ราคาทองวันนี้ ข่าวทองคำ

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 21 ธ.ค.64 by GT,SCT, HGF, MTS

671

- Advertisement -

โดย : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

Fundamental

  • วุฒิสมาชิกรัฐเวสต์เวอร์จิเนียสังกัดพรรคเดโมแครต คัดค้านร่างBuild Back Better เพิ่มสวัสดิการและลดโลกร้อนวงเงิน 1.75 ล้านล้านดอลลาร์ จึงน่าจะผ่านสภาไม่ได้ เพราะพรรครีพับลิกันน่าจะไม่ลงคะแนนให้
  • ทำให้ Goldman Sachs ลดคาดการณ์ GDP สหรัฐฯในไตรมาส 1-3 ของปี

Technical

  • ราคาถูกกดดันจากการระบาดของโควิดโอมิครอนในสหรัฐฯทำให้เงินเฟ้ออาจจะไม่สูงเท่าก่อนหน้า แต่การปรับตัวลงมายังอยู่ในลักษณะปรับฐานรอขึ้น
  • ราคาทรงตัวบริเวณกลุ่มแนวรับทั้งคู่ของเส้นMAและเส้นแนวโน้มขาลงเดิม ดังนั้น ถ้าไม่หลุด 1,785 ก็ถือว่าตรงนี้เป็นฐานรับสำคัญเพื่อขึ้นรอบใหม่

Attention

- Advertisement -

  • รัฐบาลสหรัฐฯจะมีเงินใช้จ่ายไปถึง 18 ก.พ. ปีหน้า

ดอกเบี้ยโลกมีแนวโน้มจะปรับขึ้นเร็วกว่าคาดเพราะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการอัดฉีดสภาพคล่องทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งต้องรอดูความชัดเจนว่ารอบนี้นักลงทุนจะเลือกทองคำหรือเงินคริปโตเป็น

โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

คำแนะนำ   :   ทองพักแต่บาทอ่อน&หุ้นร่วงกังวลโควิด คืนนี้ตัวเลขน้อย ราคาทอง SIDEWAYS
     
แนวรับ 1789/ 1780 / 1770  แนวต้าน 1807|1818|1832
              Gold/silver           USD                       Baht        DOW (stock)
ระยะสั้น    SW                     Sw                            SW                SW UP 
ระยะกลาง  SW UP                SW DOWN               SW               SW UP
ระยะยาว BULLISH              Neutral              WEAK          BULLISH
คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS 1778-1810
จุดเข้า BUY 1778-89
เป้าหมาย 1805-20
SL 1760รายสัปดาห์
คำแนะนำรายเดือน 1750-1900
จุดเข้า BUY 1765-80 เป้าหมาย 1870-1900
SL 1750   

บทวิเคราะห์ : ราคาทองโลกพักออกข้าง แต่ค่าเงินบาทไทยอ่อนค่าจากความกังวลโอไมครอนที่มาตามนัดติดต่อคนไทยแล้ว ตลาดหุ้นทั่วโลกตกแรงกังวลการ LOCK DOWN รอบใหม่จะฉุดเศรษฐกิจที่กำลังจะฟื้นตัว ภาพรวมทองเข้าโหมดพักฐาน ราคาแกว่งไปมาออกข้าง แต่บาทไทยก็น่าเข้าโหมดอ่อนค่าเช่นกัน ทำให้ราคาทองไทยขึ้นสองเด้ง คืนนี้มีประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯน้อย คาดว่าพรุ่งนี้และวันศุกร์ราคาจะผันผวนก่อนตลาดหยุดวันคริสมาสวันศุกร์ชดเชย
กลยุทธ์ : ทอง SIDEWAYS บาทอ่อน แนะเล่นสั้นทำรอบเล็กๆได้ ส่วนนักลงทุนระยะกลางยาวถือทองข้ามปีดีกว่า โดยอาศัยช่วงราคาลงทยอยซื้อเก็บ แล้วอนาคตไกลจะได้ค่าเงินบาทอ่อนค่าหนุนอีกแรง

