ราคาทองวันนี้ ข่าวทองคำ

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 21 ต.ค.64 by HGF, GT, SCT, YLG

586

- Advertisement -

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองคำปรับขึ้น เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง

คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญหลายตัว

ทองคำคาดจะปรับขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ1,800 ดอลลาร์

  • ราคาทองคำ Spot เมื่อวานปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เนื่องจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงโดยรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด12 เขตในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจสหรัฐเติบโตชะลอตัวลง โดยได้รับผลกระทบจากภาวะติดขัดด้านห่วงโซ่อุปทานราคาพลังงานและค่าขนส่งที่สูงขึ้น การขาดแคลนแรงงาน ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวานติดต่อกันเป็นวันที่ 3
  • คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญหลายตัว ซึ่งตลาดคาดจะออกมาทั้งดีและไม่ดี ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 298,000 รายจากที่สัปดาห์ก่อนหน้านี้อยู่ที่ระดับ 293,000 รายดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนต.ค.ตลาดคาดจะลดลงสู่ระดับ 25.1 จากระดับ 30.7 ในเดือนก.ย. ดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือนก.ย.โดย conference Boardตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 0.4%ชะลอตัวลงยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.10 ล้านยูนิต จากระดับ 5.88ล้านยูนิตในเดือนส.ค.
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดจะปรับขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ1,800 ดอลลาร์ได้ในระยะถัดไปโดยมีแนวต้าน1,790 ดอลลาร์และ 1,800 ดอลลาร์ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,770 ดอลลาร์และแนวรับสำคัญ1,760 ดอลลาร์ซึ่งเป็นแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน

ราคาทองตลาดโลก

- Advertisement -

Closechg.SupportResistance
1,781.60+12.41,770/1,7601,790/1,800

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,100+5028,000/27,85028,250/28,350

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,300+10028,140/28,00028,440/28,510

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำถือต่อไป (Let Profit Run) เพื่อขายทำกำไรบางส่วนที่ราคาทอง Spot1,800ดอลลาร์(GF28,510 บาท) การเปิดสถานะซื้อรอบใหม่รอให้ราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,770ดอลลาร์ (GF28,140 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,760 ดอลลาร์ (GF28,000 บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,787.30+6.501,773/1,7631,793/1,803

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำถือต่อไป (Let Profit Run) เพื่อขายทำกำไรบางส่วนที่ราคา GOZ211,803ดอลลาร์การเปิดสถานะซื้อรอบใหม่แนะนำเข้าซื้อที่ราคา GOZ211,773ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,763ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ33.20-33.50 บาท/ดอลลาร์ทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยนักลงทุนเทขายเงินดอลลาร์ที่เป็นเงินสกุลปลอดภัย และเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐต่อเนื่องเป็นวันที่ 2หลังจากธนาคารกลางอังกฤษส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายโดยUSD Futures เดือนธ.ค.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 33.20 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน33.50บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลลาร์อ่อนค่าจากแรงขายสกุลเงินปลอดภัย

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (20 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยและเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าติดต่อกันวันที่ 2 หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.18% แตะที่ 93.5626 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดบวก $14.4 รับดอลล์อ่อน-แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (20 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์นอกจากนี้ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่เกิดขึ้นทั่วโลกยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 14.4 ดอลลาร์หรือ 0.81% ปิดที่ระดับ 1,784.9 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 56.2 เซนต์หรือ 2.35% ปิดที่ 24.445 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดบวก 91 เซนต์รับสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เมื่อคืนที่ผ่านมา (20 ต.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงในสัปดาห์ที่แล้วสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่งทั้งนี้สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 91 เซนต์หรือ 1.1% ปิดที่ 83.87 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. 2557 สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 74 เซนต์หรือ 0.9% ปิดที่ 85.82 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. 2561

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดบวก 152.03 จุดรับผลประกอบการสดใส-บิตคอยน์พุ่ง

