ราคาทองวันนี้ ข่าวทองคำ

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 29 ต.ค.64 by SCT, HGF, GT, YLG, TDC, GCAP

541

- Advertisement -

โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

คำแนะนำ : GDP แย่ลาก USD ร่วงแต่ทองผันผวน คืนนี้รอดัชนีเงินเฟ้อ PCE
    
แนวรับ 1790/ 1783 / 1775  แนวต้าน 1807|1813|1830
              Gold/silver           USD                       Baht        DOW (stock)
ระยะสั้น    SW UP /SW        SW  DOWN      SW                SW 

ระยะกลาง  SW UP                 SW                     SW               SW UP
ระยะยาว BULLISH              Neutral              WEAK          BULLISH
คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS 1785-1813
จุดเข้า BUY 1780-90
เป้าหมาย 1830
SL 1770รายสัปดาห์
คำแนะนำรายเดือน 1750-1835
จุดเข้า BUY 1750-80 เป้าหมาย 1830/ 1850
SL 1739   

บทวิเคราะห์ : เมื่อคืนนี้ GDP สหรัฐฯออกมาแย่กว่าที่คาดฉุดค่าเงิน USD ร่วงแรง แต่ทองพลาด กลับเลือกผันผวนแทนที่จะพุ่งทะยาน อาจเพราะปธ. ECB แถลงว่ามุมมองเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในยูโรโซนสูงสุดในรอบปีเป็นแค่ช่วงสั้น  ปีหน้าจะปรับลดลงซึ่งเหมือนที่ FEDอ้าง / ภาพรวมทองยังต้องลุ้นหนักเพราะยืนประคอง $1800 ไม่แน่นพอ คืนนี้ถ้าดัชนีเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯประกาศออกมาแล้วทองไม่เป็นขาขึ้นแรงๆอาจจะต้องระวังการพักฐาน ดังนั้นราคาปิดตลาดคืนนี้ค่อนข้างสำคัญต่อภาพระยะกลาง ที่สำคัญกลางสัปดาห์หน้าเฟดจะประกาศลดวงเงิน QE ครั้งแรก น่าจะพาตลาดทองแกว่งแรงหรือวิ่งเลือกข้าง
กลยุทธ์ : ทองยังอยู่เหนือเส้น UPTREND ถือว่าดี โดยมีจุดเปลี่ยนที่แนวรับ $1782-85 ที่ห้ามหลุด เดี่ยวจะเสียทรงขาขึ้น คำแนะนำยังเทไปทางฝั่งซื้อ แม้จะอึดอัดที่ขึ้นไปก็เจอค้อนทุบ หรือจะเทรดกลยุทธ์ย่อซื้อขึ้นขายไปก่อน ตามกรอบที่ให้ไว้

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

- Advertisement -

ทองคำปรับขึ้น จีดีพีไตรมาส 3 ของสหรัฐเติบโตเพียง 2.0%

คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาPCE พื้นฐานเดือนก.ย.

ทองคำคาดจะเริ่มมีแรงเทขายทำกำไรที่ 1,813 ดอลลาร์

  • ราคาทองคำ Spot เมื่อวานปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2โดยได้ปัจจัยหนุนจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและจีดีพีไตรมาส 3 ของสหรัฐเติบโตเพียง 2.0% ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเติบโต 2.8% และเป็นอัตราการขยายตัวที่ต่ำที่สุดในรอบกว่า 1 ปีหลังจากที่ไตรมาส 2 เติบโต 6.7% โดยได้รับผลกระทบจากปัญหาห่วงโซ่อุปทาน การซื้อสินค้าของผู้บริโภคที่ลดลงส่วนการประชุมธนาคารกลางยุโรปมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ทางด้านกองทุน SPDRขายทองคำ 0.87ตันเมื่อวาน
  • คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาPCE พื้นฐานเดือนก.ย. ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือนต.ค.ตลาดคาดจะลดลงสู่ระดับ 63.6 จากระดับ 64.7 ในเดือนก.ย.ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ของมหาวิทยาลัยมิชิแกนตลาดคาดจะทรงตัวที่ระดับ 71.4
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ และอาจจะเริ่มมีแรงเทขายทำกำไรที่1,813 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนรอดูผลการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้าว่าเฟดจะประกาศปรับลดวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่ ระยะสั้นทองคำมีแนวต้าน 1,813ดอลลาร์และ 1,820 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,780 ดอลลาร์และ 1,770 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,798.20+2.51,780/1,7701,813/1,820

