกัน”  ความคืบหน้าเกี่ยวกับการขยายเพดานหนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันอังคารผ่านมาประธานาธิบดีโจไบเดนได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งเพิ่มเพดานหนี้หรือระงับเพดานหนี้ภายในสัปดาห์นี้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ร้ายแรงอันเนื่องมาจากการผิดนัดชำระหนี้ทางด้านนางเจเน็ตเยลเลนรัฐมนตรีคลังสหรัฐเตือนว่าหากสภาคองเกรสไม่ขยายเพดานหนี้ก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่18ต.ค. ก็จะทำให้สหรัฐเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์และอาจฉุดเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยนอกจากนี้นางเยลเลนยังเตือนว่าหากสหรัฐผิดนัดชำระหนี้ก็จะส่งผลให้บางประเทศลดการถือครองพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐและทำให้ความต้องการถือครองสกุลเงินดอลลาร์ลดลงด้วยซึ่งอาจเปิดทางให้สกุลเงินหยวนของจีนเข้ามามีบทบาทแทนสกุลเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินที่ได้รับความนิยมในตลาดโลกทั้งนี้เพดานหนี้คือจำนวนเงินทั้งหมดที่รัฐบาลสหรัฐได้รับอนุญาตให้ทำการกู้ยืมเพื่อให้รัฐบาลสามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมายซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสวัสดิการด้านประกันสังคมและด้านสุขภาพ, ดอกเบี้ยตราสารหนี้ของรัฐบาลและการใช้จ่ายอื่นๆ

โดย : บริษัท ที.ดี.ซี. โกลด์ จำกัด

การเจรจาเรื่องการขยายเพดานหนี้ได้รับการประนีประนอมจากทั้งสองฝ่ายเมื่อวานนี้ทำให้มีการขยายเพดานหนี้ชั่วคราวไปจนถึงเดือน ธ.ค. และทำให้อเมริกาหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ออกไปซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีในเบื้องต้น ขณะที่ดัชนีหุ้นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเกือบทุกตลาดโดยเฉพาะหุ้นจีนที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดอเมริกาหลังจากโดนกดดันมาตลอดทั้งปี Bond yield อายุ 10 ปียังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ราคาทองทรงตัว วันนี้ติดตามตัวเลข NFP คาดว่าจะออกมาดีขึ้น ให้ระมัดระวังแรงขาย

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

เน้นการซื้อขายทำกำไรระยะสั้น โดยเปิดสถานะขายในโซน 1,769-1,771 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หวังเข้าซื้อคืนหากราคาไม่หลุดแนวรับโซน 1,747-1,735 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าวให้ชะลอการปิดสถานะขายไปที่แนวรับถัดไป

แนวรับ : 1,747 1,735 1,721  แนวต้าน : 1,771 1,787 1,808

จจัยพื้นฐาน :

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง  6.60ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันหลักมาจากการเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ลดลงสู่ระดับ 326,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ต.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือนหรือนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 345,000 ราย  ประกอบกับสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ในเดือนนี้ได้  หลังจากเมื่อคืนนี้วุฒิสภาสหรัฐบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้  ก่อนที่เช้านี้ตามเวลาไทยวุฒิสภาเพิ่งลงมติ “อนุมัติ” ร่างกฏหมายเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐอีก 4.80 แสนล้านดอลลาร์สู่ระดับ 28.9 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันที่ระดับ 28.4 ล้านล้านดอลลาร์ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนกลับมาเปิดรับความเสี่ยง  สะท้อนจากดัชนีดาวโจนส์ที่ปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุด  ซึ่งกระตุ้นแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัยในวงกว้างซึ่งรวมถึงทองคำ  ขณะที่แรงขายพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยนั้นหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ให้พุ่งขึ้นสู่ระดับ 1.58% จนเป็นปัจจัยกดดันทองคำเพิ่ม ส่งปลให้ราคาทองคำร่วงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,751.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์  อย่างไรก็ดี  การปรับตัวลงของทองคำเป็นไปอย่างจำกดัเนื่องจากได้รับแรงหนุนจากดัชนีดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเล็กน้อย จากแรงขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้จับตาการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร  อัตราการว่างงาน  และรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงแรงงานสหรัฐประจำเดือนก.ย.  ซึ่งตัวเลขดังกล่าวจะส่งผลต่อการคาดการณ์การดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)และมีแนวโน้มจะส่งผลให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวผันผวน

ปัจจัยทางเทคนิค :

หากราคาทองคำไม่สามารถกลับขึ้นยืนเหนือ 1,769-1,771 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้มีแนวโน้มอ่อนตัวลงสู่บริเวณ 1,751-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามในโซนแนวรับ ต้องจับตาแรงซื้อเก็งกำไรที่อาจเพิ่มสูงขึ้น แต่หากไม่สามารถยืนได้ราคาอาจอ่อนตัวลงทดสอบโซน แนวรับสำคัญโซน 1,735ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

เน้นการลงทุนระยะสั้นโดยเปิดสถานะขาย บริเวณ 1,769-1,771 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และตัดขาดทุนหากผ่าน 1,771 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงมา และทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรหากราคาไม่หลุดโซนแนวรับ 1,751-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์แต่หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าวให้ชะลอการปิดสถานะขายไปที่แนวรับถัดไปโซน 1,735 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ดอลล์อ่อนค่าเล็กน้อย ก่อนสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงาน  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้  ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.05% แตะที่ 94.2216 เมื่อคืนนี้  ยูโรทรงตัวเมื่อที่ระดับ 1.1550 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3621 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3581 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7310 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7269 ดอลลาร์  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2553 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2589 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.62 เยน จากระดับ 111.43 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9290 ฟรังก์ จากระดับ 0.9278 ฟรังก์
  • (+) ซีไอเอ’ ตั้งศูนย์ใหม่รับมือภัยคุกคามจากจีนโดยเฉพาะสำนักงานข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ หรือ ซีไอเอ (CIA) ปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในบางอย่างขององค์กร ด้วยการจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการด้านจีน” (China Mission Center) เพื่อตอบโต้ต่อนโยบายที่เป็นปรปักษ์ของรัฐบาลกรุงปักกิ่ง  ผู้อำนวยการซีไอเอ วิลเลียม เบิร์นส ประกาศการจัดตั้งศูนย์แห่งใหม่ในวันพฤหัสบดี โดยระบุว่า รัฐบาลจีนคือ “ภัยคุกคามด้านภูมิศาสตร์การเมืองที่สำคัญที่สุดในศตวรรษที่ 21” และว่า ซีไอเอจะเป็นด่านหน้าในการรับมือบททดสอบที่ท้าทายที่สุดในยุคสมัยใหม่นี้ เหมือนที่ทำมาตลอดในประวัติศาสตร์อเมริกา  นอกจากศูนย์ปฏิบัติการด้านจีนแล้ว ซีไอเอยังประกาศจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการข้ามชาติและเทคโนโลยี” (Transnational and Technology Mission Center) รวมทั้งเพิ่มตำแหน่งใหม่ คือ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยี หรือ chief technology officer เพื่อรับหน้าที่จัดการประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการแข่งขันระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ ความมั่นคงปลอดภัยทางเศรษฐกิจ สาธารณสุขโลก และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
  • (-) ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 337.95 จุด ขานรับคองเกรสบรรลุดีลเพิ่มเพดานหนี้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) ขานรับข่าววุฒิสภาสหรัฐบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ลดลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือน โดยปัจจัยบวกดังกล่าวช่วยหนุนแรงซื้อหุ้นเป็นวงกว้าง ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐในวันนี้  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,754.94 จุด เพิ่มขึ้น 337.95 จุด หรือ +0.98% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,399.76 จุด เพิ่มขึ้น 36.21 จุด หรือ +0.83% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,654.02 จุด เพิ่มขึ้น 152.10 จุด หรือ +1.05%
  • (-) วุฒิสภาสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้แล้วนายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต ประกาศในวันนี้ว่า แกนนำของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐจนถึงต้นเดือนธ.ค. ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ในเดือนนี้  อย่างไรก็ดี นายชูเมอร์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่าข้อตกลงดังกล่าวมีการระบุวงเงินเพดานหนี้หรือไม่ หรือระบุแต่เพียงการขยายเวลาออกไป แต่ผู้ช่วยวุฒิสมาชิกรายหนึ่ง ซึ่งไม่ประสงค์จะเอ่ยนาม เปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐอีก 4.80 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 28.9 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันที่ระดับ 28.4 ล้านล้านดอลลาร์
  • (-) “ไฟเซอร์” ยื่นขออนุมัติ FDA ฉีดวัคซีนโควิดให้เด็กกลุ่มอายุ 5-11ปี บริษัทไฟเซอร์ อิงค์แถลงในวันนี้ว่า ทางบริษัทได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) เพื่อขออนุมัติการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้แก่เด็กที่มีอายุ 5-11 ปี  การยื่นขออนุมัติดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่บริษัทได้รับอนุมัติจาก FDA สำหรับการฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กอายุ 12-15 ปีเป็นกรณีฉุกเฉินเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
  • (-) สหรัฐเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้วกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ326,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย. จากระดับ 364,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้  นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 345,000 ราย