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

นักลงทุนเริ่มชะลอการซื้อขายก่อนที่จะถึงวันหยุดคริสต์มาส

คืนนี้สหรัฐไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ

  • ราคาทองคำ Spot ในช่วงกลางคืนที่ผ่านมาปรับลดลงในระดับต่ำสุดที่ 1,787 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มชะลอการซื้อขายก่อนที่จะถึงวันหยุดเทศกาลต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส นอกจากนี้นักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการส่งสัญญาณของเฟดในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงจับตาการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนที่อาจจะผลักดันให้หลายประเทศกลับมาใช้มาตรการล็อกดาว์นรอบใหม่ และอาจจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ถือครองทองคำเท่าเมื่อวาน
  • คืนนี้สหรัฐไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ แต่สำหรับพรุ่งนี้ติดตามจีดีพีไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) ตลาดคาดว่าจะขยายตัวที่ 2.1%  นอกจากนี้สหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. โดย Conference Board และยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดปรับลงเล็กน้อย โดยมีแนวต้าน 1,805 ดอลลาร์ และ 1,815 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,780 ดอลลาร์ และ 1,770 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,790.51-7.421,780/1,7701,805/1,815

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,600+15028,400/28,20028,750/28,950

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,670-7028,500/28,36028,880/28,920

แนะนำเข้าซื้อเมื่อราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,780 ดอลลาร์ (GF 28,500 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,770 ดอลลาร์ (GF 28,360 บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,791.10-8.501,781/1,7711,806/1,816

แนะนำเข้าซื้อเมื่อราคา GOZ21 ปรับลงมาที่ 1,781 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,771 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ค่าเงินบาทเมื่อวานนี้อ่อนค่า เช่นเดียวกับภูมิภาค เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า นอกจากนี้ตลาดยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนภายในประเทศ ในขณะระยะสั้นทิศทางค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่า สำหรับ USD Futures เดือนธ.ค.64 คาดจะมีแนวรับที่ 33.40 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 33.80 บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ : ดอลล์อ่อนค่า วิตกโอมิครอนกระทบเศรษฐกิจ

          ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (20 ธ.ค.) ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน    ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.02% แตะที่ 96.5534

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดร่วง $10.3 หลุดระดับ $1,800 กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย

          สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงหลุดจากระดับ 1,800 ดอลลาร์เมื่อคืนที่ผ่านมา (20 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งในปีหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะถึงวันหยุดในเทศกาลคริสต์มาส   ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 10.3 ดอลลาร์ หรือ 0.57% ปิดที่ 1,794.6 ดอลลาร์/ออนซ์    สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 24.2 เซนต์ หรือ 1.07% ปิดที่ 22.291 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ น้ำมัน WTI ปิดร่วง $2.63 กังวลโอมิครอนฉุดดีมานด์น้ำมันทรุด

          สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา (20 ธ.ค.) เนื่องจากความกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะส่งผลให้ประเทศต่าง ๆ กลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์และควบคุมการเดินทาง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน    ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 2.63 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 68.23 ดอลลาร์/บาร์เรล    ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 2 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 71.52 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ ดาวโจนส์ปิดร่วง 433.28 จุด วิตกโอมิครอน-วุฒิสภาขวางแผนกระตุ้นศก.

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 400 จุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (20 ธ.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 50 วัน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนจะผลักดันให้หลายประเทศกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลที่ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.75 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนอาจถูกคว่ำในวุฒิสภาสหรัฐ    ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,932.16 จุด ลดลง 433.28 จุด หรือ -1.23%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,568.02 จุด ลดลง 52.62 จุด หรือ -1.14% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,980.94 จุด ลดลง 188.74 จุด หรือ -1.24%