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,350+15028,050/27,95028,450/28,500

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,460-2028,230/28,08028,600/28,670

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำขายทำกำไรที่ราคาทอง Spot1,813 ดอลลาร์ (GF 28,600 บาท) การเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นแนะนำเมื่อราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,780 ดอลลาร์ (GF 28,230บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,770 ดอลลาร์ (GF28,080 บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,800.20+1.001,782/1,7721,815/1,822

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำขายทำกำไรที่ราคา GOZ211,815 ดอลลาร์การเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นแนะนำเมื่อราคา GOZ21 ปรับลงมาที่ 1,782 ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,772 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะทรงตัว ทั้งนี้เงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากธนาคารกลางยุโรปมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับการถอนนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ขณะที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังสหรัฐเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปีโดยUSD Futures เดือนธ.ค.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 33.15บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน33.40บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ยูโรแข็งค่าขานรับECB คงดอกเบี้ยตามคาด

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (28 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวานนี้ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับการถอนนโยบายผ่อนคลายทางการเงินขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆหลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ที่ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.49% แตะที่ 93.3484 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดบวก $3.8 เหตุจีดีพีซบเซาหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นมายืนที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์ได้อีกครั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา (28 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ที่ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปีนอกจากนี้การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยดึงดูดแรงซื้อทองคำทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.8 ดอลลาร์หรือ 0.21% ปิดที่ 1,802.6 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 7.1 เซนต์หรือ 0.29% ปิดที่ 24.12 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดบวก 15 เซนต์นลท.ช้อนซื้อหลังราคาร่วงหนัก

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (28 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อหลังจากราคาน้ำมันร่วงลงกว่า 2% เมื่อวันพุธที่ผ่านมาขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 4 พ.ย.นี้ทั้งนี้สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 15 เซนต์หรือ 0.2% ปิดที่ 82.81 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 26 เซนต์หรือ 0.3% ปิดที่ 84.32 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 239.79 จุดรับผลประกอบการแข็งแกร่ง

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา (28 ต.ค.) ขณะที่ดัชนีS&P500 และNasdaqปิดทำนิวไฮขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนซึ่งรวมถึงบริษัทเมอร์คแอนด์โคและฟอร์ดมอเตอร์โดยผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทเหล่านี้ได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปีดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,730.48 จุดเพิ่มขึ้น 239.79 จุดหรือ +0.68% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,596.42 จุดเพิ่มขึ้น 44.74 จุดหรือ +0.98% ดัชนีNasdaqปิดที่ 15,448.12 จุดเพิ่มขึ้น 212.28 จุดหรือ +1.39%

ที่ปรึกษาเอเวอร์แกรนด์ดอดเจรจากลุ่มผู้ถือหุ้นกู้เล็งหารือประเด็นหนี้สิน

ที่ปรึกษาของไชน่าเอเวอร์แกรนด์กรุ๊ปและกลุ่มผู้ถือหุ้นกู้ในต่างประเทศได้ร่วมเจรจาในประเด็นหนี้สินของบริษัทหลังจากที่เอเวอร์แกรนด์เผชิญกับวิกฤตสภาพคล่องสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานในวันพุธ (27ต.ค.) ว่าHoulihan Lokey Inc และAdmiralty Harbour Capital ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของเอเวอร์แกรนด์ร่วมด้วยMoelis & Co และKirkland & Ellis ที่ปรึกษาของกลุ่มผู้ถือหุ้นกู้ในต่างประเทศได้ลงนามในข้อตกลงที่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเพื่อเตรียมการสำหรับการเจรจาขั้นต่อไปบรรดาที่ปรึกษาเตรียมที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเอเวอร์แกรนด์ในหลายประเด็นรวมถึงสถานะของโครงการต่างๆสภาพคล่องของบริษัทและการประเมินมูลค่าทรัพย์สินหลังจากที่ความพยายามก่อนหน้านี้ได้ถูกปฏิเสธทั้งนี้เอเวอร์แกรนด์กำลังเผชิญกับภาระหนี้สินมากกว่า3แสนล้านดอลลาร์ซึ่งประเด็นดังกล่าวได้สร้างความหวาดวิตกให้กับตลาดทั่วโลก

