ราคาทองวันนี้ ข่าวทองคำ

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 2 ก.ค.64 by MTS, SCT, HGF, GT

641

- Advertisement -

โดย  : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)

ทิศทางราคาทองคำ

ทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องไปทำสูงสุดของวันบริเวณ 1,782 เหรียญโดยประมาณ ก่อนจะมีแรงเทขายกลับมาปิดบริเวณ 1,775 เหรียญโดยประมาณ ท่ามกลางตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯปรับตัวลดลง 51,000 ราย แตะ 364,000 ราย ซึ่งเป็นต่ำสุดตั้งแต่ 14 มี.ค. 2020 ขณะที่ข้อมูลภาคการผลิตค่อนข้างทรงตัว ด้านดัชนีดอลลาร์กลับมาปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจาก 92.25 จุด ก่อนปิด 92.52 จุด จึงกดดันทำให้เงินบาทอ่อนค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่พยายามทรงตัวที่ 32.05 บาท/ดอลลาร์ และวันนี้ปรับขึ้นมาแถว 32.17 บาท/ดอลลาร์ หรือทำ New High ต่อเนื่อง จากสภาวะ Covid-19 ในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 61 ราย และมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 6,087 ราย ในส่วนของข้อมูลสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ จ้างงานสหรัฐฯคืนนี้ คาดว่าจะออกมาที่ 725,000 ตำแหน่ง  ขณะที่อัตราว่างงานคาดออกมาดีขึ้นเช่นกัน โดยคาดจะเห็นอัตราว่างงานลดลงมาที่ 5.6% และตัวเลขอื่นๆในภาพรวมคาดว่าดีขึ้น จึงน่าจะกดดันทองคำในทิศทางขาลงได้ ท่ามกลางกองทุน SPDR เมื่อวานนี้ทำการเทขายทองคำออกมา 2.62 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,043.16 ตัน

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในทางเทคนิคทองคำเคลื่อนไหว Sideways โดยพยามยามที่จะปรับตัวสูงขึ้น สำหรับวันนี้คาดว่าทองคำจะมีแนวรับ 1,760 เหรียญ และแนวต้าน 1,790 เหรียญ โดยต้องจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯคืนนี้เป็นสำคัญ ในส่วนของ Gold Online Futures คาดจะมีแนวรับ 1,760 เหรียญ และแนวต้าน 1,790 เหรียญ เช่นเดียวกับ Gold Comex อย่างไรก็ดี คาดว่าทองคำไทยเช้านี้คาดจะเปิดตลาดได้ 100 – 150 บาท/บาททองคำโดยประมาณ

- Advertisement -

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แนะเล่นสั้นๆในกรอบ พยายามลดสถานะก่อนทราบข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯในคืนนี้

– นักลงทุนที่ถือ Long Position 

เล่นสั้นในวัน พยายามหาจังหวะลดสถานะเพื่อปรับพอร์ตการลงทุนให้สมดุลก่อนทราบ Non-Farm Payrolls

– นักลงทุนที่ถือ Short Position

แนะนำให้หาจังหวะลดสถานะเพื่อปรับพอร์ตการลงทุนให้สมดุลก่อนทราบข้อมูลแรงงานสหรัฐฯคืนนี้

Gold Futures 10Q21 จะมีแนวรับที่ระดับ 27,090 บาท และแนวต้านที่ระดับ 27,300  บาท

โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด

คำแนะนำ   :   ทองรีบาวด์แต่ยังผันผวน คืนนี้ลุ้นจ้างงาน NFP ออกหน้าไหน แนะรอย่อซื้อดีกว่า
 
แนวรับ 1763/ 1755/ 1750   แนวต้าน 1784|1790|1795
              Gold/silver           USD                       Baht        DOW (stock)
ระยะสั้น   SW/SW UP    SW/DOWN                SW          SW UP
ระยะกลาง  SW                         SW                      SW         SW UP
ระยะยาว NEUTRAL  BULLISH  NEUTRAL BULLISH

คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS  1758-90

จุดเข้า BUY 1745-60
เป้าหมาย 1800-20
SL 1730
รายสัปดาห์

คำแนะนำรายเดือน 1700-1900

จุดเข้า BUY 1740-60 เป้าหมาย 1850-1900
SL 1700

บทวิเคราะห์ : ทองโลกรีบาวด์แต่ยังกล้าๆกลัวๆเนื่องจากรอทราบตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯ( NFP) คืนนี้ที่คาดว่าจะดีขึ้นกว่าเดือนก่อนและจะกดดันราคาทองลง ภาพรวมทองเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นมาก ถ้าวันนี้ลงไม่แรงก็เตรียมตัวรีบาวด์ต่อ คาดว่าช่วงนี้ราคาอาจผันผวนลงๆขึ้นๆ

กลยุทธ์ : จึงแนะย่อซื้อขึ้นขายไปก่อน โดยถึงแม้จะย่อก็ไม่น่ากลัวเพราะทองเริ่มตั้งฐานได้เพียงแต่รอข่าวดีเข้ามาดันราคาเทส $1800 หากยังไม่มีข่าวดีราคาทองก็ยังแกว่งในกรอบผสมความผันผวนค่าเงินบาทให้พอเล่นสั้นๆได้ คาดว่าคืนนี้ตลาดจะแกว่งแรงก่อนวันหยุดยาวจนวันจันทร์ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐฯ นักลงทุนระยะกลางให้ซื้อเก็บช่วงย่อตัวเช่นเดิมต่อไป

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองคำปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2

คืนนี้ 1 ทุ่มครึ่งติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ

ทองคำคาดผันผวนตามการจ้างงานของสหรัฐ

  • ราคาทองคำเมื่อวานSpot ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2เนื่องจากมีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาอย่างหนัก อย่างไรก็ดีทองคำมีปัจจัยกดดันจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เนื่องจากสหรัฐประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์อยู่ที่ระดับ 364,000 รายลดลงมากกว่าตลาดคาดจะอยู่ที่ระดับ 388,000 รายทางด้าน SPDRGold Trust ขายทองคำ 2.62 ตันเมื่อวาน
  • คืนนี้ 1 ทุ่มครึ่งติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนมิ.ย. ซึ่งตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 700,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 559,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้ในกรณีที่ตัวเลขออกมาดีกว่าหรือแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้จะกระทบต่อราคาทองคำ ถ้าออกมาดีกว่าตลาดคาด ราคาทองคำจะลดลง แต่ถ้าออกมาแย่กว่าตลาดคาด ราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นส่วนอัตราการว่างงานเดือนมิ.ย. ตลาดคาดจะลดลงเป็น 5.6% จากระดับ 5.8% ในเดือนพ.ค.
  • แนวโน้มราคาทองคำคาดผันผวนตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐโดยทองคำมีแนวรับ 1,760 ดอลลาร์ และแนวรับสำคัญที่ 1,750 ดอลลาร์ ซึ่งถ้าหลุดแนวรับดังกล่าวคาดจะมีแรงเทขายหนักและทำให้ราคาทองคำปรับลงแรง ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,780 ดอลลาร์ และ 1,790 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,776.40+6.61,760/1,7501,780/1,790

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
26,900+20026,700/26,55026,950/27,050

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
27,150+6026,850/26,70027,110/27,220

แนะนำปรับกลยุทธ์การลงทุนตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในคืนนี้เป็นหลัก โดยแนะนำเปิดสถานะขายถ้าราคาทองคำ Spotหลุดแนวรับ1,750ดอลลาร์ (GF 26,700บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,760ดอลลาร์ (GF 26,820บาท)ส่วนการเข้าซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวแนะนำที่ราคาทองคำ Spot1,750 ดอลลาร์ (GF26,700บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,740ดอลลาร์ (GF 26,580บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,780.30+2.001,763/1,7531,783/1,793

