ราคาทองวันนี้ ข่าวทองคำ

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 14 ก.พ.65 by HGF, SCT, GT, TDC, GCAP, YLG, MTS

606

- Advertisement -

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองบวก สหรัฐออกมาเตือนว่ารัสเซียบุกยูเครนในช่วงนี้

สัปดาห์นี้สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค.

แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหว Sideways up   

  • ราคาทองคำ Spot เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นร้อนแรงแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงพุ่งขึ้นในระดับสูงแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี นอกจากราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากความเสี่ยงด้านความขัดแย้งในยูเครน หลังจากที่สหรัฐออกมาเตือนถึงว่ารัสเซียอาจจะเริ่มบุกยูเครนวันใดวันหนึ่งในช่วงนี้ แม้กระทั่งก่อนที่กีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่จีนเป็นเจ้าภาพจะปิดฉากลงในวันที่ 20 ก.พ.นี้ ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ซื้อทองคำสุทธิ 7.84 ตันจากสัปดาห์ก่อน
  • สัปดาห์นี้สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายเดือน จาก 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน หรือเพิ่มขึ้น 9.1% เมื่อเทียบรายปี จากเพิ่มขึ้น 9.7% เมื่อเทียบรายปี นอกจากนี้สหรัฐเปิดเผยดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์กเดือนก.พ.  ยอดค้าปลีกเดือนม.ค. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.  ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนก.พ.  การอนุญาตก่อสร้างบ้านและการเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนม.ค. ยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค. ดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือนม.ค. โดย conference Board และติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC
  • แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหว Sideways up โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,840 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปที่ 1,820 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,870 ดอลลาร์ และ 1,880 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

- Advertisement -

Closechg.SupportResistance
1,858.44+31.951,840/1,8201,870/1,880

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,700+40028,500/28,30028,800/28,950

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,860+48028,640/28,47028,950/29,080

แนะนำเข้าซื้อราคาทอง Spot ที่ 1,840 ดอลลาร์ (GF 28,640 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,820 ดอลลาร์ (GF 28,470บาท

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,831.00-3.001,842/1,8221,872/1,882

แนะนำเข้าซื้อราคา GOH22 ที่ 1,842 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,822 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ค่าเงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อย หลังจากค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องมากสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง เนื่องสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวจากเงินเฟ้อสหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี อย่างไรก็ตามแนวโน้มค่าเงินบาทคาดว่ายังคงแข็งค่า สำหรับ USD Futures เดือนมี.ค.65 มีแนวรับที่ 32.50 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 32.80 บาท/ดอลลาร์

News

ไบเดน-ปูตินคว้าน้ำเหลวกรณียูเครน หลังโทรหากันเมื่อวานนี้

          สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้โทรหากัน แต่ไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับยูเครน    เจ้าหน้าที่รายนี้กล่าวหลังผู้นำทั้งสองประเทศโทรหากันว่า “สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในระดับรากฐาน”    รายงานข่าวระบุว่า ทั้งสองได้คุยกันเป็นเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง โดยปธน.ไบเดนได้เตือนปธน.ปูตินว่า สหรัฐและชาติพันธมิตรจะคว่ำบาตรรัสเซียอย่างรุนแรง หากรัสเซียใช้กำลังทางทหารต่อไป    ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐเตือนเมื่อวันศุกร์ (11 ก.พ.) ว่า รัสเซียอาจจะเริ่มบุกยูเครนวันใดวันหนึ่งในช่วงนี้ แม้กระทั่งก่อนที่กีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่จีนเป็นเจ้าภาพจะปิดฉากลงในวันที่ 20 ก.พ.นี้  ความเห็นดังกล่าวของนายซัลลิแวนเป็นการเตือนล่าสุดจากรัฐบาลสหรัฐเกี่ยวกับการรุกรานของรัสเซียต่อยูเครน ขณะที่เชื่อว่ารัสเซียได้สั่งสมกำลังทหารมากกว่า 100,000 นายใกล้พรมแดนที่ติดกับยูเครน   “รัสเซียมีกองกำลังทั้งหมดที่จำเป็นต่อการปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่” นายซัลลิแวนกล่าว