ผู้ว่าฯBOJ เผยเงินเยนอ่อนค่าเทียบดอลลาร์แต่ไม่กระทบเศรษฐกิจญี่ปุ่น

นายฮารุฮิโกะคุโรดะผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ว่าสกุลเงินเยนอ่อนค่าเมื่อเทียบสกุลเงินดอลลาร์แต่ก็ได้ยืนยันว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่นนายคุโรดะกล่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมกำหนดนโยบายเป็นเวลา2วันว่าการที่เงินเยนอ่อนค่าลงนั้นจะเป็นผลดีกับผู้ส่งออกรวมถึงสร้างอิทธิพลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจในภาพรวม  “การที่เงินเยนอ่อนค่าลงนั้นเป็นผลดีกับภาคการส่งออกและผลกำไรของบริษัทลูกของญี่ปุ่นในต่างแดนซึ่งจะบดบังผลกระทบในเชิงลบจากต้นทุนการนำเข้าที่สูงขึ้น” นายคุโรดะกล่าว “ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันและเงื่อนไขด้านราคาการอ่อนค่าของเงินเยนจึงมีผลดีมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย”ทั้งนี้นายคุโรดะเน้นย้ำว่าอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจะต้องสะท้อนถึงรากฐานของเศรษฐกิจและเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพอนึ่งธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อสำหรับปีงบการเงินที่สิ้นสุดในเดือนมี.ค. และยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษต่อไป

อิหร่านยันกลับเข้าร่วมโต๊ะเจรจานิวเคลียร์อีกครั้งก่อนสิ้นเดือนพ.ย.

นายอาลีบาเกรีกานีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านเปิดเผยว่าอิหร่านจะกลับเข้าร่วมการเจรจากับประเทศตะวันตกอีกครั้งเกี่ยวกับการจำกัดโครงการนิวเคลียร์ภายในสิ้นเดือนพ.ย. ซึ่งสร้างความหวังว่าจะมีการฟื้นฟูการเจรจาที่หยุดชะงักไปตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมานายบาเกรีกานีระบุทางทวิตเตอร์ว่าอิหร่านได้ตกลงที่จะเริ่มการเจรจาเกี่ยวกับการฟื้นฟูข้อตกลงนิวเคลียร์ปี2558หลังจากได้พูดคุยกันอย่างจริงจังและสร้างสรรค์กับนายเอนริเกโมราผู้เจรจาของสหภาพยุโรป (EU)รายงานระบุว่านายบาเกรีกานีได้เข้าพบนายโมราที่กรุงบรัสเซลส์ในสัปดาห์นี้เพื่อหารือถึงการกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้งนอกจากนี้นายบาเกรีกานีระบุว่าจะมีการประกาศวันเจรจาที่แน่นอนตามมาภายในหนึ่งสัปดาห์แต่ไม่ได้ระบุว่าใครจะเข้าร่วมการเจรจาซึ่งก่อให้เกิดข้อสงสัยว่าสหรัฐจะเข้าร่วมการเจรจาด้วยหรือไม่ทั้งนี้ยังไม่มีการตอบรับจากคณะบริหารของประธานาธิบดีโจไบเดนผู้นำสหรัฐซึ่งได้พยายามที่จะเริ่มการเจรจารอบใหม่เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน

โดย : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

Fundamental

  • สหรัฐฯเผย GDP ไตรมาส 3 ขยายตัวต่ำสุดรอบกว่า 1 ปี หลังโตแค่2%
  • สหรัฐฯเผยยอดผู้ขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงแตะระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด
  • ความต้องการทองคำทั่วโลกไตรมาส 3 ลดลงแตะระดับต่ำที่สุดในรอบ 1 ปี
  • ECB คงนโยบายการเงินทั้งหมด สวนทางเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 13 ปี

Technical

  • ราคาสวิงผันผวน แต่ยังดูอ่อนแอ และขาดทิศทางที่ชัดเจน
  • ราคาแกว่งคาบระดับ 1,800 และพยายามยืนเหนือเส้น MA แต่ระยะสั้นหมดปัจจัยสนับสนุนให้ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งได้ต่อเนื่อง
  • ทิศทางวันนี้แกว่งแคบ
  • จับจังหวะเล่นยังไง?wait & seeรอดูสัปดาห์หน้า

Attention

  • หลายประเทศกำลังประสบปัญหาขาดแคลนพลังงาน ดันให้ราคาโภคภัณฑ์สำคัญที่เกี่ยวข้องขึ้นสูงต่อเนื่อง ทำให้เกิดความกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้า