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนที่ผ่านมา (20 ต.ค.) ขณะที่ดัชนีS&P500 ทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 6 เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรวมทั้งการพุ่งขึ้นของราคาบิตคอยน์ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,609.34 จุดเพิ่มขึ้น 152.03 จุดหรือ +0.43%, ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,536.19 จุดเพิ่มขึ้น 16.56 จุดหรือ +0.37% และดัชนีNasdaqปิดที่ 15,121.68 จุดลดลง 7.41 จุดหรือ -0.05%

สหรัฐฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนแล้วกว่า 400 ล้านโดส

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเปิดเผยว่าสหรัฐได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชาชนในประเทศไปแล้วทั้งสิ้น 409,438,987 โดสณวันอังคารที่ 19 ต.ค. และกระจายวัคซีนออกไปแล้ว 495,844,635 โดสตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากที่ฉีดไป 408,797,942 โดสเมื่อวันที่ 18 ต.ค. จากที่กระจายวัคซีนออกไป 494,655,075 โดส   CDC ระบุว่ามีประชากร 219,161,368 คนได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดสขณะที่ 189,487,793 คนได้รับวัคซีนครบโดสแล้วยอดรวมวัคซีนดังกล่าวนับรวมวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แบบ 2 โดสของโมเดอร์นาและไฟเซอร์/ไบออนเทครวมถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แบบ 1 โดสของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันทั้งนี้ประชากรมากกว่า 10.9 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์หรือวัคซีนของโมเดอร์นาโดสที่ 3 แล้วตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค. เมื่อสหรัฐอนุญาตให้ฉีดวัคซีนโดสที่ 3 ให้แก่ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอเนื่องจากมีแนวโน้มว่าการฉีดวัคซีนเพียง 2 โดสอาจสร้างภูมิคุ้มกันได้ไม่เพียงพอ

เกาหลีเหนือยืนยันทดสอบยิงขีปนาวุธรุ่นใหม่จากเรือดำน้ำขณะสหรัฐย้ำพร้อมเปิดเจรจา

เกาหลีเหนือยืนยันว่าขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือยิงทดสอบเมื่อวานนี้เป็นขีปนาวุธที่ยิงจากเรือดำน้ำ (SLBM) ขณะที่นักวิเคราะห์ระบุว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเกาหลีเหนือมีเป้าหมายที่จะนำเรือดำน้ำติดขีปนาวุธออกปฏิบัติการให้เร็วขึ้นทางด้านสำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันถึงการทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้หลังจากที่กองทัพเกาหลีใต้แสดงความเชื่อมั่นว่าเกาหลีเหนือได้ทดสอบขีปนาวุธSLBM ทางชายฝั่งตะวันออกและนับเป็นการทดสอบยิงครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา   KCNA ยังระบุว่าขีปนาวุธSLBM ที่ยิงเมื่อวานนี้เป็นรุ่นใหม่และถูกยิงออกจากเรือดำน้ำลำเดียวกันที่ใช้ในการทดสอบยิงขีปนาวุธรุ่นเก่าเมื่อปี2559      ขณะที่ทำเนียบขาวได้เตือนให้เกาหลีเหนือหลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุโดยนางเจนซากีโฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่าสหรัฐยังคงเปิดโอกาสที่จะร่วมมือทางการทูตกับเกาหลีเหนือในประเด็นด้านโครงการอาวุธอย่างไรก็ดีจนถึงขณะนี้รัฐบาลเกาหลีเหนือยังคงปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวพร้อมกล่าวหาว่าแม้สหรัฐและเกาหลีใต้จะเจรจาตามแนวทางทางการทูตแต่กลับสร้างแรงตึงเครียดด้วยการร่วมซ้อมรบทางทหาร

สภาผู้แทนสหรัฐจ่อเอาผิดผู้ช่วยทรัมป์เหตุไม่ยอมร่วมมือในการสอบสวนเหตุจลาจล6ม.ค.

คณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่สืบสวนเหตุการณ์จลาจลเมื่อวันที่6ม.ค. ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์เพื่อรับรองรายงานที่แนะนำให้ดำเนินคดีกับนายสตีฟแบนนอนอดีตหัวหน้านักยุทธศาสตร์ของทำเนียบขาวและผู้ช่วยคนสนิทของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ในข้อหาขัดขวางการทำงานของสภาคองเกรสคณะกรรมการดังกล่าวซึ่งประกอบด้วยสมาชิกพรรคเดโมแครต7คนและสมาชิกพรรครีพับลิกัน2คนลงมติรับรองรายงานที่เสนอให้ดำเนินคดีกับนายแบนนอนด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์9ต่อ0คะแนนโดยระบุว่าเป็นเรื่อง “น่าตกใจอย่างยิ่ง” ที่นายแบนนอนไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งศาลที่ร้องขอเอกสารและคำให้การการรับรองรายงานของคณะกรรมการจะเปิดทางให้สมาชิกสภาผู้แทนทั้งหมดสามารถร่วมลงมติรับรองรายงานเดียวกันได้เพื่อแนะนำให้ตั้งข้อหาขัดขวางการทำงานของสภาผู้แทนกับนายแบนนอนนายเบนนี่ธอมป์สันประธานคณะกรรมการสภาผู้แทนในครั้งนี้กล่าวว่า “ช่างน่าเศร้าที่คุณแบนนอนบังคับให้เราต้องทำเช่นนี้แต่เราจะไม่ยอมรับคำปฏิเสธ”  

โดย : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

Fundamental

  • สหรัฐฯหนุนประชาชนฉีดวัคซีนสูตรไขว้
  • รัสเซียเตรียมปิดภาคธุรกิจเพื่อสกัดโควิดระบาดในช่วงสัปดาห์แรกของเดือน พ.ย.
  • ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์
  • ภาคอสังหาฯจีนยังน่าห่วง หลังดีลเทคโอเวอร์เอเวอร์แกรนด์บางส่วนล้มเหลว ทำให้บริษัทยังคงขาดสภาพคล่องอย่างหนัก

Technical

  • ราคาอยู่ในกรอบระยะสั้น 1,760-1,800 แต่ว่าทิศทางในระยะกลางยังไม่แน่นอน แม้ว่าทางบวกจะดูได้เปรียบกว่า แต่ก็มีโอกาสจะลงไปย้ำ 1,720 เช่นกัน
  • ราคาขึ้นสูงอีกครั้ง แต่ยังขาดแรงส่งทางปัจจัยพื้นฐานให้ขึ้นไปอยู่เหนือ 1,800 จึงยังคงมองว่าจะวิ่งอยู่ในช่วงที่ถูกจำกัดเหมือนเดิม
  • ทิศทางวันนี้ผันผวนในกรอบจำกัด
  • จับจังหวะเล่นยังไง?ลงซื้อ ขึ้นขายเน้นจบในวัน

Attention

หลายประเทศกำลังประสบปัญหาขาดแคลนพลังงาน ดันให้ราคาโภคภัณฑ์สำคัญที่เกี่ยวข้องขึ้นสูงต่อเนื่อง ทำให้เกิดความกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้า

โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

เงินเฟ้อดันทองกลับมาลุ้นทะลุ 1800 จับตาตัวเลขเศรษฐกิจคืนนี้
 
แนวรับ 1775/ 1770 / 1760  แนวต้าน 1790|1800|1815
              Gold/silver           USD                       Baht        DOW (stock)
ระยะสั้น    SW UP     SW  DOWN/SW         SW             SW 

ระยะกลาง  SW UP           SW                     SW              SW UP
ระยะยาว BULLISH              Neutral            NEUTRAL         BULLISH
คำแนะนำรายวัน SIDEWAY UP 1765-1810
จุดเข้า BUY 1765-77
เป้าหมาย 1800-30
SL 1750รายสัปดาห์
คำแนะนำรายเดือน 1750-1835
จุดเข้า BUY 1750-80 เป้าหมาย 1830/ 1850
SL 1739   

