- Advertisement -
มาดูบทสัมภาษณ์ที่ คุณ ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวกับเว็บข่าวทองคำ goldaround.com ถึงมุมมองราคาทองคำในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้กัน
โดยคุณ ฐิภาฯ ระบุว่า “การฟื้นตัวของราคาทองคำ จะขึ้นอยู่กับทั้งปัจจัยทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน โดยราคาทองคำในช่วงเดือน ม.ค. ก.พ. และ มี.ค. ได้ลดระดับสูงสุด และลดระดับต่ำสุดลงอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อในระดับจำกัด และแสดงให้เห็นถึงแรงขายที่เพิ่มสูงขึ้น แต่จะเห็นได้ว่าการปรับตัวลงครั้ง ล่าสุดของราคาทองคำในช่วงสิ้นสุดไตรมาส 1 พบว่าราคาไม่หลุดระดับต่ำสุดของปีนี้บริเวณ 1,676 ดอลลาร์สะท้อนแรงซื้อที่เข้ามาพยุงราคาทองคำเอาไว้เช่นกัน”
ดังนั้นหากในไตรมาส 2 ราคาทองคำยังคงทรงตัวรักษาระดับเหนือแนวรับดังกล่าวได้ อาจเกิดการฟื้นตัวกลับเพื่อทดสอบกรอบแนวต้าน อย่างไรก็ดี Upside ของราคาทองคำจะขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานเป็นสำคัญ หากไม่มีปัจจัยพื้นฐานใหม่ๆเข้ามาหนุน การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำอาจยังคงอยู่ในกรอบจำกัด และการปรับตัวขึ้นจะถือเป็นโอกาสที่ดีในการขายทำกำไร
อย่างไรก็ดีทิศทางในระยะกลางจะเป็นบวกมากขึ้น ก็ต่อเมื่อราคาสามารถทะลุผ่านบริเวณ 1,900 ดอลลาร์ ซึ่งเป็น Downtrend Line สีแดงเส้นบนสุดขึ้นไปได้ ซึ่งจะกระตุ้นแรงซื้อทางเทคนิคในราคาทะยานขึ้นต่อไปได้
ส่วนกรอบการลงทุนระยะสั้นและกลางนั้น ราคาทองคำรายสัปดาห์: จะมีแนวรับ 1,676 ดอลลาร์ หรือบาทละ 24,750 บาท และ1,643 ดอลลาร์ หรือบาทละ 24,300 บาท ขณะที่แนวต้าน จะอยู่ที่ 1,759 ดอลลาร์ หรือบาทละ 26,050 บาท และ1,794 ดอลลาร์ หรือบาทละ26,550บาท
- Advertisement -
ส่วนกรอบราคาทองคำรายวัน: แนวรับ จะอยู่ที่ 1,704 ดอลลาร์ หรือบาทละ 25,200 บาท และ 1,676 ดอลลาร์ หรือบาทละ24,750 บาท ส่วนแนวต้าน จะอยู่ที่ 1,738 ดอลลาร์ หรือบาทละ 25,700 บาท และ 1,759 ดอลลาร์ หรือบาทละ26,050 บาท โดยราคาดังกล่าวคิดจากค่าเงินบาทที่ 31.24 บาทต่อดอลลาร์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG กล่าว กล่าวเพิ่มเติมว่าเพราะทิศทางราคาทองคำในระยะสั้นเคลื่อนไหวผันผวนออกด้านข้างในกรอบ Sideway สีน้ำเงิน ในขณะที่ระยะกลางราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway Down (Downtrend Line สีแดง) เช่นเดิม จึงมองว่าตราบใดที่ราคายังไม่ทะลุกรอบ Sideway Down ในระยะกลาง ราคายังมีโอกาสปรับฐานต่อ
“ดังนั้นยังเน้นกลยุทธ์ขึ้นขาย-ลงซื้อ โดยเน้นลงทุนระยะสั้นเป็นหลัก การดีดตัวของราคาจะเป็นจังหวะที่นักลงทุนขายทำกำไร ขณะที่การเข้าซื้อนั้นแนะนำรอการอ่อนตัวลงของราคา แล้วเข้าซื้อ เมื่อราคาไม่หลุดกรอบล่างของกรอบ Sideway สีน้ำเงิน และกรอบ Downtrend Line สีแดง พร้อมตั้งขาดทุนประกอบการลงทุนทุกครั้ง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG กล่าว
ที่มา : goldaround.com
- Advertisement -