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

เข้าซื้อหากราคาไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,790-1,787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,808-1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายไปที่แนวต้านถัดไป

แนวรับ : 1,787 1,776 1,760  แนวต้าน : 1,810 1,821 1,833

จจัยพื้นฐาน :

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัย 2 ประการ  ได้แก่  (1.) การอ่อนค่าของดอลลาร์หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ส่วนใหญ่ออกมาแย่เกินคาด  อาทิ  ตัวเลขประมาณการครั้งแรกGDP ไตรมาส 3/2021 ที่ขยายตัวเพียง 2.0% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.7% และเป็นอัตราการขยายตัวที่ต่ำที่สุดในรอบกว่า 1 ปี และตัวเลข Pending home sales ที่ลดลง 2.3% ในเดือนก.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวขึ้น  แม้ว่าตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานจะลดลงเกินคาดก็ตาม  (2.) การแข็งค่าของสกุลเงินยูโร  หลังวานนี้ธนาคารกลางยุโรป(ECB)มีมติคงอัตราดอกเบี้ยและวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์ตามคาด  ขณะที่นางคริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB  ยอมรับว่า  อัตราเงินเฟ้ออาจใช้เวลาในการปรับตัวลดลงนานกว่าที่คาดการณ์ไว้  แม้นางลาการ์ด จะระบุว่าการคาดการณ์ของตลาดในปัจจุบันที่ว่า ECB อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งในปีหน้านั้นไม่สอดคล้องกับแนวทางของ ECB อย่างไรก็ดี  นักลงทุนบางส่วนมองว่าถ้อยแถลงของประธาน ECB นั้นDovish ไม่มากพอจะเปลี่ยนแปลงการคาดการณ์ในเชิง Hawkish ในตลาด  ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยูโรแข็งค่าขึ้นเกือบ 0.7% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ และปิดแข็งค่าขึ้นในรายวันมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. จนเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ราคาทองคำทะยานขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,810.19 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ก่อนแรงขายทำกำไรและแรงขายทางเทคนิคจะลดช่วงบวกทองคำในภายหลัง  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -0.87 ตัน  สำหรับวันนี้จับตาการเปิดเผยตัวเลข Core PCE, รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคล, ดัชนี PMIเขตชิคาโก และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค จาก UoM

ปัจจัยทางเทคนิค :

หลังจากราคาทองคำดีดตัวขึ้นในระยะสั้นในช่วงที่ก่อนหน้านี้มีแรงขายทำกำไรสลับออกมาแสดงให้เห็นถึงแรงซื้อแรงขายต่อสู่กัน เบื้องต้นหากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,808-1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยนักลงทุนต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรออกมาที่อาจเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจกดดันราคาทองคำให้ลงสู่แนวรับในระดับ 1,790-1,787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้

กลยุทธ์การลงทุน :

การเข้าซื้อขายทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว อาจเสี่ยงการเปิดสถานะซื้อเพื่อลงทุนระยะสั้นในโซน1,790-1,787 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยปิดสถานะซื้อเพื่อทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวขึ้นมาในบริเวณแนวต้าน1,810-1,821 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากลงทุนหากราคาหลุด 1,787 ดอลลาร์ต่อออนซ์)