บทวิเคราะห์ : ความกังวลเงินเฟ้อดันราคาทองจ่อขึ้นมาเทส $1800 อีกวาระ หลังราคาบิตคอยน์ทำ NEW HIGH และค่าเงินสหรัฐฯปิดแดนลบ ภาพรวมทางเทคนิคเมื่อวานนี้ทองกลับมาปิดแดนบวกส่งสัญญาณดีขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าราคาทองน่าจะมีลุ้นไปต่อแบบ SIDEWAY UP โดยเฉพาะการทะลุ $1800 จะดึงดูดแรงซื้อตามและเปลี่ยนมุมมองเป็นขาขึ้นได้ ให้จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯในคืนนี้ คำแนะนำยังเอียงไปทางฝั่งซื้อ โดยเฉพาะการย่อตัวเบาๆ และวางจุดหนีที่ $1750 ไม่ชอตตลาด คาดว่าคืนนี้น่าจะเห็นภาพที่ชัดชึ้น

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

ลุ้นราคาอาจขึ้นไปทดสอบแนวต้านโซนที่ 1,789-1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนไม่ได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา เมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงจะมีแนวรับบริเวณ 1,766-1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,760 1,747 1,731  แนวต้าน : 1,792 1,808 1,821

จจัยพื้นฐาน :

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ช่วงต้นวัน  ราคาทองคำทะยานขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันบริเวณ  1,766 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยได้รับแรงหนุนจากดัชนีดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง 0.20% แตะที่ 93.541 จากแรงเทขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย และเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงและสกุลเงินสินค้าโภคภัณฑ์ นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการที่ธนาคารกลางทั่วโลกมีแนวโน้มเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่สูงอย่างต่อเนื่อง  ปัจจัยดังกล่าวหนุนให้ราคาทองคำทะยานขึ้นทดสอบระดับสูงสุดในระหว่างวันบริเวณ  1,788.33 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ก่อนที่ราคาทองคำจะอ่อนตัวลงจากแรงขายทำกำไร  นอกจากนี้  ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ10ปีที่พุ่งขึ้นแตะ1.673% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่20พ.ค. จากแรงขายพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่งหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2ขณะที่ดีมานด์ในการประมูลพันธบัตรอายุ20ปีเป็นไปอย่างอ่อนแอจึงเป็นปัจจัยหนุนบอนด์ยีลด์เพิ่มเติม  อีกทั้งบิตคอยน์พุ่งขึ้นทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลจนแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่เหนือ67,000 ดอลลาร์ขานรับการเปิดตัวกองทุน ETF บิตคอยน์เป็นครั้งแรกในตลาดหุ้นนิวยอร์ก จนเป็นปัจจัยบั่นทอนเม็ดเงินเก็งกำไรจากตลาดทองคำ  สถานการณ์ดังกล่าวเป็นปัจจัยสกัดช่วงบวกราคาทองคำเอาไว้  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจจากเฟดฟิลาเดลเฟีย, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจจาก CB และยอดขายบ้านมือสอง

ปัจจัยทางเทคนิค :

ระยะสั้นหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือโซน 1,772 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีโอกาสที่ราคาจะขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,789-1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำหลุดโซนดังกล่าวราคามีโอกาสปรับตัวลงไปหาแนวรับโซน1,766-1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