“เฟาชี” คาดยอดผู้ติดเชื้อโอมิครอนจ่อเพิ่มเป็นประวัติการณ์ในฤดูหนาวนี้

          นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์ในรายการ “Meet the Press” ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี โดยระบุว่า ขณะนี้ โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้ระบาดลามไปทั่วโลกแล้ว นายแพทย์เฟาชีกล่าวว่า ปัญหาที่แท้จริงสำหรับระบบโรงพยาบาลในสหรัฐก็คือ “เรามีคนจำนวนมากในประเทศนี้ที่มีสิทธิ์ได้รับวัคซีน แต่ยังไม่ได้ไปฉีดวัคซีน”    เว็บไซต์มาร์เก็ตวอทช์รายงานว่า สถานการณ์โควิด-19 ระบาดในช่วงฤดูหนาวนี้กลับตาลปัตรจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐคาดการณ์ในแง่ดีไว้ในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา โดยปธน.ไบเดนกล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า สหรัฐจะกลับมาเป็นปกติภายในเทศกาลคริสต์มาสปีนี้   นอกจากนี้ นายแพทย์เฟาชียังพยายามแก้ต่างให้กับคำสัญญาก่อนหน้านี้ของปธน.ไบเดนในการสัมภาษณ์ในรายการ “State of the Union” ของซีเอ็นเอ็นเมื่อวานนี้อีกด้วย     “แนวคิดเกี่ยวกับความหวังและปณิธานที่จะเป็นอิสระจากโควิดหลังเวลาผ่านไปช่วงระยะหนึ่งนั้น เป็นเรื่องที่เข้าใจได้และสมเหตุสมผล แต่สิ่งหนึ่งที่เรารู้จากประสบการณ์เกือบ 2 ปีกับไวรัสตัวนี้ก็คือ มันคาดเดาไม่ได้จริง ๆ” นายแพทย์เฟาชีกล่าว    นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐ ได้โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ว่า ปธน.ไบเดนเตรียมแถลงข่าวเรื่องสถานะการสู้กับโควิด-19 ในวันพรุ่งนี้ (21 ธ.ค.) พร้อมหารือเกี่ยวกับมาตรการของรัฐบาลสำหรับชุมชนที่ต้องการความช่วยเหลือ นางซากียังกล่าวอีกว่าปธน.ไบเดนจะ “เตือนอย่างเด็ดขาดว่าฤดูหนาวนี้จะเป็นอย่างไรสำหรับคนอเมริกันที่เลือกไม่ไปฉีดวัคซีน”

ผลวิจัยเดนมาร์กชี้ ฉีดวัคซีนโมเดอร์นาเสี่ยงหัวใจอักเสบกว่าไฟเซอร์ 4 เท่า

          สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานผลการศึกษาของเดนมาร์กที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ British Medical Journal ซึ่งระบุว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของโมเดอร์นามีโอกาสทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบมากกว่าวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทคถึง 4 เท่า  การศึกษาดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมเป็นชาวเดนมาร์กอายุ 12 ปีขึ้นไปจำนวนเกือบ 85% หรือ 4.9 ล้านคน โดยตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA กับภาวะหัวใจอักเสบ (Myocarditis หรือ Myopericarditis) ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่พบได้ยาก    ผลการศึกษาดังกล่าวดำเนินการโดยนักวิจัยจากสถาบันสแตเทนส์ เซรุ่ม (Statens Serum Institute) ของเดนมาร์ก ซึ่งระบุว่า “การฉีดวัคซีนชนิด mRNA-1273 (วัคซีนโมเดอร์นา) มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงภาวะหัวใจอักเสบที่เพิ่มสูงขึ้นในประชากรเดนมาร์ก”    “โดยทั่วไปแล้ว อัตราการเกิดภาวะหัวใจอักเสบจากการฉีดวัคซีนชนิด mRNA-1273 (โมเดอร์นา) สูงกว่าการฉีดวัคซีน BNT162b2 (ไฟเซอร์/ไบออนเทค) ประมาณ 3-4 เท่า” ผลการศึกษาระบุ  ผลการศึกษาของเดนมาร์กสอดคล้องกับผลการศึกษาจากอิสราเอลและสหรัฐก่อนหน้านี้ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นของภาวะหัวใจอักเสบหลังการฉีดวัคซีนชนิด mRNA ที่พัฒนาโดยไฟเซอร์/ไบออนเทคและโมเดอร์นา   อย่างไรก็ดี ผลการศึกษาของเดนมาร์กระบุว่า การเกิดภาวะหัวใจอักเสบจากวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยี mRNA นั้น มีความเสี่ยงโดยรวมในระดับต่ำ โดยนักวิจัยพบว่ามีเพียง 1 รายต่อ 71,400 รายของผู้ที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์/ไบออนเทค และ 1 รายต่อ 23,800 รายของผู้ที่ได้รับวัคซีนโมเดอร์นา อีกทั้งส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรงอีกด้วย