โดย  : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)

ทิศทางราคาทองคำ

ภาพรวมของตลาดทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง 1,750 – 1,765 เหรียญ รอข่าวสำคัญวันนี้ ได้แก่ Non-Farm Payrolls  หลังเมื่อคืนที่ผ่านมา Unemployment Claims ออกมาดีขึ้นอย่างมากสู่ระดับ 326,000 ราย จาก 364,000 รายในสัปดาห์ก่อน สำหรับดัชนีดอลลาร์ปิด 94.19 จุด เช้านี้ขยับแข็งค่ามาเล็กน้อยบริเวณ 94.21 จุด ซึ่งถือเป็นการทรงตัวอยู่สูงกว่า 94 จุด ทางด้านเงินบาทมีการเคลื่อนไหวในกรอบ 33.80 – 33.90 บาท/ดอลลาร์ เช้านี้อยู่บริเวณ 33.84 บาท/ดอลลาร์โดยประมาณ ด้าน SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 986.54 ตัน ต่อเนื่อง และไม่มีการทำอะไรเพิ่มเติม ในส่วนของทองคำไทยยังทรงตัวแถว 28,000 บาท/บาททองคำ แม้ทองคำตลาดโลกจะแกว่งตัวเล็กน้อย แต่ทิศทางเงินบาทยังอยู่ในทิศทางแข็งค่า สำหรับค่ำคืนี้ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ คาดจะดีขึ้นแตะ 490,000 รายโดยประมาณ และอัตราว่างงานมีแนวโน้มจะดีขึ้น ในส่วนของราคาน้ำมันดิบมีการปรับลงมาบ้างเล็กน้อยหลังไปทดสอบ 80 เหรียญ/บาร์เรลโดยประมาณ ทางด้านภาพรวมของตลาดหุ้นยังคงปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางสภาวะการแกว่งตัวผันผวนก่อนจะปิดแดนบวกจากกระแสที่ร่างกฎหมายเพดานหนี้จะผ่านครบทั้งสองสภาในสัปดาห์หน้า

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ทองคำเคลื่อนไหว Sideways โดยคาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบโดยมีแนวรับสำคัญ 1,745 เหรียญ และแนวต้าน 1,770 เหรียญ ซึ่งหากทองคำ Breakout ด้านใดด้านหนึ่งจะเริ่มเห็นทิศทางไปในด้านใดด้านหนึ่ง สำหรับ Gold Online Futures และ Comex คาดจะมีแนวรับ 1,748 เหรียญ และแนวต้าน 1,770 เหรียญ ทางด้านทองคำไทยมีแนวโน้มขยับขึ้นได้ราว 50 บาท/บาททองคำ

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แนะนำเล่นสั้น Sideways ในกรอบ ควรบริหารพอร์ตสมดุล รอข้อมูลสำคัญคืนนี้ และการ Breakout ของราคา เพื่อหาทิศทางที่ชัดเจน

– นักลงทุนที่ถือ Long Position 

ลงซื้อขึ้นขาย เก็งกำไรระยะสั้นๆในกรอบ ควรบริหารพอร์ตสมดุล หากราคา Break เหนือ 1,770 เหรียญ มีโอกาสหนุนทองขึ้นได้ต่อ

– นักลงทุนที่ถือ Short Position

เน้นเล่นสั้น ทำกำไรในกรอบ ควรบริหารพอร์ตรอความชัดเจนคืนนี้ หากราค Break หลุดต่ำกว่า 1,745 เหรียญ มีแนวโน้มบ่งชี้ภาวะขาลงมากขึ้น

Gold Futures 10V21 จะมีแนวรับที่ระดับ 28,100 บาท และแนวต้านที่ระดับ 28,400 บาท

ที่มา : gold.in.th ( 8 ต.ค. 64 )

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.