นักวิเคราะห์จากหลายสำนักต่างพากันปรับเพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้ หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี    โกลด์แมน แซคส์คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 ครั้งในปีนี้ โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 5 ครั้ง   หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ หมายความว่า เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมทั้ง 7 ครั้งที่เหลือในปีนี้ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมี.ค.   การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 7 ครั้งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดพุ่งแตะ 1.75-2.00% ในปลายปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 0.00-0.25%      ทางด้านแบงก์ ออฟ อเมริกาคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 ครั้งในปีนี้เช่นกัน โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25%      ทั้งนี้ แบงก์ ออฟ อเมริกานับเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกที่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 ครั้งในปีนี้    ส่วนเอชเอสบีซีคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. และปรับขึ้นอีก 4 ครั้งหลังจากนั้น โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดพุ่งแตะ 1.50-1.75% ในปลายปีนี้     ทางด้านดอยซ์แบงก์คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. และปรับขึ้นอีก 5 ครั้งหลังจากนั้น โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 1.75% ในปีนี้

นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.50% เดือนหน้า หลังเงินเฟ้อพุ่ง

          นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี รวมทั้งเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งกว่าคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว   ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 88% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. จากเดิมที่เคยให้น้ำหนักเพียง 14%      นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 95% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1.00% ภายในเดือนมิ.ย. นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาเชื่อว่าเฟดยังคงสามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ย “ได้อีกมาก” โดยไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน 

โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

คำแนะนำ : ทองขึ้นเพราะข่าวยูเครน ระวังผันผวน แนะเล่นกำไรระยะสั้น
แนวรับ 1850 / 1842  / 1820 แนวต้าน 1865 |1875|1890
              Gold/silver           USD                       Baht        DOW (stock)
ระยะสั้น     SW /SW UP      SW                            SW              SW 
ระยะกลาง  SW UP/SW        SW                         SW               SW UP
ระยะยาว BULLISH              Neutral              WEAK          BULLISH
คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS 1848-75
จุดเข้า  BUY 1848-53
เป้าหมาย 1870-5
SL 1840รายสัปดาห์
คำแนะนำรายเดือน 1780- 1900
จุดเข้า BUY 1780-1810 เป้าหมาย 1875 /1900
SL 1750   

บทวิเคราะห์ : ตลาดทองร้อนระอุ ได้ข่าวดีจากเงินเฟ้อสูงขึ้นและข่าวสหรัฐฯเรียกคนอเมริกาหนีออกยูเครน เพราะเชื่อว่ารัสเชียจะบุกยูเครนเร็วๆนี้ ราคาทองพุ่งช่วงปิดตลาดวันศุกร์ทะลุแนวต้าน $1850 ได้ วันนี้หากราคาไม่ปิดต่ำกว่า $1848 ถือว่าทองจะเป็นขาขึ้น อย่างไรก็ตามการเล่นข่าวสงครามที่ความจริงมักไม่เกิดขึ้น จะนำพาความเสี่ยงและการผันผวนแรงของราคาทอง ดังนั้นสัปดาห์นี้ต้องระวังการเล่นข่าวปั่นราคา นอกจากนี้คืนวันพุธตีสอง เฟดจะมีประกาศแถลงการประชุม ( FED MINUTES) ที่อาจส่งซิกแนวทางขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต เพราะตอนนี้นักวิเคราะห์หลายคนประเมินจำนวนครั้งของการขึ้นดอกเบี้ยแตกต่างกันออกไป หากจะเร่งขึ้นดอกเบี้ยทองก็จะลง
สรุปกลยุทธ์ : ให้ระวังการแกว่งของราคาทั้งสองฝั่งแรง แนะเล่นสั้นทำกำไร หรือย่อซื้อ ขึ้นขายไปก่อน เว้นแต่ถ้าราคาปิดต่ำกว่า $1848 จะเป็นการพักฐานต่อทันที / นักลงทุนระยะกลางยาว แนะถือต่อ เว้นแต่ราคาหลุดแนวรับดังกล่าว ค่อยลดพอร์ต