วัคซีนบูสเตอร์ซิโนฟาร์มสร้างภูมิต้านทานโอมิครอนลดลง ขณะนักวิจัยยังรอความชัดเจน

          กลุ่มนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวทง (SJTU) เปิดเผยผลการทดลองครั้งล่าสุดระบุว่า วัคซีนเข็มบูสเตอร์ของบริษัทซิโนฟาร์ม (BBIBP-CorV) มีประสิทธิภาพลดลงอย่างมากในการสร้างภูมิต้านทานไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน อย่างไรก็ดี นักวิจัยกล่าวว่า  ข้อมูลเรื่องประสิทธิภาพของวัคซีนดังกล่าวยังไม่ชัดเจนมากพอ     ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวทงได้ร่วมกับหน่วยวิจัยแห่งหนึ่งที่เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อทางเดินหายใจในเซี่ยงไฮ้ เพื่อศึกษาประสิทธิภาพวัคซีนเข็มบูสเตอร์ของซิโนฟาร์มในการป้องกันไวรัสโอมิครอน โดยเปรียบเทียบกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดิมที่พบในอู่ฮั่น    เอกสารวิจัยระบุว่า ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนเข็มบูสเตอร์ของซิโนฟาร์มที่มีต่อเชื้อโอมิครอนนั้น ลดลง 20.1 เท่า เมื่อเทียบกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดิมที่อู่ฮั่น โดยนักวิจัยได้ทำการวิเคราะห์ตัวอย่างเซรุ่มที่ได้จากแพทย์ 292 คนที่ได้รับวัคซีนเข็มบูสเตอร์ห่างจากเข็มที่สองมาแล้ว 8-9 เดือน และเมื่อได้รับเข็มบูสเตอร์ผ่านไป 4 สัปดาห์พบว่า ตัวอย่างเซรุ่มจากผู้เข้าร่วมการทดลองครั้งนี้มีเพียง 78.1% ที่ยังคงมีภูมิคุ้มกันไวรัสโอมิครอนอยู่   อย่างไรก็ดี ผลการศึกษาดังกล่าวยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญของสถาบันอื่น ๆ ขณะที่บริษัทซิโนฟาร์มยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับผลวิจัยดังกล่าวในขณะนี้

โดย  : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยประมาณ 0.2% จากแถว 1,798 เหรียญ กลับมาทรงตัวยริเวณ 1,790 เหรียญ ท่ามกลางตลาดที่กังวลเรื่อง Omicron และมีหลายๆประเทศกลับมาประกาศใช้ Lockdown ซึ่งโดยภาพรวมตลาดจะเริ่มหยุดทำการและทำให้ปริมาณการซื้อขายเบาบางลง ขณะที่ช่วงนี้ยังไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญครั้งใหม่ และคืนนี้ยังไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญรอบใหม่ ทางด้าน SPDR ปัจจุบันถือครองทองคำที่ 978.57 ตัน

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 

ราคาทองคำกลับเข้าสู่สภาวะการปรับฐานอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่พยายามขึ้นไปยืนเหนือ 1,800 เหรียญ และทำให้ราคาทองคำมีโอกาสจะเคลื่อนตัว Sideways ระหว่างแนวรับ 1,785 เหรียญ และแนวต้าน 1,805 เหรียญ ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายเบาบาง และน่าจะเคลื่อนไหวกรอบ Sideways แคบๆ จนกว่าจะมีข่าวใหม่ๆ สำหรับ Gold Online Futures และ Comex Gold คาดจะมีแนวรับ 1,787 เหรียญ และแนวต้าน 1,807 เหรียญ ในภาพรวมราคาทองคำไทยวันนี้อาจยังทรงตัวหรือปรับเพิ่มขึ้น +50 บาท/บาททองคำ

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ 

แนะนำเล่นสั้น Sideways ในกรอบแคบๆ

– นักลงทุนที่ถือ Long Position  
เล่นสั้นๆ เข้าออกเร็วในวัน ควรบริหารพอร์ตสมดุลก่อนเข้าสู่วันหยุดเทศกาล

– นักลงทุนที่ถือ Short Position

เล่นสั้นๆ เข้าออกเร็วในวัน ควรบริหารพอร์ตสมดุลก่อนเข้าสู่วันหยุดเทศกาล


Gold Futures 10Z21 จะมีแนวรับที่ระดับ 28,570 บาท และแนวต้านที่ระดับ 28,900  บาท

ที่มา : gold.in.th( 21 ธ.ค. 64 )

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.