แนะนำเปิดสถานะขายถ้าราคาGOU21หลุดแนวรับ1,753ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,763ดอลลาร์ ส่วนการเข้าซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวแนะนำที่ราคาGOU211,753ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,743ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดอ่อนค่าลง ซึ่งเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก เนื่องจากสหรัฐประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์อยู่ที่ระดับ 364,000 รายลดลงมากกว่าตลาดคาดจะอยู่ที่ระดับ 388,000 รายทั้งนี้เงินบาทยังขึ้นอยู่กับการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดในประเทศด้วย สำหรับ USD Futures เดือนก.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 31.90 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 32.10-32.15บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ:ดอลล์แข็งค่ารับข้อมูลศก.สดใสตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (1 ก.ค.) หลังสหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้วขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันงนี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.18% แตะที่ 92.5993 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดบวก $5.2 วิตกไวรัสเดลตาหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (1 ก.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาเป็นปัจจัยหนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 5.2 ดอลลาร์หรือ 0.29% ปิดที่ 1,776.8 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 9.4 เซนต์หรือ 0.36% ปิดที่ 26.1 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดพุ่ง $1.76 รับคาดการณ์โอเปกพลัสชะลอเพิ่มการผลิต

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 75 ดอลลาร์เมื่อคืนที่ผ่านมา (1 ก.ค.) ขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสอาจจะเพิ่มกำลังผลิตน้อยกว่าที่คาดหมายไว้ก่อนหน้านี้โดยกลุ่มโอเปกพลัสได้เลื่อนการประชุมระดับรัฐมนตรีออกไปเป็นวันศุกร์ที่ 2 ก.ค. เพื่อให้ประเทศสมาชิกมีเวลามากขึ้นในการหารือกันเกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมันสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.76 ดอลลาร์หรือ 2.4% ปิดที่ 75.23 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2561   สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.22 ดอลลาร์หรือ 1.6% ปิดที่ 75.84 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดบวก 131.02 จุดรับแรงซื้อหุ้นพลังงาน-ข้อมูลแรงงานสดใส

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนที่ผ่านมา (1 ก.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมานอกจากนี้ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันWTI พุ่งขึ้นทะลุแนว 75 ดอลลาร์/บาร์เรลขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,633.53 จุดเพิ่มขึ้น 131.02 จุดหรือ +0.38% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,319.94 จุดเพิ่มขึ้น 22.44 จุดหรือ +0.52% ดัชนีNasdaqปิดที่ 14,522.38 จุดเพิ่มขึ้น 18.42 จุดหรือ +0.13%

เวิลด์แบงก์อัดฉีดเงิน4พันล้านดอลล์จัดซื้อวัคซีนโควิดแจก51ประเทศทั่วโลก

ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ประกาศจัดหาเงินมูลค่ากว่า4พันล้านดอลลาร์เพื่อดำเนินการซื้อและแจกจ่ายวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19ให้กับ51ประเทศทั่วโลกโดยครึ่งหนึ่งของเม็ดเงินดังกล่าวจะถูกจัดสรรให้กับประเทศในทวีปแอฟริกาแถลงการณ์ของเวิลด์แบงก์ระบุว่าเงินกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวน4พันล้านดอลลาร์นั้นมาจากสมาคมเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (IDA) ซึ่งเป็นกองทุนของเวิลด์แบงก์ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือกลุ่มประเทศยากจนโดยการจัดหาเงินทุนครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของคำมั่นสัญญาที่เวิลด์แบงก์ตั้งใจจะช่วยเหลือบรรดาประเทศที่มีรายได้ต่ำจนถึงปานกลางอีกทั้งให้คำมั่นว่าจะช่วยแจกจ่ายวัคซีนและเสริมสร้างระบบสาธารณสุขให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้นทั้งนี้เวิลด์แบงก์ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลของประเทศต่างๆรวมทั้งบริษัทเวชภัณฑ์และองค์กรต่างๆเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดซื้อวัคซีนและจัดส่งวัคซีนเพื่อช่วยเพิ่มความโปร่งใสและสร้างฐานข้อมูลสาธารณะที่แข็งแกร่งขึ้นทั้งในแง่ของการทำสัญญาทางเลือกและข้อตกลงเกี่ยวกับวัคซีนซึ่งครอบคลุมถึงการทำข้อตกลงในการให้เงินช่วยเหลือและจัดส่งวัคซีนนอกจากนี้เวิลด์แบงก์ยังได้เรียกร้องให้ประเทศต่างๆที่มีวัคซีนอยู่มากจนเกินความจำเป็นนั้นช่วยบริจาควัคซีนให้กับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเพื่อสนับสนุนแผนการเข้าถึงวัคซีนอย่างเท่าเทียมกันสำหรับ51ประเทศที่จะได้รับความช่วยเหลือจากเวิลด์แบงก์ในครั้งนี้รวมถึงอัฟกานิสถานบังกลาเทศกัมพูชาฟิลิปปินส์ปากีสถานอินโดนีเซียสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกเอลซัลวาดอร์กานาซูดานตูนิเซียเยเมนและยูเครน