โดย : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

Fundamental

  • สหรัฐฯปล่อยข่าวรัสเซียพร้อมบุกยูเครนสัปดาห์นี้
  • ขณะที่สถานทูตกลุ่มชาติพันธมิตรสหรัฐฯในยูเครนแจ้งเตือนประชาชนให้อพยพออกนอกประเทศทันที
  • ส่วนการต่อสายคุยกันระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯกับรัสเซียเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังไม่มีอะไรชัดเจน
  • ส่งผลราคาพลังงานพุ่งสูง ส่วนสินทรัพย์เสี่ยงอื่นถูกเท และเงินไหลกลับเข้าถือตราสารหนี้อีก ทำให้ตัวเลขคาดการณ์ที่ตลาดประเมินโอกาสที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค. เพี้ยนตามไปด้วย
  • โดยเช้านี้ 55% มองขึ้น 0.25% และ 45% มองขึ้น 0.5%

Technical

  • กระแสสงครามยูเครนดันราคาทองคำพุ่งแรง ถ้าสัปดาห์นี้ยังไม่มีข่าวอะไรที่ชัดเจน คาดว่าราคาจะยังยืนในระดับสูงเหนือ 1,850 ได้ต่อ
  • ราคาย่อเพื่อปรับฐานจากภาวะ overbought ถ้าเรื่องยูเครนยังไม่มีสัญญาณยืนยันแน่นอนว่ารัสเซียจะไม่รุกข้ามชายแดน ก็ไม่น่าหลุด 1,850
  • ทิศทางวันนี้ยิ่งอึมครึมก็ยิ่งขึ้น
  • จับจังหวะเล่นยังไง?ที่ follow buy มาให้ถือต่อ และรอซื้อเพิ่มเมื่อราคาย่อ

Attention

  • คืนวันพุธFOMC เผยรายงานการประชุมเดือน ม.ค. แม้ตลาดเชื่อไปแล้วว่า Fed จะต้องขึ้นดอกเบี้ย 0.5% แน่ในเดือนหน้า แต่มีกรรมการหลายคนที่ยังไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจนออกมาว่าสนับสนุนให้ขึ้นสูงกว่า 0.25%
  • รัฐบาลสหรัฐฯจะมีเงินใช้จ่ายไปถึง 18 ก.พ.
  • ดอกเบี้ยโลกมีแนวโน้มจะปรับขึ้นเร็วกว่าคาดเพราะสหรัฐฯพร้อมขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ 4 ครั้ง เพื่อกดเงินเฟ้อ ซึ่งต้องรอดูว่ารอบนี้นักลงทุนจะเลือกเงินคริปโต หรือ ทองคำ เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมากกว่ากัน

โดย : บริษัท ที.ดี.ซี. โกลด์ จำกัด

ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนเริ่มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น หลังจากรัสเซียส่งทหารประชิดชายแดนยูเครน ส่งผลทำให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นถึงแม้ตลาดการเงินจะคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของ FED โดยเฉพาะในเดือน มี.ค.มีโอกาสสูงถึง 90% ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ส่งผลให้ Bond yield ปรับตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกับค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มแข็งค่า ทำให้มองว่า ปัจจัยบวกและลบที่กำลังเข้ามากระทบ ราคาทองคำจะทำให้ความผันผวนของราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้นในสัปดาห์นี้

  

โดย : บริษัท จีแคป จำกัด

แนวโน้มราคาทองคำช่วงเช้า

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (11 ก.พ.) ขณะที่นักลงทุนมีความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน   นอกจากนี้ ดอลลาร์ได้ปรับตัวรับการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค.ขยายตัว 7.5% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 7.3% และสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2525

มุมมองทองคำภาคเช้า  ราคาทองฟิวเจอร์ ปิดวันศุกร์ (11ก.พ.)ปรับตัวขึ้นในกรอบแคบ 0.3% เพราะถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นเกินคาด   

ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ขณะที่การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

นอกจากนี้นักลงทุนยังต้องคอยติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในคืนนี้ได้แก่  ดัชนีสินค้านำเข้า  ดัชนีสินค้าส่งออก  ดัชนีราคาผู้ผลิต