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ยูโรแข็งค่า ขานรับ ECB คงดอกเบี้ยตามคาดยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับการถอนนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ที่ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.49% แตะที่ 93.3484 เมื่อคืนนี้  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1683 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1608 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3787 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3745 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7538 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7524 ดอลลาร์สหรัฐดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.46 เยน จากระดับ 113.77 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9118 ฟรังก์ จากระดับ 0.9173 ฟรังก์
  • (+) สหรัฐเผยดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายร่วงลงในเดือนก.ย.สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 2.3% สู่ระดับ 116.7 ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าดัชนีปรับตัวขึ้นในเดือนก.ย.  การทำสัญญาขายบ้านลดลงทุกภูมิภาค โดยถูกกดดันจากราคาบ้านในระดับสูง และการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง  เมื่อเทียบรายปี ดัชนีร่วงลง 8.0% ในเดือนก.ย.
  • (+) สหรัฐเผย GDP Q3/64 โตเพียง 2.0% ขยายตัวต่ำสุดรอบกว่า 1ปีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2564 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวเพียง 2.0% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.7%  การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 3 ถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่ที่เผชิญภาวะหดตัว 31.2% ในไตรมาส 2 ของปี 2563  ก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจกิจสหรัฐเติบโต 6.7% ในไตรมาส 2 และ 6.3% ในไตรมาส 1
  • (+) อินเดียทดสอบ ‘ขีปนาวุธอัคนี’ แบบติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ ท่ามกลางความตึงเครียดกับจีนสำนักข่าวเอพีรายงานว่า อินเดียได้ทำการทดสอบขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยไกลข้ามทวีป แบบที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ ท่ามกลางความตึงเครียดด้านพรมแดนกับจีน  แถลงการณ์ของรัฐบาลอินเดียยืนยันความสำเร็จของการทดสอบขีปนาวุธ อัคนี-5 (Agni-5) ที่ถูกยิงจากเกาะแห่งหนึ่งนอกชายฝั่งตะวันออกของอินเดีย และไปตกในอ่าวเบงกอล “ด้วยความแม่นยำในระดับสูง”  แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า การทดสอบครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของอินเดียที่ต้องการเสริมศักยภาพในการป้องกันตนเองโดยไม่รุกรานประเทศใดก่อน 
  • (-) สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดโควิด  กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง10,000 ราย สู่ระดับ 281,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2563 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ  นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 290,000 ราย และต่ำกว่า 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
  • (-) ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 239.79 จุด รับผลประกอบการแข็งแกร่งดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค และฟอร์ด มอเตอร์ โดยผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทเหล่านี้ได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,730.48 จุด เพิ่มขึ้น 239.79 จุด หรือ +0.68% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,596.42 จุด เพิ่มขึ้น 44.74 จุด หรือ +0.98% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,448.12 จุด เพิ่มขึ้น 212.28 จุด หรือ +1.39%
  • (+/-) ECB มีมติคงนโยบายการเงินตามคาด แม้เงินเฟ้อพุ่งสูงสุด 13 ปีธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันนี้ ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์  ทั้งนี้ ที่ประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%  นอกจากนี้ ECB ระบุว่า ทางธนาคารจะยังคงซื้อพันธบัตรวงเงิน 2 หมื่นล้านยูโร/เดือนภายใต้โครงการ Asset Purchase Programme (APP) และซื้อพันธบัตรในโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) จนถึงเดือนมี.ค.2565 วงเงินรวม 1.85 ล้านล้านยูโร  ECB ประกาศคงนโยบายการเงินในวันนี้ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนพุ่งแตะ 3.4% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี

โดย : บริษัท ที.ดี.ซี. โกลด์ จำกัด

GDP ของสหรัฐอเมริกออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ +2% YoYปัจจัยหลักมาจากปัญหาเรื่องของห่วงโซ่อุปทาน หลังจากประกาศตัวเลขแนวโน้มของตลาดพันธบัตรยังเป็นเช่นเดิมคือ Yield cure อายุ 2 ปีปรับตัวสูงขึ้น แต่อายุ 10 ปีปรับตัวลดลง ยังมีการประเมินว่าท่าทีของ FED จะยังเป็นแบบ Tighteningขณะที่อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจชะลอตัวลง และโดยแท้จริงแล้วยังไม่เป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเพียงในระยะสั้นเมื่อคืนนี้

โดย : บริษัท จีแคป จำกัด

แนวโน้มราคาทองคำช่วงเช้า

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับการถอนนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ที่ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี

มุมมองทองคำภาคเช้า  ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นมายืนที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์ได้อีกครั้งเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ที่ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยดึงดูดแรงซื้อทองคำ

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางยุโรปในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐจะจัดการประชุมในที่ 2-3 พ.ย.  

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีต้นทุนค่าจ้างแรงงาน  ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล  ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล  ดัชนีจัดซื้อจัดจ้างเฟด ชิคาโก  ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.มิชิแกน เป็นต้น  

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับการถอนนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ที่ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี

แนะแนวทางการลงทุน

แนวรับ 1,783-  1,777- 1,771

แนวต้าน  1,810–1,816– 1,822

ทองคำปิดบวกโดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์  นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่  หนุนทองคำขยับตัวขึ้น  นักลงทุนยังสามารถรอเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลง เล่นเก็งกำไรรอบสั้นได้

ที่มา : gold.in.th ( 29 ต.ค. 64 )

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.