ผลศึกษาวัคซีนแอสตร้าฯ1โดสสร้างภูมิคุ้มกันอย่างน้อย1ปีหากฉีดเข็ม3ป้องกันได้3สายพันธุ์

แอสตร้าเซนเนก้าเผยผลการวิเคราะห์ย่อยจากการทดลองใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19ของแอสตร้าเซนเนก้าในการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดพบว่าสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ในระดับสูงทั้งจากการเว้นระยะการฉีดวัคซีนโดสแรกและโดสที่2เป็นระยะเวลากว่า45สัปดาห์และการฉีดวัคซีนโดสที่3เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันศาสตราจารย์เซอร์แอนดริวเจพอลลาร์ดหัวหน้าฝ่ายสืบสวนและผู้อำนวยการกลุ่มวัคซีน (Oxford Vaccine Group) แห่งมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดกล่าวว่าประเทศที่ยังมีวัคซีนป้องกันโควิด-19ในปริมาณน้อยและอาจกำลังกังวลต่อความล่าช้าในการจัดหาวัคซีนโดสที่2สำหรับประชาชนในประเทศจะมั่นใจและลดความกังวลได้เพราะเราพบว่าแม้จะเว้นระยะห่างจากโดสแรกนานกว่า10เดือนวัคซีนป้องกันโควิด-19ของแอสตร้าเซนเนก้าโดสที่2ก็สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพจากผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดฉบับก่อนตีพิมพ์ในวารสารเดอะแลนเซตระบุว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19ของแอสตร้าเซนเนก้า1โดสมีผลทำให้ระดับแอนติบอดีในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นเป็นระยะเวลาอย่างน้อย1ปีการเว้นระยะในการฉีดวัคซีนวัคซีนป้องกันโควิด-19ของแอสตร้าเซนเนก้าโดสแรกและโดสที่2ห่างกันนาน45สัปดาห์มีผลกระตุ้นให้ระดับแอนติบอดีในร่างกายเพิ่มขึ้นถึง18เท่าเมื่อมีการอ่านค่าแอนติบอดี28วันภายหลังการฉีดวัคซีนโดสที่2พบว่าระดับแอนติบอดีจากการเว้นระยะระหว่างวัคซีนโดสแรกและโดสที่2นาน45สัปดาห์มีสูงกว่าระดับแอนติบอดีจากการเว้นระยะห่างระหว่างโดส12สัปดาห์ถึง4เท่าบ่งชี้ว่าการเว้นระยะห่างระหว่างโดสที่นานขึ้นไม่ก่อให้เกิดผลเชิงลบแต่ช่วยกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้นได้นอกจากนี้การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19ของแอสตร้าเซนเนก้าโดสที่3ห่างจากโดสที่2เป็นระยะเวลา6เดือนสามารถกระตุ้นระดับแอนติบอดีให้เพิ่มขึ้นได้6เท่าและส่งเสริมการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดที่เซลล์ในร่างกายอีกทั้งยังพบว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19ของแอสตร้าเซนเนก้าโดสที่3มีศักยภาพสูงขึ้นในการป้องกันไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์อัลฟา (B.1.1.7หรือสายพันธุ์เคนท์), สายพันธุ์เบตา (B.1.351หรือสายพันธุ์แอฟริกาใต้) และสายพันธุ์เดลตา (B.1.617.2หรือสายพันธุ์อินเดีย)