ดัชนีภาคการผลิตสาขานิวยอร์ก  ยอดค้าปลีก  ดัชนีสินค้านำเข้า  ดัชนีสินค้าส่งออก  ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม  อัตราการใช้กำลังการผลิต  สินค้าคงคลังภาคธุรกิจ  ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย  รายงานการประชุมโยบายทางการเงิน  จำนวนที่อยู่อาศัยเริ่มสร้าง  ใบอนุญาติก่อสร้างที่อยู่อาศัย  จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน  ดัชนีภาคการผลิตจากเฟด  สาขาฟิลาเดลเฟีย  ยอดขายบ้านมือสอง  ดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจ เป็นต้น

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (11 ก.พ.) ขณะที่นักลงทุนมีความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน

แนะแนวทางการลงทุน

แนวรับ 1,843-  1,838- 1,833

แนวต้าน  1,867 – 1,873– 1,878

ทองคำปิดตลาดขยับตัวขึ้นช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่ขยับตัวสูงขึ้น และความตึงเครียดระหว่างรัฐเซียและชาติตะวันตกกระตุ้นแรงซื้อทองคำ นักลงทุนอาจพิจารณารอตั้งรับเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาที่แนวรับ 

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

เน้นเก็งกำไรระยะสั้น โดยเสี่ยงเปิดสถานะซื้อในโซน 1,849-1,844 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคา1,829ดอลลาร์ต่อออนซ์) ปิดสถานะซื้อทำกำไรหากราคาไม่ผ่านแนวต้านโซน 1,865-1,878 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,844 1,829 1,811  แนวต้าน : 1,865 1,878 1,894

จจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดทะยานขึ้น 31.95ดอลลาร์ต่อออนซ์ ช่วงต้นการซื้อขายทองคำปรับตัวลดลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,821.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี ก่อนที่ราคาทองคำจะทะยานขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจาก 3 ประเด็น ได้แก่ (1.) ความวิตกว่ารัสเซียจะบุกยูเครน หลังรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า รัสเซียพร้อมโจมตียูเครนได้ทุกเมื่อ พร้อมกับเรียกร้องให้ชาวอเมริกันรีบเดินทางออกจากยูเครนภายใน 48 ชั่วโมง นอกจากนี้สหรัฐได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ในสถานทูตสหรัฐในกรุงเคียฟออกจากยูเครนทันที ปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยในวงกว้าง ส่วนหนึ่งเกิดแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคำโดยตรงรวมถึงแรงซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยซึ่งฉุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาบสหรัฐอายุ 10 ปีให้ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.9112% ในวันศุกร์จนหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเพิ่ม (2.) การเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐจากม.มิชิแกนที่ปรับตัวลงเกินคาดสู่ระดับ 61.7 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2011 และ (3.) แรงซื้อตาม(Follow Buy)และซื้อตัดขาดทุนสถานะขาย (Short squeeze)หลังจากราคาทะยานขึ้นทะลุระดับสูงสุดในเดือนก่อนหน้า พร้อม Breakout กรอบบนของ Triangle ในระยะกลางซึ่งตรงกับบริเวณ 1,841-1,853 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปัจจัยที่กล่าวมาส่งผลให้ราคาทองคำทะยานขึ้นกว่า 40 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับต่ำสุดในระหว่างวันสู่ระดับสูงสุดบริเวณ 1,865.19 ดอลลาร์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม +3.48 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามถ้อยแถลงของนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดเซนต์หลุยส์

ปัจจัยทางเทคนิค :

หากราคาอ่อนตัวลงไม่ต่ำกว่าโซน 1,849-1,844 ดอลลาร์ต่อออนซ์จะทำให้ราคายังคงมีมุมมองเชิงบวกในระยะสั้น ราคาอาจเคลื่อนไหวในกรอบเพื่อทำการสร้างฐานราคา เบื้องต้นประเมินแนวต้านระยะสั้นในโซน 1,865ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวต้านสำคัญที่ 1,878 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

เสี่ยงเปิดสถานะซื้อ โดยใช้แนวรับบริเวณ 1,849-1,844ดอลลาร์ต่อออนซ์ และตัดขาดทุนหากหลุด1,829ดอลลาร์ต่อออนซ์และสำหรับนักลงทุนที่ถือสถานะซื้ออยู่ แนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรตั้งแต่ราคา 1,865-1,878ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