เปิดสถานะขาย  หากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,789-1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอเข้าซื้อเพื่อทำกำไรหากการอ่อนตัวลงสามารถยืนเหนือโซน 1,766-1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยสถานะขายตัดขาดทุนหากราคาดีดตัวขึ้นแรงผ่าน 1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสินเชื่อจำนองลดลงสัปดาห์ที่แล้ว เหตุดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นสมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 6.3% ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ปรับตัวขึ้น  จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์ลดลง 7% ในสัปดาห์ที่แล้ว และดิ่งลง 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว  ส่วนจำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยลดลง 5% ในสัปดาห์ที่แล้ว และร่วงลง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  • (+) ดอลลาร์อ่อนค่าจากแรงขายสกุลเงินปลอดภัยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย และเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าติดต่อกันวันที่ 2 หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.18% แตะที่ 93.5626 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 114.20 เยน จากระดับ 114.30 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9188 ฟรังก์ จากระดับ 0.9226 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2315 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2359 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1655 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1640 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3832 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3799 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7521 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7478 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 152.03 จุด รับผลประกอบการสดใส-บิตคอยน์พุ่งดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 6 เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งการพุ่งขึ้นของราคาบิตคอยน์  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,609.34 จุด เพิ่มขึ้น 152.03 จุด หรือ +0.43%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,536.19 จุด เพิ่มขึ้น 16.56 จุด หรือ +0.37% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,121.68 จุด ลดลง 7.41 จุด หรือ -0.05%
  • (-) อย.สหรัฐฯ อนุมัติวัคซีนบูสเตอร์ โมเดอร์นา-จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ (FDA) อนุมัติการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน หรือ บูสเตอร์ ของโมเดอร์นา (Moderna) และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson) พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนให้ชาวอเมริกันเลือกฉีดวัคซีนเข็มเพิ่มเติมที่แตกต่างจากวัคซีนโดสแรกได้ สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานคำสั่งอนุมัติของ FDA ที่มีออกมาในช่วงเย็นวันพุธตามเวลาในสหรัฐฯ ซึ่งจะช่วย ให้ผู้คนอีกนับล้านในสหรัฐฯ สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มเพิ่มเติม เพื่อต่อสู้กับการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่มีความสามารถแพร่กระจายตัวได้สูง และทำให้มีผู้ที่รับวัคซีนครบโดสไปก่อนหน้ากลายมาเป็นผู้ป่วยโควิด-19 ได้เป็นจำนวนมากแล้ว
  • (-) บิตคอยน์พุ่งไม่หยุดใกล้ทะลุ $67,000 จ่อแตะ 2,250,000 บาท หลังทุบ all time highบิตคอยน์พุ่งขึ้นใกล้ทะลุระดับ 67,000 ดอลลาร์ จ่อแตะ 2,250,000 บาทในวันนี้ หลังทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล ขานรับคำกล่าวของนายพอล ทิวดอร์ โจนส์ ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ ซึ่งระบุว่า เขาชื่นชอบบิตคอยน์มากกว่าทองคำในฐานะเครื่องมือประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ  นอกจากนี้ บิตคอยน์ยังได้ปัจจัยบวกจากการเปิดตัวกองทุน ETF บิตคอยน์เป็นครั้งแรกในตลาดหุ้นนิวยอร์กวานนี้  ณ เวลา 21.51 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์พุ่งขึ้น 4.14% สู่ระดับ 66,932.50 ดอลลาร์ ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase
  • (-) ผู้จัดการกองทุนชื่อดังยอมรับชื่นชอบบิตคอยน์มากกว่าทองคำนายพอล ทิวดอร์ โจนส์ ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ กล่าวว่า เขาชื่นชอบบิตคอยน์มากกว่าทองคำในฐานะเครื่องมือประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ  “ผมชอบบิตคอยน์มากกว่าทองคำในขณะนี้ โดยบิตคอยน์สามารถเอาชนะทองคำได้อย่างชัดเจน” นายโจนส์กล่าวในรายการ “Squawk Box” ของสถานี CNBC  นอกจากนี้ นายโจนส์เปิดเผยว่า เขาถือครองสกุลเงินดิจิทัลไม่ถึง 10% ในพอร์ทการลงทุนของเขาขณะเดียวกัน นายโจนส์กล่าวว่า เขามีความกังวลต่อเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อตลาดการเงินของสหรัฐ รวมทั้งต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

ที่มา : gold.in.th ( 21 ต.ค. 64 )

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.