ญี่ปุ่นเล็งต่อเวลามาตรการคุมโควิดในโตเกียวอีก2สัปดาห์เหตุยอดติดเชื้อพุ่ง

แหล่งข่าวรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่ารัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาขยายเวลาบังคับใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในกรุงโตเกียวต่อไปอีก2สัปดาห์หรือนานกว่านั้นเนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงพุ่งสูงขึ้นและเหลือเวลาอีกเพียงไม่ถึง1เดือนก่อนการแข่งขันกีฬาโตเกียวโอลิมปิกจะเริ่มขึ้นปัจจุบันรัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศภาวะกึ่งฉุกเฉินในพื้นที่กรุงโตเกียวและจังหวัดใกล้เคียง3จังหวัดจนถึงวันที่11ก.ค.นี้อย่างไรก็ดียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19รายใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้ได้ทำให้หลายฝ่ายต้องการใช้มาตรการควบคุมต่อไปซึ่งอาจส่งผลต่อจำนวนผู้เข้าชมการแข่งขันแหล่งข่าวยังระบุด้วยว่ามีความเป็นไปได้ว่ารัฐบาลจะประกาศภาวะฉุกเฉินเต็มที่ในกรุงโตเกียวโดยขึ้นอยู่กับข้อจำกัดของระบบสาธารณสุขทั้งนี้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกรุงโตเกียวเมื่อวานนี้อยู่ที่714รายซึ่งสูงที่สุดในรอบ1เดือนแหล่งข่าวคาดว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะประกาศผลการพิจารณาในวันที่8ก.ค.นี้ซึ่งนายโทมัสบาคประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) มีกำหนดการเดินทางมายังญี่ปุ่น

โดย  : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

Fundamental

  • OPEC+ขยายเวลาประชุมหารือเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันสำหรับครึ่งปีหลัง เพราะสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กับรัสเซีย ซึ่งเป็นแกนนำฝั่ง OPEC กับ non-OPEC มีความเห็นขัดแย้งกัน จึงมีการคาดการณ์กันว่าอาจจะปรับเพิ่มกำลังผลิตต่ำกว่าที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้า แม้ว่าซาอุฯจะอยู่ฝ่ายที่เห็นพ้องกับรัสเซียในการเพิ่มการผลิตอีกวันละ 4 แสนบาร์เรลก็ตาม
  • 130ชาติเดินตามสหรัฐฯ เตรียมปรับภาษีขั้นต่ำของกิจการเป็น 15% เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เท่าเทียมกัน

Technical

  • รูปซ้ายราคาขึ้นมายืนเหนือ 1,773ได้สำเร็จ เป็นสัญญาณว่าขาลงกำลังจะจบ แต่พลังของ bullish divergence ใกล้หมด จึงต้องลุ้นขึ้นไปใกล้ 1,800 ก่อนอ่อนตัวเพื่อเป็นสัญญาณว่าจะไม่หลุด 1,750
  • รูปขวาเมื่อวานทดสอบ1,775-1,780 แล้วอ่อนตัวก่อนกลับมายืนเหนือเส้น 1,773 ได้อีกครั้ง วันนี้ต้องเลือกว่าจะขึ้นไปแตะ 1,790-1,800 เพื่อจบขาลง หรือ จะหลุด 1,770 เพื่อลงไปหา 1,750-1,755 อีกรอบ
  • ทิศทางวันนี้อาจยื้อรออาทิตย์หน้า
  • จับจังหวะเล่นยังไง?ขึ้นแรงให้ขาย ลงหนักให้ซื้อ

Attention

  • วันนี้ผลประชุม OPEC+
  • ติดตามผลการเจรจาวงเงินเบิกจ่าย 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ ระหว่างพรรคเดโมแครตกับพรรครีพับลิกัน
  • เชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้ากำลังแพร่กระจายทั่วโลก หลายประเทศทยอยห้ามการเดินทางระหว่างประเทศ แม้ว่าได้รับการฉีดวัคซีนที่ประเทศต้นทางแล้วก็ตาม

ที่มา : gold.in.th ( 2 ก.ค.64)

- Advertisement -

Leave a Reply