• (+) ไบเดน-ปูตินคว้าน้ำเหลวกรณียูเครน หลังโทรหากันเมื่อวานนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้โทรหากันเมื่อวานนี้ แต่ไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับยูเครน เจ้าหน้าที่รายนี้กล่าวหลังผู้นำทั้งสองประเทศโทรหากันว่า “สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในระดับรากฐาน” รายงานข่าวระบุว่า ทั้งสองได้คุยกันเป็นเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง โดยปธน.ไบเดนได้เตือนปธน.ปูตินว่า สหรัฐและชาติพันธมิตรจะคว่ำบาตรรัสเซียอย่างรุนแรง หากรัสเซียใช้กำลังทางทหารต่อไป

• (+) สหรัฐเตือนรัสเซียอาจเริ่มบุกยูเครนก่อนจีนปิดฉากกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐเตือนเมื่อวันศุกร์ (11 ก.พ.) ว่า รัสเซียอาจจะเริ่มบุกยูเครนวันใดวันหนึ่งในช่วงนี้ แม้กระทั่งก่อนที่กีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่จีนเป็นเจ้าภาพจะปิดฉากลงในวันที่ 20 ก.พ.นี้ นายซัลลิแวนเปิดเผยในการแถลงข่าวว่า “รัสเซียอาจเริ่มบุกยูเครนในเวลาใด ๆ ก็ตาม หากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินสั่งการ” ขณะที่รัฐบาลสหรัฐไม่ได้ระบุว่าปธน.ปูตินได้ทำการตัดสินใจขั้นสุดท้ายแล้ว

• (+) “ไบเดน” เรียกร้องชาวอเมริกันรีบเดินทางออกจากยูเครน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวเรียกร้องให้ชาวอเมริกันรีบเดินทางออกจากยูเครน ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น “ชาวอเมริกันควรเดินทางออกจากยูเครนในขณะนี้ เรากำลังเผชิญหน้ากับหนึ่งในกองทัพใหญ่ที่สุดในโลก และสถานการณ์อาจพลิกผันได้อย่างรวดเร็ว” ปธน.ไบเดนกล่าว

• (+) “บลิงเกน” เตือนรัสเซียพร้อมโจมตียูเครน แม้ในระหว่างแข่งโอลิมปิกฤดูหนาว นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า รัสเซียพร้อมโจมตียูเครนได้ทุกเมื่อ พร้อมกับเรียกร้องให้ชาวอเมริกันรีบเดินทางออกจากยูเครน “เรากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ว่าการโจมตีอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ซึ่งรวมทั้งในระหว่างที่กำลังมีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก” นายบลิงเกนกล่าวในระหว่างการเดินทางเยือนออสเตรเลียวันนี้

• (+) ผลสำรวจม.มิชิแกนชี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงต่ำสุดรอบกว่า 10 ปี ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 61.7 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2554 จากระดับ 67.2 ในเดือนม.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 67.5

• (+) ดาวโจนส์ปิดร่วง 503.53 จุด วิตกความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนฉุดตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 500 จุดเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันศุกร์ (11 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังจากที่มีความกังวลอยู่แล้วเกี่ยวกับเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,738.06 จุด ลดลง 503.53 จุด หรือ -1.43%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,418.64 จุด ลดลง 85.44 จุด หรือ -1.90% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,791.15 จุด ลดลง 394.49 จุด หรือ -2.78%

• (-) ดอลล์แข็งค่า ตลาดวิตกรัสเซียบุกยูเครน ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (11 ก.พ.) ขณะที่นักลงทุนมีความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.56% แตะที่ 96.0860 ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2739 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2717 ดอลลาร์แคนาดา, ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 115.2740 เยน จากระดับ 115.9210 เยน และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9250 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9257 ฟรังก์สวิส ส่วนสกุลเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1340 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1452 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3551 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3574 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะ 0.7126 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7170 ดอลลาร์สหรัฐ

• (-) นักวิเคราะห์แห่ปรับคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ หลังสหรัฐเผยเงินเฟ้อสูงสุด 40 ปี นักวิเคราะห์จากหลายสำนักต่างพากันปรับเพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้ หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี โกลด์แมน แซคส์คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 ครั้งในปีนี้ โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 5 ครั้ง หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ หมายความว่า เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมทั้ง 7 ครั้งที่เหลือในปีนี้ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมี.ค. การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 7 ครั้งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดพุ่งแตะ 1.75-2.00% ในปลายปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 0.00-0.25%

โดย  : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากช่วงปลายตลาด Comex ในคืนวันศุกร์ หลังจากประเด็นข่าวออกมาว่าที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ เปิดเผย มีความเป็นไปได้ที่รัสเซียอาจจะบุกยูเครนในสัปดาห์หน้า ส่งผลให้ราคาทองคำขึ้นมาในช่วงคืนวันศุกร์กว่า 30 เหรียญ โดยที่ราคาทองคำเปิดตลาดช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 1,827 เหรียญ และปรับตัวขึ้นในช่วงปลายตลาดปิดที่ 1861เหรียญ และเช้านี้ราคาทองคำยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยทรงตัวบริเวณ 1,859 เหรียญ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ยังคงมีการแกว่งตัวโดยเคลื่อนตัวระหว่าง 95.5 จุด และอ่อนค่าลงไปทำต่ำสุดที่ 95.64 จุด ก่อนจะแข็งค่าปิดที่ 96.11 จุด ขณะที่เช้านี้ดัชนีดอลลาร์อยู่ที่ 96.03 จุด ภาพรวมดัชนีดอลลาร์จากวันศุกร์แข็งค่าขึ้นมาตามลำดับ และดึงให้ค่าเงินบาทช่วงต้นตลาดอยู่ที่ระดับ 32.72 บาท/ดอลลาร์ ก่อนจะมีแรงเทขายในช่วงค่ำคืน ค่าเงินบาทเช้านี้ยีงแข็งค่าลงมาที่32.60 บาท/ดอลลาร์ ด้านสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครนยังเป็นประเด็นสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ขณะที่ยุโรป ฝรั่งเศส และเยอรมัน พยายามเป็นฑูตตัวกลางประสานระหว่าง 3 ฝ่าย ได้แก่ รัสเซีย สหรัฐฯ และนาโต้ รวมถึงสถานการณ์การระบาดโควิดของไทยยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสูงกว่า 10,000 ราย และมีแนวโน้มจะติดเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนดูจะไม่รุนแรงถึงชีวิต โดยอาการส่วนใหญ่เป็นลักษณะใกล้เคียงกับไข้หวัด ด้านกองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 3.48 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,019.44 ตัน ภาพรวมจะเห็นการเคลื่อนไหวของราคาทองคำหน่วยดอลลาร์เป็นทิศทางขาขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ราคาทองคำไทยลงไปทำต่ำสุดแถวบริเวณ 28,200 บาท/บาททองคำ และดีดกลับขึ้นมาตามสภาพของราคาทองคำตลาดโลก แต่ราคาทองคำไทยยังคงมีการเคลื่อนไหวที่แตกต่างจากราคาทองคำตลาดโลก โดยราคาทองคำใหน่วยดอลลาร์จะขึ้นได้มากกว่า และลงง่ายกว่า ขณะที่ราคาทองคำไทยจะขึ้นอยู่กับค่าเงินบาทในการปรับขึ้น

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำได้ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบที่ระดับ 1,860 เหรียญ สัญญาณทางเทคนิคทาง Indicatorเริ่มสู่แนวโน้มทิศทางขาขึ้น โดย DMI เริ่มเข้าสู่ทิศทางขาขึ้นในคืนวันศุกร์ โดยราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1,875  เหรียญ วันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ 1,840 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,871 เหรียญ กลยุทธ์การลงทุนเริ่มกลับสู่ทิศทางขาขึ้น สำหรับ Gold Comex และ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,842 เหรียญ และแนวต้าน 1,871 เหรียญ ด้านราคาทองคำไทยน่าจะเปิดปรับลง -50 บาท/บาททองค

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

เก็งกำไรตามแนวโน้มทิศทางขาขึ้นระยะสั้น แต่ยีงต้องระวังความผันผวนของราคา

– นักลงทุนที่ถือ Long Position

หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวและขายทำกำไรตามกรอบแนวต้าน

– นักลงทุนที่ถือ Short Position

ลดสถานะลงเมื่อราคาย่อตัว แต่ไม่หลุดแนวรับ

ที่มา : gold.in.th ( 14 ก.พ. 65 )

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.